มท.1 นำกำลังฝ่ายปกครอง ร่วมกับ ป.ป.ส.และตำรวจ สน.โชคชัย บุกทลายผับเถื่อน ลอบเปิดบริการไม่ได้รับอนุญาต ปล่อยลูกค้าอัพยา ตะลึงพบเอเย่นต์ขนยามาขาย ทิ้งยาอี ยาเค ยาบ้าและแฮปปี้วอเตอร์ เกลื่อนพื้น ตรวจฉี่นักเที่ยว 214 ราย พบมีสารเสพติด 122 ราย แจ้งข้อหาหนักเจ้าของ-ผู้ดูแล ชงสั่งปิด 5 ปี

เมื่อวันที่ 10ธันวาคม น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ช่วงเวลา 02.20 น.วันเดียวกันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์สัมพันธุรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สนธิกำลังร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส.พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 30 นาย และตำรวจ สน.โชคชัย บูรณาการเข้าจับกุมสถานบันเทิง“Sonic Club Bangkok” ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับดังกล่าว เนื่องจากการสืบสวนข้อมูลสถานประกอบการและสถานบันเทิงผิดกฎหมายทั่ว กทม.และต่างจังหวัด ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม พบว่าผับแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตประกอบการ และยังถูกใช้เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายลับ เข้าสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ความผิดในคืนวันที่ 9 ต่อเนื่อง10 ธันวาคมที่ผ่านมา กระทั่งพบการกระทำผิดจริง จึงเปิดปฏิบัติการจู่โจมเข้าตรวจค้นจับกุม ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในผับ ก็มีผู้ที่คาดว่าเป็นเอเย่นต์ยาเสพติดวิ่งกรูออกมา รวมทั้งพยายามพุ่งชนเจ้าหน้าที่ ก่อนจะเกิดการต่อสู้และจับกุมตัวไว้ได้3 คน ซึ่งค้นในตัวพบว่ามียาเสพติดหลายชนิด คาดว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย

นอกจากนี้ภายในร้านมีนักเที่ยว214 คน ซึ่งกำลังเต้นรำอย่างเมามัน เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ ก็พากันแตกฮือ โยนยาเสพติดทิ้งลงพื้นจนเกลื่อนกลาด และพยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้ทั้งหมดไม่สามารถหนีออกไปได้ จากนั้นจึงประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นสถานประกอบการทำการค้าลักษณะสถานบริการ ขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยวดื่มกิน เต้นรำ แต่ไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด ที่สำคัญคือปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติด โดยพบทั้งยาอี ยาเค ยาบ้า และยาแฮปปี้วอเตอร์ ที่เป็นยาเสพติดชนิดใหม่

สำหรับนักเที่ยว 214 คน เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 1 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน 7 คน ส่วนการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่ามีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง หรือมีสารเสพติดในร่างกาย 122 คน แยกเป็นชาย 76 และหญิง 46 คน ทั้งนี้ สำหรับผู้เสพจะพิจารณาให้เข้ารับการบำบัดและเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูต่อไป” น.ส.ไตรศุลีกล่าว

น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า จากปฏิบัติการดังกล่าว เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง ได้จับกุมเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยร้องทุกข์กล่าวโทษในความผิด 1.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 3.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และ 4.ปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบ เพื่อเสนอให้มีคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5ปี