กระบะขน 30 แรงงานชาวเมียนมาแหกด่านตรวจอำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าพังยับ โชคดีแรงงานเถื่อนที่มากับรถบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนขับอาศัยความมืดหลบหนี ขณะที่แรงงานเถื่อนสารภาพหนีตายมาจากบ้านหลังมีการสู้รบกันหนักและอดอยาก หวังไปตายเอาดาบหน้าที่มาเลเซีย
วันที่ 5 ม.ค.67 พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิไล ผกก.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี, พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29 และผบ.หน่วยเฉพาะกิจ(ผบ.ฉก.)ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์, พ.อ.สุรเดช เมฆนุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์, พ.ต.ท.อรรถพล แพสอาด ผบ.ร้อย ตชด.134, นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี, พ.ต.ท.เมธี ธีระสวัสดิ์ สว.ตรวจคนเข้าเมืองกาญจนบุรี และ นายณัฐพัชร์ งามศิริโรจน์ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอสังขละบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจำนวนมากเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย โดยใช้เส้นทางเรือล่องมาตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชริลาลงกรณ จากนั้นจะมีคนขับรถกระบะคันสีดำมารับ ที่ริมน้ำเพื่อมุ่งหน้าไปตามถนนสาย 323 อำเภอสังขละบุรี-ทองผาภูมิ
ทางเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจสามแยกจงอั่ว หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ แคป สีดำ ทะเบียน กาญจนบุรี ขับมาจากทางด้านอำเภอสังขละบุรีมุ่งหน้าอำเภอทองผาภูมิ ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าวลักษณะตรงตามที่สายแจ้งมา เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุด เมื่อคนขับเห็นจึงชะลอรถท่าทางคล้ายจะจอด แต่เมื่อได้จังหวะกลับเร่งเครื่องแหกด่านตรวจไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังไล่ติดตามไป โดยรถกระบะคันดังกล่าวหนีไปไม่ไกลนักได้เกิดเสียหลักพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางอย่างแรงจนล้อหลุดหน้ารถพับยับเยิน ส่วนเสาไฟฟ้าเอนเกือบหักโค่น เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบแรงงานต่างชาวเมียนมาทั้งหญิงและชายนั่งเบียดแออัดกันมาเต็มคันรถ รวม 30 คน เป็นชาย 23 คน หญิง 7 คน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการเกิดอุบัติ 8 คน ส่วนคนขับได้อาสัญความมืดและความชำนาญเส้นทางวิ่งหลบหนีไปได้
ทางเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวแรงงานทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.สังขละบุรี ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎกหมาย โดยนายเซนอาแซน อายุ 20 ปี 1 ในแรงงานที่ถูกจับกุมตัวให้การว่าพวกตนพวกเป็นชาวเมืองยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยใช้เวลาเดินเท้ามาถึงอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา รวม 8 วัน จากนั้นมีชาวไทยนำพาลักลอบเข้ามายังฝั่งไทยที่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์
เมื่อข้ามมาได้ทุกคนได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ลักษณะกองทัพมด ไปลงที่ท่าจอดเรือหลังวัดวังก์วิเวการาม หมู่ 2 ต.หนองลู จากนั้นได้นั่งเรือล่องมาตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ไปขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำบ้านทิโคร่ง ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี เมื่อพวกตนทั้ง 30 คนขึ้นฝั่งก็มีคนขับรถกระบะมามาจอดรออยู่แล้ว ระหว่างนั่งรถเพื่อเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ก็มาถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจค้น คนขับได้พยายามหลบหนีและก็มาเสียหลักเกิดอุบัติขึ้นดังกล่าว ส่วนคนขับได้หลบหนีไปโดยทิ้งให้พวกตนติดอยู่ภายในรถและถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
ส่วนสาเหตุที่พวกตนตัดสินใจหนีออกจากเมืองยะไข่ ประเทศเมียนมา เพื่อมุ่งหน้าไปหางานทำที่ประเทศมาเลเซียนั้น เป็นเพราะว่าพวกเราไม่มีงานทำจึงมีความอดอยากมาก อีกทั้งสถานการณ์การสู้รบยิ่งรุนแรงมากขึ้น พวกตนจึงตัดสินใจหนีไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียโดยใช้เส้นทางผ่านประเทศไทย เพราะพวกตนคิดว่าหนีไปตายเอาดาบหน้าจะดีกว่าที่จะต้องทนอยู่ที่เมืองยะไข่ บ้านเกิด โดยเมื่อไปถึงประเทศมาเลเซียจะมีนายหน้ามารับอีกทอดหนึ่งพร้อมจะจ่ายเงินให้กับผู้นำพาพวกตนไปเอง คนละ 25,000-30,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแรงงานที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและหนุ่มสาว อายุน้อยสุดเพียงแค่ 14 ขวบ อายุมากสุด 33 ปีเท่านั้น ลักษณะรูปร่างหน้าตาคล้ายกับชาวโรฮิงญา ส่วนจะเป็นชาวโรฮิงญาจริงหรือไม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอยู่ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี