สตม.ขยายผลตะครุบอินเดียโอเวอร์สเตย์ ลอบปล่อยกู้คิดดอกเดือนละร้อยละ25
11 มกราคม 2567 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 สั่งการให้หน่วยในสังกัด สตม. ดำเนินการปราบปรามกลุ่มคนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รับผิดชอบกลุ่มเงินกู้นอกระบบ และกลุ่มขบวนการเครือข่ายลักลอบขนคนต่างด้าว โดยให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมคนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในราชอาณาจักร
ต่อมา พ.ต.อ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.ตม.จว.นนทบุรี , พ.ต.ท.เศรษฐพงศ์ ชูเมือง รอง ผกก.ตม.จว.นนทบุรี สั่งการให้ติดตามสืบสวนจับกุมกลุ่มชาวอินเดียต่างด้าวที่มีการปล่อยเงินกู้เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด โดย พ.ต.ต.ภาคย์ ศรีวนิชย์ สว.ตม.จว.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.นนทบุรี ได้สืบสวนติดตามจนทราบว่าพฤติการณ์ของกลุ่มชาวอินเดียปล่อยเงินกู้จะขับขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) ตระเวนไปตามตลาดร้านค้า แล้วเข้าพูดคุยติดต่อเสนอเงินให้กู้ยืม พร้อมคิดดอกเบี้ยเกินอัตรา มีเงื่อนไขให้ผู้ที่กู้เงินต้องส่งดอกเบี้ยเงินสดรายวัน
ทางเจ้าหน้าที่ ตม.จว.นนทบุรี จึงได้ติดตามและพบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ และติดตามมาถึงที่หอพักที่ชายอินเดียเข้าพักอาศัย พบเห็นรถจักรยานยนต์เป้าหมายจอดหน้าตึก จึงเฝ้าซุ่มดูพบเห็นและทำการจับกุมตัว Mr.A (นามสมุติ) อายุ 39 ปี สัญชาติ อินเดีย และดำเนินคดีในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการสิ้นสุด (OVERSTAY 2,366 วัน)
จากการสืบสวนพบว่าพฤติการณ์ของชายชาวอินเดียรายนี้ ซึ่งอยู่เกินกำหนดเป็นระยะเวลากว่า 6 ปี น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแขกปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง จากนั้นได้ขยายผลเพื่อหากลุ่มขบวนการอินเดียปล่อยเงินกู้ดังกล่าว
ต่อมาพบผู้เสียหายเป็นหญิงชาวไทย ประกอบอาชีพแม่ค้าขายของในตลาด ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ว่า ได้กู้ยืมเงินกับชายต่างด้าวสัญชาติอินเดีย จำนวนยอดเงิน 3,000 บาท ไม่มีเอกสารการทำหลักฐานการกู้ยืมเงิน โดยตกลงชำระหนี้รายวัน วันละ 150 บาท เป็นจำนวน 24 วันต่อเนื่องกัน รวมต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย รวม 3,600 บาท คิดเป็นร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน , ร้อยละ 25 ต่อเดือน หรือร้อยละ 300 ต่อปี และตกลงกู้เงินได้มีการหักดอกเบี้ยล่วงหน้า และต่างด้าวผู้ให้กู้ ได้เรียกเก็บเงินสดใช้หนี้รายวัน หรือให้โอนเงินใช้หนี้ เข้าบัญชี MR.B (นามสมมุติ) จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อทำการจับกุมตัว
ต่อมาวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ชุดสืบสวนฯสืบทราบว่าช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหนี้ต่างด้าวชายสัญชาติอินเดีย จะเข้ามาเก็บเงินสดที่กู้ยืมที่แผงร้านค้าของผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ซุ่มดูละแวกใกล้เคียงแผงร้านค้าของผู้เสียหาย จนพบเจอชายลักษณะต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง เดินเข้ามายังแผงร้านค้าของผู้เสียหาย และเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหาย โดยขณะตรวจพบผู้ถูกจับ ทราบชื่อภายหลังว่า Mr. B (นามสมมุติ) สัญชาติอินเดีย ได้นำเจ้าหน้าที่ไปยังห้องเช่าของตนเอง เพื่อที่จะแสดงเอกสารหนังสือเดินทางที่อยู่ในห้องเช่า เจ้าหน้าที่ฯ เข้าตรวจสอบในห้องเช่า พบเอกสารหนังสือเดินทางปรากฏชื่อ Mr. B (นามสมมุติ) สัญชาติอินเดีย ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึง 16 พ.ย.2567
จากนั้นได้ตรวจสอบภายในห้องพัก พบสมุดบัญชีธนาคาร ที่ใช้ในการรับโอนเงินกู้ ที่มีเลขบัญชีตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้ง พร้อมด้วยบัตรเอทีเอ็มที่ใช้สำหรับถอนเงินที่ได้รับจากการเก็บเงินกู้ และ สมุดโพยจดบัญชีเก็บเงินกู้ วางอยู่บนพื้นข้างฟูกที่นอนภายในห้องเช่าดังกล่าว โดยผู้ถูกจับไม่ได้รับใบอนุญาตทำงาน แต่ได้มาประกอบอาชีพ ปล่อยเงินกู้เลี้ยงชีพของตน จึงจับกุมดำเนินคดีในฐานความผิด “ให้ผู้อื่นยืมเงิน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และ ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานฯ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 และ พ.ร.ก. การบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8
ทั้งนี้ จับกุมได้บริเวณด้านหน้าร้านแผงลอยใน ต.ไทรม้า อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 20.45 น. นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง จากนั้นจะได้สืบสวนปราบปรามขยายผล เพื่อหากลุ่มชาวอินเดียที่มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ดังกล่าวต่อไป ////-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี