“ชัชชาติ” เผย กทม.เตรียมร่วมกับกระทรวงพลังงาน หนุนเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถยนต์เก่ากว่า 1 ล้านคันวิ่งในกรุง เหตุปล่อย PM2.5 / ให้ตรวจร้านปิ้งย่าง! “เรื่องใหญ่ที่ดูไม่ใหญ่” ควบคุมปล่อยควันฝุ่นพิษ

วันที่ 12 ธ.ค. 2566 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงมาตรการควบคุมและการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 นั้นไม่ได้มีแค่ในกรุงเทพมหานคร แต่ในต่างจังหวัดก็เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละพื้นที่ ปัญหาจึงไม่ได้เกิดจากรถยนต์เท่านั้น กทม.พยายามทำงานแบบบูรณาการกับหน่วยอื่นๆ โดยกำลังจะร่วมกับกระทรวงพลังงานทำโครงการเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไส้กรอง โดยให้ส่วนลดเป็นแรงจูงใจสำหรับรถยนต์เก่า ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลอายุ 7 ปีขึ้นไป เพราะควันรถเป็นส่วนหนึ่งที่ปล่อย PM2.5 เนื่องจากเผาไหม้ไม่หมด ซึ่งรถประเภทนี้มีกว่า 1 ล้านคัน ที่วิ่งอยู่บนถนนในกทม. จริงๆ แล้วไม่ใช่หน้าที่ กทม.โดยตรง เราไม่สามารถไปบังคับให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ จึงได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องทำโครงการนี้+ขึ้น และหาความร่วมมือจากเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนุน เพราะกทม.ไม่สามารถใช้งบประมาณ มาให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ จุดหมายคือให้ PM2.5 ลดลง

ในส่วนของรถขสมก. ก็ประสานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เข้าไปตรวจควันดำถึงอู่รถเมล์ ทั้งนี้การตรวจควันดำถึงแม้ค่าจะไม่เกินแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ปล่อย PM2.5 แต่อย่างไรก็ดี จำนวนรถของ ขสมก. ก็เทียบไม่ได้กับจำนวนรถยนต์เก่าที่วิ่งอยู่เป็นหลักล้านคันในกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น การเผาชีวมวล การควบคุมรถที่เข้าไซต์ก่อสร้าง การตรวจสอบโรงงาน ซึ่งยังคงต้องทำอย่างเข้มข้นถึงแม้ในกทม.จะมีโรงงานไม่มากก็ตาม รวมทั้งฝุ่นที่ค้างอยู่ในอากาศซึ่งมาจากรถที่ปล่อยออกมาทำให้ในบางวันที่เป็นวันหยุดหรือไม่มีการจราจรคับคั่ง ก็ทำให้ค่าฝุ่น PM.25 สูงขึ้นได้

“อีกเรื่องที่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องใหญ่ คือ ร้านจำพวกปิ้งย่าง อาจไม่ได้มีผลในภาพรวมแต่มีผลเฉพาะพื้นที่ ซึ่งส่งผลให้มีค่าฝุ่น PM2.5 เพิ่มหนาแน่นขึ้น ก็ต้องไปดูว่าต้องควบคุมอย่างไร ต้องมีที่ดักควันอะไรหรือไม่ ไม่ได้ห้ามปิ้งย่าง แต่ต้องมีตัวดูดหรือเก็บควันก่อนปล่อยออกมา ไม่ใช่ปล่อยอิสระ เพราะหากช่วงที่อากาศปิดก็จะทำให้ฝุ่นเพิ่มสูงขึ้น” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว