"แม่น้องหยอด"ถือรองเท้ารอเผชิญหน้ากลุ่มเด็กช่างฆ่าลูก พร้อมสาปแช่ง ก่อนนั่งรองไห้กอดรูปลูกชาย ลั่นขอคัดค้านประกัน ให้ได้รับโทษสูงสุด 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.66  ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 13 ราย ออกมาจากห้องควบคุมผู้ต้อบหา เพื่อนำตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง ซึ่งผู้ต้องหาคนแรกที่เดินนำออกมา คือ นายชนัญชิต แสงจันทร์ หรือเป๊ปซี่

ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า เป๊ปซี่มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน จังหวะนั้น แม่ของน้องหยอด ที่ถอดรองเท้ารออยู่แล้ว ได้ตะโกนด่า   และสาปแช่งด้วยความอัดอั้นก่อนพยายามจะเอารองเท้าตีใส่กลุ่มผู้ต้องหา เป๊ปซี่ก็หันไปมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้โต้ตอบอะไร โดยมีตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็วคอยควบคุมสถานการณ์ ซึ่งแม่น้องหยอดยังตะโกนใส่ต่อเนื่องว่า“ทำเลวไม่ต้องปิดหน้า” “ไม่ต้องอาย” และบอกว่า ”ถ้าแม่มึงตาย มึงจะรู้สึก“

โดยผู้ต้องหาทั้งหมด ต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครพูดหรือตอบคำถามใดๆ ก่อนที่ตำรวจจะขับรถออกไป โดยมีตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว 20 นายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบด้านหลังรถเพื่อคุ้มกัน ป้องกันเหตุความไม่สงบ

จากนั้นแม่ของน้องหยอด ได้นั่งกอดรูปของลูกชายร่ำไห้ พร้อมเปิดเผยว่า จะขอเดินหน้าถึงที่สุด และขอคัดค้านการประกันตัว ให้ลูกต้องได้รับความยุติธรรม ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ก็ติดตามข่าวจากทางตำรวจเป็นระยะ พร้อมให้กำลังใจ ขอให้จับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว 

ทั้งนี้ เชื่อว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ แต่ตัวเองในฐานะครอบครัวผู้สูญเสีย ก็จะเดินหน้าให้ถึงที่สุดและอยากขอความยุติธรรมให้กับลูกชาย เพราะน้องมีความฝัน มีอนาคตที่ดี แต่น้องต้องมาเสียชีวิตจากคนพวกนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่กวาดล้างอย่างเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าคนพวกนี้ไม่มีจิตสำนึก และอยากให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุมองในทางกลับกันว่า หากเป็นคนในครอบครัวตัวเองเสียชีวิตจะรู้สึกอย่างไร ถ้าลูกชายตนไม่เสียชีวิต ก็ยังสามารถไปทำงาน ส่งเสียครอบครัวและเลี้ยงดูน้องชายอีกคนหนึ่งได้ 

แม่น้องหยอด บอกอีกว่า ส่วนตัวรู้สึกไม่เห็นด้วยที่กฎหมายคุ้มครองนักศึกษาและเยาวชน เพราะตัวเองเป็นครอบครัวผู้สูญเสีย แต่กลับต้องวิ่งหาความยุติธรรม แต่พวกที่ก่อเหตุกลับได้รับความคุ้มครอง