กรมชลปักหลัก
เร่งระบายน้ำ
ป้องกัน‘สุโขทัย’
หลังน้ำยมทะลัก

“อรรถกร”ลงจ.สุโขทัย ตรวจจุดเสี่ยงน้ำท่วมลุ่มน้ำยม สั่ง กรมชลฯ เร่งระบายน้ำ เสริมแนวตลิ่ง รับมือมวลน้ำเหนือจากพายุ “วิภา” ป้องกันผลกระทบพื้นที่เกษตรและเขตเมือง

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับมวลน้ำลุ่มน้ำยม โดยเฉพาะน้ำยมสายหลักที่ไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัย พร้อมรับฟังการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ณ ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ ประตูระบายน้ำคลองหกบาท อ.สวรรคโลก จุดก่อสร้างสะพานรถไฟ (คลองยม-น่าน) อ.ศรีนคร จุดสะพานพระร่วง จุดเสี่ยงบริเวณคันแม่น้ำยมฝั่งขวา และประตูระบายน้ำ กม.22 อ.เมืองสุโขทัย

โดย นายอรรถกร กล่าวว่าปัจจุบัน สถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย อยู่ในช่วงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลากอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนหนักในพื้นที่ลุ่มน้ำยมตอนบนอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากลงสู่ลำน้ำอย่างรวดเร็ว โดยบริเวณประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก ได้มีการหน่วงน้ำไว้ทางตอนเหนือของประตู พร้อมระบายผ่านคลองหกบาท คลองยมน่าน แม่น้ำยมสายเก่า และแม่น้ำน่าน เพื่อชะลอยอดน้ำก่อนเข้าสู่เขตเมือง รวมทั้งควบคุมการระบายน้ำผ่าน ปตร.บ้านหาดสะพานจันทร์ ลงสู่แม่น้ำยมสายหลักอย่างระมัดระวัง เพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้ระดมกำลังพลนำกระสอบทรายมาเสริมแนวป้องกันริมตลิ่งแม่น้ำยม โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบเพิ่มเติม พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำอีกหลายจุดในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมถึงนำเครื่องจักรเครื่องมือเข้าไปกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ตักเศษซากวัชพืชที่ลอยมากับน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้นด้วย

“จากอิทธิพลของพายุวิภา (WIPHA) ที่ส่งผลให้ฝนตกหนักและมีปริมาณน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่พักอาศัย และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายหลายจุด จึงได้ลงพื้นที่ติดตามแนวทางการบริหารหารจัดการน้ำในพื้นที่สุโขทัย ที่จะเป็นพื้นที่รับน้ำต่อจากจังหวัดพะเยาและแพร่ ที่ปัจจุบันกำลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลทั้งในพื้นที่ภาคการเกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองสุโขทัย โดยมุ่งเน้นให้บริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ และเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมกำหนดแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนต่อไป” นายอรรถกร กล่าว

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน

อนึ่ง พายุโซนร้อน “ก๋อมัย” บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย