ปลัด มท.บรรยายพิเศษ"บทบาทหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย" ในการฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารระดับสูง มท.เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ เน้นย้ำหลักการ"ครองตน ครองคน ครองงาน" เป็นหัวใจของ"ผู้นำ" ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน
วันนี้ (13 ธ.ค.66) เวลา 15.00 น.ที่ห้องประชุมอัษฎางค์ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “บทบาทหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย” โดยมี ผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย จำนวน 32 คน ร่วมรับฟัง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องทุกท่านที่จะได้มีโอกาสก้าวหน้าและได้มีโอกาสในการทำสิ่งที่ดีเพื่อพี่น้องประชาชนและเพื่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อทำให้สถาบันนักปกครองของกระทรวงมหาดไทยได้มีศักดิ์มีศรีเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา และที่สำคัญที่สุดคือทำให้ทุกคนเห็นว่า "เรายังต้องมีอยู่" ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่พวกเรา จึงขอให้พวกเราช่วยกันคำนึงถึงสิ่งที่บรรพบุรุษของชาวมหาดไทยได้สอนไว้ว่า การจะเป็นเจ้าเมืองหรือผู้ปกครองที่ดีเราจะต้องรู้จัก "ครองคน ครองตน ครองงาน" และน้อมนำสิ่งที่บรรพบุรุษของเราได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และนำมาสอนเป็นข้อเตือนใจว่า "ไม่ว่าท่านจะรับราชการอยู่ที่ใด ท่านจะต้องรู้จักภูมิประเทศหรือรู้จักภูมิสังคม" คือ รู้จักปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งวัฒนธรรมประเพณีความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงต้นว่า ผู้บริหารระดับสูงทั้งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องศึกษาให้รู้และเข้าใจในหลักการทำงานเริ่มจาก "ครองตน" ต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง เป็นที่รักและศรัทธาของประชาชนและผู้ใต้บังคับบัญชา "ครองคน" ทำงานหนัก ลงพื้นที่ร่วมกับทีมและภาคีเครือข่าย เพื่อจะได้มีข้อมูลเพื่อจะนำไปประยุกต์ใช้ให้ถูกต้อง และ "ครองงาน" การจะทำงานให้สำเร็จไม่ได้อยู่ที่เราคนเดียว แต่เราต้องเป็นผู้นำที่มีความสำคัญ ท่านผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ตรวจราชการ จึงต้องมีระบบการทำงานที่แสดงให้เห็นว่าตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยมีความศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่การทำตัวให้เป็นที่น่านับถือว่าตรวจงานเป็น ต้องมีการเตรียมตัวไปตรวจให้รู้อย่างถ่องแท้ และกลับมาเสนอแนะต่อผู้บังคับบัญชาให้ทำสิ่งที่ดี เช่นเดียวกันกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่ต้องทำหน้าที่เดียวกันกับผู้ตรวจราชการกระทรวง เพราะท่านต้องติดตามขับเคลื่อนงานนโยบายของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกมิติ หากท่านเอาใจใส่ในการตรวจติดตาม งานที่ทำก็จะสำเร็จได้ ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ตรวจราชการกระทรวงเป็นตำแหน่งหน้าที่ที่เหมือนกัน ที่ท่านต้องเอาใจใส่ในการที่จะครองงานให้เกิดความสำเร็จ
"กระทรวงมหาดไทยได้น้อมนำเอาแนวทางการทำงาน สรุปจากโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาใช้เป็น "จังหวัดบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน" คือ ไม่ว่าใครมาอยู่ในกระทรวงมหาดไทยและเป็นชาวมหาดไทยจะเข้าใจโดยอัตโนมัติว่า เป้าหมายในการทำงานของเรา คือ "ต้องการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน" ซึ่งแนวทางนี้ได้ถูกเขียนกำหนดไว้ให้กับเรามายาวนานนับตั้งแต่มีการสถาปนากระทรวงมหาดไทย เมื่อปี พ.ศ. 2335 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ท่านทรงปฏิรูปการปกครองเปลี่ยนการปกครองจากระบบจตุสดมภ์เป็นการบริหารราชการแผ่นดินแบบกระทรวง ทบวง กรม ให้มีความทันสมัยและเอื้อต่อการทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคง มีเอกราช และทำให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งคำว่า "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีของกระทรวงมหาดไทย ทรงบันทึกไว้เพื่อสอนให้เราชาวมหาดไทยได้นับถือเป็นพันธกิจ ตลอดระยะเวลามากกว่า 130 ปี เป็นจริงแท้แน่นอนและใช้ได้อยู่จนถึงปัจจุบัน จึงขอให้ทุกท่านจงภาคภูมิใจว่าคนไทยทุกคนเชื่อมั่นว่าผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้นำในการทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะไม่ใช่ฟังก์ชันการทำงานของเราโดยตรง แต่เราจะใช้ภาวะผู้นำเพื่อให้เกิด Change for Good เพราะทุกท่านมีทั้งตำแหน่งและการกระทำ รวมถึงแนวคิดที่จะทำสิ่งที่ดี นำไปสู่การปฏิบัติ ต่อเนื่องถึงการติดตามเพื่อจะให้งานที่เราทำได้เกิดความสำเร็จ" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปอีกว่า ตัวอย่างของผู้บริหารคนสำคัญ คือ ดร.คาซึโอะ อินาโมริ ผู้ก่อตั้งบริษัท Kyocera และผู้กอบกู้ Japan Airline สายการบินแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น จากการล้มละลายให้กลับมีกำไรและอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ท่านมีแนวทางการทำงานโดยให้ความสำคัญกับ "คน" เป็นสำคัญ หากคนมีหัวใจและมีทัศนคติที่ดี มีแรงปรารถนาว่าจะทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้น แม้ว่าบางคนอาจจะมีความรู้ความสามารถน้อย แต่หากมี "Passion" และมี "Attitude" ที่ดีก็จะเจอสิ่งที่ดี ซึ่งทั้งหมดเกิดจากตัวของเราที่จะต้องใช้ภาวะผู้นำไปกระตุ้นให้ทำสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับองค์กรและประเทศชาติของเรา ทำให้จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืนได้เกิดขึ้น โดยมีวิธีการทำให้สำเร็จ คือ มีทีมภาคีเครือข่าย ทั้ง 7 ภาคี อันได้แก่ ภาคราชการ ภาคเอกชน ภาคศาสนา ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ภาคประชาชน และภาคสื่อสารมวลชน ซึ่งทุกคนมาจากการมีจิตอาสา ดังนั้น ภาคีเครือข่ายที่เราใช้ต้องมีหัวใจร่วมด้วยกันขับเคลื่อนงานทุกงานของทุกกระทรวงเพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน
""การครองตน ครองคน ครองงาน" จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกท่านมีศักดิ์ในผู้นำเหนือกว่าหัวหน้าส่วนราชการอื่น ครอบคลุมในทุกบริบทของประชาชน เพราะเราทุกคนเป็นผู้นำ เปรียบเสมือนนายกรัฐมนตรีของจังหวัด หากท่านสามารถครองทั้งสามได้ดี ก็จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับสถาบันมหาดไทยและประเทศไทยของเราได้ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จที่จะช่วยส่งเสริมสถานะความรักความเลื่อมใสของพี่น้องประชาชน แม้ว่าภารกิจของท่านผู้ว่าฯ ผู้ตรวจฯ มีความรับผิดชอบมากมาย แต่หากเรา "มีใจอยากทำงานเพื่อประชาชน" เพราะงานทุกงานคืองานของเรา ทุกท่านต้องวางระบบการสนับสนุนและติดตาม ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ซึ่งเรามีระบบทั้งทางการ เช่น กรมการจังหวัด กรมการอำเภอ หรือไม่เป็นทางการ เช่น สภากาแฟ Morning brief เรามี TPMap ThaiQM ที่จะเป็นเครื่องมือให้ทุกท่านได้รับรู้ถึงความทุกข์ของประชาชน เรามีทีม 7 ภาคีเครือข่าย ทำงาน Flagship ตามความต้องการของคนในพื้นที่ แก้ไขปัญหาที่สะสม โดยใช้ภาวะผู้นำ สร้างความรักความสามัคคี เกิดเป็นทีมภาคีเครือข่าย มีจิตอาสาไปร่วมกันทำสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกท่านต้องมีความรอบรู้ และต้องลงมือทำด้วยความรวดเร็ว งานจะสำเร็จได้ต้องมีการติดตามเร่งรัด โดยต้องมาจากการทุ่มเทกายใจมุ่งมาดปรารถนาจะผลักดันขับเคลื่อนให้สำเร็จ ทั้งยังต้องรู้จุดอ่อนจุดแข็ง ปัญหาที่ประสบอยู่ หรือสิ่งที่ดีของพื้นที่ และที่สำคัญต้องมีกระบวนการร่วมพูดคุย ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ และร่วมรับประโยชน์ ซึ่งการจะทำให้สำเร็จอย่างยั่งยืนได้ ต้องดำเนินการ 4 กระบวนการอย่างเป็นประจำสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง เพราะคำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน ดังที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระราชทานมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่ในการทำให้เป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) โดยการสร้างภาคีเครือข่ายที่มีจิตอาสา ทำให้ทีมประจำอำเภอ หมู่บ้านมีความเข้มแข็ง และทำให้คนมหาดไทยภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นที่คุ้นเคยและเคารพรักของประชาชน
"ชีวิตของคนมหาดไทยขึ้นอยู่กับการเป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ การสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" จึงขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการทำงาน เป็นผู้ตรวจฯ ที่ขึ้นชื่อว่ามีดวงตาอย่างพญาอินทรี นำมาซึ่งความชื่นชมในการขับเคลื่อนงานของมหาดไทย หรือเป็นผู้ว่าฯ ที่นั่งอยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชน ที่ห้อมล้อมไปด้วยความชื่นชมและศรัทธา ขอฝากอนาคตของประชาชนและประเทศชาติ รวมถึงของกระทรวงมหาดไทยไว้ในมือของทุกคน และจงภาคภูมิใจในการเป็นข้าราชการของพระราชา ทำหน้าที่ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี