'ไอ้วิน'เปิดปากสารภาพนาทีโหดยิงครูเจี๊ยบ-น้องหยอดสำนึกผิดก้มกราบเท้าย่าลาไปชดใช้กรรมในคุก
วันที่ 21 ธันวาคม 2566 เวลา 06.00 น. ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล5 นำโดย พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมด้วยชุดสืบสวน คุมตัวนายอนาวิน แก้วเก็บ อายุ 20 ปี มือยิงครูเจี๊ยบ และน้องหยอดเสียชีวิต ออกจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ ไป ทำแผนประกอบรับสารภาพ
จุดที่ 1 บริเวณ หน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (ทีทีบี) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา ใกล้แยก ณ ระนอง ใกล้กับโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์
โดยนายวิน ได้ลงรถ มาชี้จุด คือจุดจอดรถจักรยานยนต์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดยิงประมาณ 5 เมตร
นายวิน ให้ข้อมูลว่า หลังจากลงรถก็ได้วิ่งเลาะริมฟุตบาท ติดตามกลุ่มของผู้เสียชีวิตไป
จากนั้น ไปชี้ จุดที่ลงมือยิง โดยผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลว่า ตนเองเล็งปืนกลุ่มของคู่อริไว้ แต่กระสุนนัดแรกพลาดไปโดนครูเจี๊ยบ ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 เมตร จากนั้นก็ได้หันมายิงน้องหยอดทางด้านหน้าจนล้มลง
หลังจากนั้นตัวเองได้วิ่งหนีมาขึ้นรถที่นายเลาะ ขี่มาจอดรอ แต่นายเลาะ คนขี่รถจักรยานยนต์ ได้บอกว่า ให้ยิงซ้ำ ตนเองจึงวิ่งกลับไปยิงน้องหยอดซ้ำอีกหนึ่งครั้งทางด้านหลัง จากนั้นได้วิ่งกลับมาที่รถพร้อมหลบหนีไปทางสี่แยกตลาดคลองเตย
จากนั้น ตำรวจคุมตัวต่อไปยังจุดที่ 2 เป็นจุดที่ นายวิน อ้างว่า ไปกินก๋วยเตี๋ยวในวันเกิดเหตุ 11 พ.ย. ที่ ซอย58/5 ถนนกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน ก่อนที่จะไปก่อเหตุ
จุดที่ 3 บริเวณ ซอย18 ถนนประชาสงเคราะห์23 แขวงดินแดง เป็นจุดที่ เวลา 22.00 น. ของวันที่ 10 พ.ย. ผู้ต้องหา ไปขโมยแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ละแวกนี้ แล้วนำมาสลับกับรถของตนเองก่อนไปก่อเหตุในวันถัดไป
จุดที่ 4 คุมตัวนายวิน ไปที่ บ้านพักแห่งหนึ่ง ใน ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี ซึ่ง เป็นจุดที่นายวิน กลับมาบ้านพร้อมกับอาวุธปืน แล้วได้นำค้อนปอนด์มาทุบปืนเพื่อทำลายหลักฐาน
โดยจุดที่บ้านพักนี้ นายวิน ได้ก้มกราบเท้าเพื่อขอขมา ย่าของตนเองด้วย
จุดที่ 5 บริเวณตำหนักเหนือ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนาย วิน ผู้ก่อเหตุ ได้ชี้จุด และให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้นำเศษอาวุธปืนที่ถูกทุบทำลาย มาทิ้งบริเวณท่าน้ำของวัดแห่งนี้ โดยได้ปาออกไปอย่างเต็มแรง ซึ่งจุดที่อาวุธปืนตกลงน้ำจะอยู่ห่างจากท่าน้ำประมาณ 10 เมตร
จุดที่ 6 ตำรวจคุมตัวนายวินไปต่อยัง จุดพ่นสี ต.โคกช้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจุดนี้ เป็นจุดที่ นายเลาะ และนายวิน ขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีมาหลังก่อเหตุ เพื่อมาพ่นสีรถ หมวกกันน็อก และรองเท้า บริเวณหญ้ารกร้าง เพื่อพรางตัว โดยเข้ามาจากถนน ประมาณ 50 เมตร ซึ่งนายวินให้การยืนยันว่า มาพ่นสีบริเวณจุดนี้หลังจากก่อเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์ต่อไปยัง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
จุดที่ 7 ในพื้นที่ อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ นายวิน ผู้ต้องหา พร้อมด้วยนายเลาะ ขี่รถจักรยานยนต์ ไปจอดทิ้งไว้ จากนั้นเปลี่ยนขึ้นรถกระบะ ไทรทัน โดยมีนายนพวุฒิ เรืองศรี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ไปรับ แล้วพาขับรถหลบหนีต่อไป อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เพื่อหลบหนีต่อไป
โดยจุดนี้ นายวิน ให้การว่า หลังจากเปลี่ยนสีรถที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็ขี่รถจักรยานยนต์ มาพักรอในป่าห่างจากถนน 300 เมตร และก่อนที่จะมาจอดรถเพื่อพักรอ ขณะที่มาพักรอ รถกระบะไทรทัน ก็จอดรถที่ ริมถนน และคนขับรถเดินเข้ามาหา จากนั้นก็ออกไปขึ้นรถ พร้อมกับรถจักรยานยนต์ แล้วมีผ้าคลุมออกไป รวมถึงยอมรับว่า รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ เคยนำมาจอดไว้ที่ในป่าแห่งนี้ เพื่อรอนำไปก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ติดสติ๊กเกอร์สีเหลือง แล้วพอเอารถไปก่อเหตุ ก็เอาสติ๊กเกอร์ออก เปลี่ยนเป็นสีแดงไปก่อเหตุ ก่อนจะเอาไปพ่นสีหลังก่อเหตุเป็นสีน้ำเงินเพื่อหลบหนีแล้วขี่มาที่นี่
นายวิน ยอมรับเลยว่า มีการวางแผนไว้แล้วล่วงหน้า และเคยมาดูสถานที่ไว้ก่อนก่อเหตุ รวมถึงยอมรับว่ามีการแบ่งหน้าที่กันทำด้วย
จุดที่ 8 บริเวณริมถนนแจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งจุดนี้ นายวิน ให้การอ้างว่า หลังจากหลบหนี ขึ้นรถกระบะไทรทัน จาก อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี รถกระบะก็มาจอดส่งตนเองบริเวณจุดนี้ จากนั้นตนเองก็ต่อแท็กซี่เพื่อกลับบ้านในช่วงเวลาประมาณตี 4 - ตี 5 ของวันที่ 12 พฤศจิกายน
จุดที่ 9 ที่บ้านเลขที่ 22 / 1 ซอยวงศ์สว่าง 19 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านที่กลุ่มผู้ต้องหามาเช่าพัก โดยนายอนาวินเล่าว่า ได้มาเช่าพักอยู่ที่บ้านหลังนี้นานแล้ว แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นแหล่งซ่องสุม ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ หรือความรุนแรงแต่อย่างใด ยืนยันสิ่งที่ตนเองก่อเหตุเป็นความแค้นส่วนตัวที่กลุ่มสถาบันคู่อริเคยยิงเพื่อนของตนเองเสียชีวิต จึงก่อเหตุเพราะความเคียดแค้น ไม่มีใครสั่งการยั่วยุปลุกปั่นแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าของบ้านก็ไม่ได้เป็นญาติหรือรู้จักกัน พร้อมกับกล่าวขอโทษญาติของน้องยอลและครูเจี๊ยบอีกครั้งกับสิ่งมี่ตนเองทำลงไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทำแผนที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำรวจสืบสวนนครบาลพานายนายอนาวิน ไปกราบเท้าขอขมาย่าของตนเอง ที่ทำให้เสียใจ เลี้ยงดูหลานได้ไม่ดี และกราบลาไปชดใช้กรรมในสิ่งที่ทำลงไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี