กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพิ่มการสนับสนุนสถานศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนทำงานใน 3 สาขา คือ สาขาเป้าหมายหลักของการพัฒนา ตามนโยบายผลักดันเศรษฐกิจและพัฒนาไปสู่เป้าหมายนโยบายประเทศ 4.0 ของรัฐบาล สาขาที่ขาดแคลนด้านสายอาชีพในท้องถิ่นจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด และอุตสาหกรรมซอฟต์ พาวเวอร์ 11 สาขา ที่ตอบโจทย์ของแต่ละพื้นที่ และด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและเทคโนโลยีดิจิทัล (STEM) เพื่อร่วมผลิตกำลังคนสายอาชีพ 2,500 คนในปี 2567 สถาบันการศึกษาสายอาชีพที่มีคุณสมบัติเสนอโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สามารถยื่นข้อเสนอโครงการผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.eef.or.th ตั้งแต่วันนี้- 9 มกราคม 2567
ผศ.ดร.ปานเพชร ชินินทร อนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับสูงกว่าภาคบังคับ กสศ. กล่าวว่า หลักสูตรและสาขาที่เปิดรับยื่นขอทุนในปีนี้ ประกอบด้วย สาขาที่หนึ่ง คือเป็นเป้าหมายหลักของการพัฒนาประเทศ ตามนโยบายผลักดันเศรษฐกิจและพัฒนาไปสู่เป้าหมายนโยบายประเทศ 4.0 ของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นหลักสูตรสมัยใหม่ ได้แก่ อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ (First-Curve) อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) อาทิ หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรมและเพื่อคุณภาพชีวิต อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์
สาขาที่สองคือ สาขาที่ขาดแคลนด้านสายอาชีพในท้องถิ่นจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด ซึ่งสถานศึกษาตั้งอยู่ในจังหวัดหรืออาจรวมถึงพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง โดยในปีนี้ได้เพิ่มเติมด้านอุตสาหกรรมซอฟต์ พาวเวอร์ 11 สาขาที่ตอบโจทย์ของแต่ละพื้นที่ด้วย เช่นสาขาวิชาคอมพิวเตอร์เกมและแอนิเมชั่นสาขาวิชาเทคโนโลยีแฟชั่น และเครื่องแต่งกาย สาขาวิชาธุรกิจความงาม สาขาวิชาเชฟอาหารไทย สาขาวิชาการธุรกิจการกีฬา สาขาวิชาเทคโนโลยีเซรามิก สาขาวิชาศิลปหัตถกรรมรูปพรรณเครื่องถมและเครื่องประดับ สาขาวิชาการถ่ายภาพและมัลติมีเดีย สาขาวิชาเครื่องประดับอัญมณี และสาขาที่สามด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและเทคโนโลยีดิจิทัล (STEM) ซึ่งเปิดหลักสูตรประกาศนียบัตร 1 ปี ได้แก่หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล สถานศึกษาที่ขอรับทุนต้องได้รับการรับรองจากสภาการพยาบาลอย่างน้อย 3 ปี และหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยทันตแพทย์ ซึ่งสถานศึกษาที่ขอรับทุนต้องได้รับการรับรองจากทันตแพทยสภา
น.ส.ธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ กสศ. กล่าวว่าการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงกสศ. ได้สร้างโอกาสให้เยาวชนจากครัวเรือนยากลำบาก ได้เรียนต่อสูงกว่าการศึกษาภาคบังคับในสาขาความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศและท้องถิ่นแล้ว ถึง 11,768 คน โดยกลุ่มนักศึกษาที่เรียนจบแล้วและเข้าทำงานในสถานประกอบการต่างๆ สามารถสร้างรายได้สูงกว่าพ่อแม่ถึง 4 เท่า มีรายได้หลักเฉลี่ยเดือนละ 12,000 บาท เยาวชนกลุ่มนี้เป็นคนแรกของครอบครัวที่หลุดพ้นจากความยากจนข้ามรุ่น
เรืออากาศโทสมพร ปานดำรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า 78% ของนักศึกษาทุนมีผลการเรียนที่มีระดับดีมากเกรดเฉลี่ย 3.00 ถึง 4.00 นักศึกษาทุนรุ่นแรกที่เรียนจบในระดับปวส. มีรายได้เฉลี่ย ถึง 10,800 บาทและมีรายได้เฉลี่ยสูงสุดถึง 32,000 บาทและเกิดความร่วมมือร่วมทุนกับภาคเอกชนผ่านการยกระดับคุณภาพเรื่องหลักสูตรที่ทันสมัยในสถานศึกษาได้แก่ อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารและโภชนาการแมคคาทรอนิกส์ การซ่อมบำรุงระบบรางเครื่องกลงานเชื่อมยานยนต์ไฟฟ้ายานยนต์สมัยใหม่มีการพัฒนามาตรฐานการฝึกงานมีการพัฒนามาตรฐานการจัดการศึกษาทวิภาคีการพัฒนาเครื่องมือในการเรียนการสอน การพัฒนาครูอาชีวศึกษาในสถานประกอบการ
“การทำงานร่วมกันระหว่างกสศ.และอาชีวะ มีความสอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพการศึกษาเต็มกำลังความสามารถอย่างมีกัลยาณมิตรต่อกันภายใต้แนวการทำงานจับมือไว้แล้วไปด้วยกันและเรียนดีมีความสุข โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรกำลังคนของประเทศหรือทุนมนุษย์” เรืออากาศโทสมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี