ค้นห้องเย็นนครปฐม

อายัดหมูเถื่อน69ตัน

ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช จับหมูเถื่อน กว่า 69 ตัน มูลค่าประมาณ 5,520,000บาท ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ส่วนตำรวจเข้ายึดเนื้อสัตว์ป่าสงวน-สัตว์ป่าคุ้มครองแช่เย็นผ่านขนส่งเอกชนในพื้นที่นครศรีธรรมราช พร้อมเร่งล่าพ่อค้ามาดำเนินคดี

นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช กระทรวงเกษตรฯ หน่วยเฉพาะกิจพญานาคสนธิกำลังร่วม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรม ปศุสัตว์ และกรมประมง กำลังพลกว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบห้องเย็นในพื้นที่จังหวัดนครปฐม โดยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชได้รับข้อมูลจากทางการข่าวว่ามีการลักลอบนำสินค้าปศุสัตว์ผิดกฎหมาย (หมูสามชั้น) เข้ามาในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม หน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชจึงได้ลงพื้นที่เฝ้าสังเกตการณ์ตั้งแต่ช่วงค่ำของ วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม 2567 กระทั้งถึงเช้าวันที่5 มกราคมที่ผ่านมา จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ ห้องเย็นที่ต้องสงสัย 3 แห่ง ของ บริษัท พี.พี. เฟรชพอร์ค ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม พบเนื้อสุกรแช่แข็ง จำนวน 69 ตัน ประกอบด้วย หมูสามชั้นแช่แข็ง 22 ตัน ยังไม่ทราบแหล่งที่มา และ 47 ตัน พบว่ามีใบอนุญาตเคลื่อนย้ายซากสุกรปลอม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอายัดและดำเนินคดีต่อเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทำผิด มารตรา 22 พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ซึ่งหน่วย ฉก.พญานาคราช

ทั้งนีจึงได้ดำเนินการอายัดของกลางจำนวน 69 ตัน เป็นเวลา 15 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง พร้อม แจ้งความดำเนินคดีต่อการกระทำความผิดดังกล่าว สืบสวนเพื่อขยายผลของเนื้อหมูดังกล่าวต่อไป

อีกคดีผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ นครศรีธรรมราช พลตำรวจตรีวัชรินทร์ พูลสิทธิ์ ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอกอภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผู้กำกับการ 5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ ปทส.เข้าติดตามสืบสวนกลุ่มผู้ค้าเนื้อสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หลังจากพบว่ามีการลักลอบล่าในพื้นที่ป่าแล้วชำแหละส่งขายผ่านระบบออนไลน์ สำหรับผู้นิยมเมนูเนื้อสัตว์ป่า โดยการสืบสวนพบว่ามีการส่งจำหน่ายโดยการแช่เย็นบรรจุในลังโฟมไปยังลูกค้าผู้สั่งซื้อผ่านขนส่งเอกชน

ซึ่งการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ค้าที่ถูกเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนติดตามได้รับคำสั่งซื้อและนำสินค้าที่ล่าได้ไปส่งเข้าระบบขนส่งกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองทุ่งสง นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบว่าได้คลาดกับผู้ส่งเพียงไม่นาน ส่วนของกลางได้ถูกส่งเข้าระบบแล้ว จึงแสดงตัวกับพนักงานขนส่งและแจ้งขอตรวจพัสดุต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งได้ให้ความร่วมมืออย่างดี เมื่อเปิดกล่องโฟมบรรจุน้ำแข็งแช่เย็นพบเนื้อสัตว์จำนวนมาก และเมื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจำแนกชนิดพบว่า มีซากสัตว์ป่าชนิดสัตว์สงวน คือเก้งหม้อ น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม เลียงผา น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ซากสัตว์ป่าชนิดสัตว์คุ้มครองผิดกฎหมาย กระจงเล็ก น้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม กวางป่า น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม เม่นใหญ่ น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม จึงแจ้งพนักงานเพื่อทำการตรวจยึด

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกตรวจยึดของกลางทั้งหมด และรวบรวมข้อมูลการส่งพัสดุจากระบบของบริษัทขนส่ง รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และยืนยันว่าผู้ส่งระบุเป็นอาหารโดยไม่ทราบว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบข้อมูลเพื่อเป็นพยานและชี้ตัวผู้ดำเนินการส่งเข้าระบบแล้วนำไปสู่การออกหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไปแล้ว