“ฝอยทอง” โปรตุเกส ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก สมัยที่ 2 ด้วยการดวลเป้าเอาชนะ “กระทิงดุ” สเปน 5-3 หลังเสมอกันในเวลาปกติ 2-2
เกมนี้ทั้งสองทีมต่างก็ปรับทัพบางตำแหน่ง โปรตุเกส ส่ง ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา แนวรุกดาวรุ่งลงสตาร์ทตัวจริง เช่นเดียวกับ วิตินญ่า ในแดนกลาง ส่วน สเปน ให้โอกาส ออสการ์ มินเกซ่า เล่นแบ็คขวา รวมไปถึง ฟาเบียน รุยซ์ ที่กลับมาคุมเกมตรงกลาง
เกมนี้ สเปน มาได้ประตูนำก่อนจาก มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ก่อนที่เพียง 4 นาที โปรตุเกส จะไล่ตีเสมอ 1-1 จาก เปโดร เนโต้ แต่ก่อนจบครึ่งแรกนาทีที่ 45 สเปน มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จาก มิเกล โอญาร์ซาบัล จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาทีที่ 61 โปรตุเกส มาได้ประตูตามตีเสมอ 2-2 จากความยอดเยี่ยมของ นูโน่ เมนเดส กระชากหนี ลามีน ยามาล เปิดแฉลบแนวรับคู่แข่ง แต่บอลไปเข้าทางปืนของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซัดโล่ง ๆ เข้าไป จบ 90 นาที เสมอ 2-2 ต้องไปลุ้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ไม่สามารถทำอะไรกันได้ต้องดวลจุดโทษ
ปรากฏว่า โปรตุเกส แม่นกว่าเฉือนเอาชนะไปได้ 5-3 โดยคนที่พลาดของ สเปน คือตัวสำรองอย่าง อัลบาโร่ โมราต้า ซัดไปติดเซฟ ดีโอโก้ คอสต้า คว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ไปครองเป็นสมัยที่ 2
ส่วนเกมรอบชิงอันดับสาม “ตราไก่” ฝรั่งเศส เอาชนะเจ้าภาพ “อินทรีเหล็ก” เยอรมัน 2-0 ได้ประตูจาก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และไมเคิ่ล โอลิเซ่ คว้าอันดับสามไปครอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี