เหตุซ้ำซ้อน!‘ถนนมืด’ไม่มีไฟ จยย.พุ่งตกคลองชลประทานดับ1-กระบะเสียหลักเจ็บ2

เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ 7 มกราคม 2567 ร.ต.ท.กริชพล จูห้อง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ (จยย.) เสียหลักพุ่งตกคลองชลประทาน เสียชีวิต 1 ราย ขณะเดียวกันเกิดเหตุซ้ำซ้อน มีรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งตกคลองชลประทาน มีผู้บาดเจ็บ 2 รายในพื้นที่เดียวกัน บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน หมู่ 1 ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ๊วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) หน่วยกู้ชีพ รพ.ตรัง แพทย์เวร รพ.ตรัง ตำรวจสายตรวจตำบล และกำลังฝ่ายปกครองในพื้นที่

ที่เกิดเหตุพบรถ จยย. ตกอยู่ในน้ำที่มีความลึกประมาณ 1 เมตร สภาพพังเสียหาย ส่วนคนขับนอนแน่นิ่งจมน้ำเสียชีวิตติดอยู่กับตัวรถ ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อคือนายทัศนะ อายุ 40 ปี อยู่หมู่ 4 ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง อาชีพพนักงานห้างสรรพสินค้า เจ้าหน้าที่ได้นำร่างและรถขึ้นมาจากน้ำ พบผู้เสียชีวิตมีบาดแผลถูกกระแทกที่บริเวณศีรษะ ก่อนจะประสานญาติ และนำร่างไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดที่ รพ.ตรัง

ถัดออกไป 40-50 เมตร เป็นเหตุซ้ำซ้อน พบรถยนต์กระบะเสียหลักพุ่งลงในชลประทาน สภาพหัวรถพังยับเยิน มีคนขับและคนนั่งข้างเป็นแฟนกัน 2 ราย ทราบชื่อคือนายสิทธิชัย อายุ 26 ปี เป็นคนขับ และ น.ส.สุชาวดี อายุ 22 ปี คนนั่งข้าง อยู่หมู่ 10 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยเหลือนำตัวออกมาจากรถ ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่ง รพ.ตรัง

นายสิทธิชัย กล่าวว่า ตนขับรถกลับมาจากงานเลี้ยงปีใหม่ เพื่อจะเดินทางกลับบ้าน ที่เหลือเพียงแค่ไม่ไกลแล้ว เมื่อมาถึงก็ไม่ได้เห็นอะไร ก่อนจะพุ่งตกลงคลองชลประทาน

จากการสอบสวน ทราบว่า ถนนสายดังกล่าวมีความมืดเป็นระยะทางยาว ไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง และมีคลองชลประทานเลียบกับถนน และเพิ่งจะมีการปล่อยน้ำเข้าคลองชลประทานประมาณ 1 วัน โดยในช่วงเวลาประมาณ 00.10 น. ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้ยินเสียงดัง และมีเสียงสุนัขเห่า ห่างไปสักพักหนึ่งจึงรีบออกกันมาดู ปรากกฎว่าพบรถ จยย.พุ่งตกลงน้ำ ส่วนคนขับจมอยู่ในน้ำแล้ว และมีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ ทำให้มีชาวบ้าน ไทยมุงและรถที่ผ่านไปมาจอดดูเต็มถนน ประกอบกับรถยนต์กระบะคันที่เกิดเหตุซ้ำซ้อน ได้ขับผ่านมาพบเจอเหตุการณ์เข้าพอดี ได้เกิดเสียหลักพุ่งตกลงคลองชลประทานเป็นคันที่ 2 แต่โชคดีที่เหตุการณ์ซ้ำซ้อนมีเพียงแค่ผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

สำหรับถนนสายดังกล่าว ปัจจุบันมีผู้ใช้ขับสัญจรกับเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีบ้านเรือนประชาชนขยับขยายออกจากเมืองไปสร้างที่อยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมาก และมีการขับขี่กับด้วยความเร็ว แต่ปรากฏว่าถนนทั้ง 2 ฟากฝั่งมืดเป็นอย่างมาก ไม่มีไฟส่องสว่างแต่อย่างได และที่ผ่านมาเคยเกิดอุบัติเหตุในช่วงมืดค่ำเช่นนี้มาแล้วบ่อยครั้ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และสอบปากคำผู้บาดเจ็บและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

-005