สิบล้อบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ข้ามสะพานหนองคายไปฝั่งลาวชนแบริเออร์ด่านลาวแล้วขับวกกลับเข้าประเทศไทยหนีด่านตรวจ ตำรวจสกัดจับวุ่นจนมุมที่อุดร คนขับบอกขนยาบ้ามาเต็มคันรถ แต่พอเปิดตู้ตรวจเจอเป็นเหล็กกล่องสินค้าส่งฝั่งลาว เมียคนขับโร่บอกสามีป่วยจิตเวช กินยาไม่ต่อเนื่อง

เมื่อเวลาประมาณ 12.59 น.วันที่ 10 ม.ค.67 นายพัฒนพงศ์ ตันติวัฒนกุลชัย หัวหน้าฝ่ายบริการ ศุลกากรที่ 1 สำนักงานศุลกากรหนองคาย ได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ฝ่าด่านตรวจ ที่สะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ทั้งด้านฝั่งลาวและฝั่งไทย จึงประสาน พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย สกัดจับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและประสานพื้นที่ใกล้เคียง จนทราบพิกัดที่แน่ชัดและสามารถสกัดรถคันดังกล่าวได้ที่บ้านนาข่า ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี จากนั้นได้นำรถและคนขับมาที่สำนักงานศุลกากรหนองคายเพื่อทำการตรวจสอบ

โดยคนขับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ คือนายพิทยา อายุ 50 ปี ชาว จ.ชลบุรี อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งบอกว่าตนเองขับรถบรรทุกขนยาบ้ามาเต็มคันรถ จะนำเข้ากรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จับตรวจปัสสาวะไม่พบสิ่งสารเสพติด และเมื่อเจ้าหน้าที่เปิดตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งยังมีซีลของศุลกากรอยู่ครบ ก็พบว่าภายในเป็นเหล็กกล่อง จำนวน 27 ตัน ซึ่งเป็นสินค้าที่บริษัทส่งออกแจ้งกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคายเพื่อนำสินค้าประเภทเหล็กไปส่งลูกค้าที่ประเทศลาว ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด 

หลังจากเจ้าหน้าที่ให้นายพิทยา สงบสติอารมณ์แล้วและได้ติดตาม นางสาวพรรษา อายุ 40 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ ภรรยาของนายพิทยา ซึ่งพักรอกับลูกสาวอยู่ที่รีสอร์ทใกล้ด่านพรมแดนฯ มาพบ ทราบว่านายพิทยา มีอาการป่วยจิตเภท ต้องกินยารักษาแต่คาดว่าจะไม่ได้กินยาต่อเนื่อง เพราะเดินทางขับรถตลอด และมีพี่ชายซื้อยามาให้กินเอง ไม่ได้เข้ารับการรักษาที่ถูกต้องของทางโรงพยาบาล ทุกครั้งตนจะนั่งรถไปเป็นเพื่อน แต่ในครั้งนี้เอาลูกสาวมาด้วย ไม่มีเอกสารเดินทางของลูก จึงรออยู่ที่ฝั่งไทย ให้นายพิทยา ส่งของที่ฝั่งลาวเสร็จจึงจะเดินทางกลับแหลมฉบังด้วยกัน

ทั้งนี้จากการตรวจสอบ รถคันดังกล่าวได้ไปตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกเหล็กที่แหลมฉบัง เดินทางมาทำเอกสารผ่านแดนกับศุลกากรหนองคาย แล้วนำข้ามประเทศไปส่งให้กับลูกค้าที่ฝั่งลาว แต่ในครั้งนี้หลังจากทำเอกสารเสร็จ ผ่านแดนไทยไปแล้ว นายพิทยา ได้ขับรถชนแบริเออร์ที่ฝั่งลาว คาดว่าจะตกใจจนเครียด เพราะทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ประเทศลาว ด้วยความกลัวจึงกลับรถทั้งที่ยังมีเหล็กเต็มคัน กลับเข้าประเทศไทยและไม่ยอมจอดที่ด่านศุลกากร หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งโรงพยาบาลหนองคายเพื่อวินิจฉัยอาการป่วยทางจิต ส่วนในทางคดีจะมีความผิดต่อตรวจคนเข้าเมืองหนองคายในการควบคุมยานพาหนะไม่แสดงรายการทั้งบุคคลและยานพาหนะ ด้านศุลกากรจะมีความผิดเกี่ยวกับการไม่รายงานพิธีการศุลกากรขาเข้า ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นที่ฝั่งลาวจะมีการแจ้งกับบริษัทที่เกี่ยวข้องให้ทราบอีกครั้ง - 003