ระยอง คิกออฟจัดตลาดนัดแก้หนี้ ให้คำปรึกษาไกล่เกลี่ย และแนะอาชีพ ปชช.ที่เป็นหนี้นอกระบบ พบ ปชช.เป็นหนี้นอกระบบ 1,484 ราย ยอดหนี้รวม 83 ล้านบาท ตั้งเป้าแก้ไขหนี้ระบบต้องถึงครึ่งหนึ่งของผู้มาลงทะเบียนภายในเดือน มี.ค.นี้
14 มกราคม 2567 ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดระยอง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผวจ.ระยอง เป็นประธานเปิดงานตลาดนัดแก้หนี้ จังหวัดระยอง 2567 ครั้งที่ 1 ซึ่งมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดระยอง ร่วมเป็นเกียรติ และมี ปชช.ชาวจังหวัดระยอง ที่เป็นหนี้นอกระบบ เข้าร่วมการไล่เกลี่ยหนี้ จำนวน 1,484 ราย ภายในงานมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเปิดบูธบริการ
ประกอบด้วย ศาลจังหวัดระยอง ศาลแขวงระยอง สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดระยอง สำนักงานบังคับคดีจังหวัดระยอง สำนักงานคลังจังหวัดระยอง สำนักงานยุติธรรมจังหวัดระยอง สำนักงานจัดหางานจังหวัดระยอง สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดระยอง สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดระยอง สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 17 ระยอง ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง และอำเภอ 8 อำเภอ
โดยได้มีกิจกรรมการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหนี้สิน การวางหลักทรัพย์ การตั้งผู้กำกับดูแลคดี การให้ความรู้ คำปรึกษาทางกฎหมายและคดี การให้คำปรึกษาเข้าถึงแหล่งเงินทุน การแนะแนวการประกอบอาชีพ การสาธิตการประกอบอาชีพสร้างรายได้ โดยการทำเครื่องดื่มสมุนไพร เปิดรับร้องเรียนร้องทุกข์ รับคำร้องกู้เงินกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน นอกจากนี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และอำเภอ 8 อำเภอยังได้มาเปิดรับลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบ และแนวทางแก้ไขด้วย
นายไตรภพ กล่าวว่า การจัดงานตลาดแก้หนี้ดังกล่าว จัดขึ้นโดยศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบระดับจังหวัด และอำเภอ บูรณาการร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ และเจ้าหนี้และการออกหน่วยบริการประชาชนเคลื่อนที่ในการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย การไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท การให้ความช่วยเหลือทางการเงิน การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการสร้างงาน สร้างอาชีพ ซึ่งสำหรับจังหวัดระยอง มี ปชช.มาลงทะเบียนขอแก้หนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล จำนวน 1,484 ราย มีเจ้าหนี้ 1,009 ราย ยอดหนี้รวม 83,341,789.73 บาท ไกล่เกลี่ยหนี้สำเร็จ 5 ราย เป็นเงิน 816,800 บาท ปัญหาที่เกิดขึ้นการไกล่เกลี่ยที่ผ่านมาคือ เบื้องต้นขอความร่วมมือเจ้าหนี้แล้ว แต่กลับไม่ยอมมา ซึ่งการไกล่เกลี่ยจะต้องเกิดขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเชิญมาทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหาแนวทาง หรือทางออกร่วมกัน หรือพบกันครึ่งทาง ทั้งนี้จังหวัดระยองตั้งเป้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบดังกล่าวภายในเดือน มี.ค.67 นี้ ต้องแก้ไขให้ได้ครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เป็นหนี้นอกระบบที่มาลงทะเบียนดังกล่าว.
ผู้ว่าฯตราด เปิด“ตลาดนัดแก้หนี้จังหวัดตราด”ครั้งแรก มุ่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชน เผยลูกหนี้ 5 คนมาปรึกษาและขอข้อมูลเพื่อขอแก้หนี้แล้ว ระบุยอดรวมกว่า 19 ล้านบาท ขณะเจ้าหนี้มีทั้งการเมืองใหญ่,ข้าราชการปกครองรวมทั้งนักธุรกิจใหญ่
นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ตรวจเยี่ยมการจัดกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้จังหวัดตราด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครองจากทุกอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตราด สำนักงานอัยการจังหวัดตราด,เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.เมืองตราด สถาบันการเงินในจังหวัดตราด ตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมออกบูธแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชนบริเวณศาลา 100 ปี ตราดรำลึก หน้าศาลากลางจังหวัดตราด โดยมี นายพีระ เอี่ยมสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายธนสาร เจริญสุข ปลัดจังหวัดตราด นายเกรียงไกร ปัญญาพงศธร นายอำเภอเมืองตราด เข้าร่วม
ทั้งนี้ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้รับข้อสั่งการสำคัญ ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชน กระทรวงมหาดไทยจึงให้จังหวัดจัดกิจกรรม “ตลาดนัดแก้หนี้” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ผู้มาลงทะเบียนแก้ไขหนี้นอกระบบ เป็นประจำทุกเดือน โดยจังหวัดตราดได้จัดตลาดนัดแก้หนี้จังหวัดตราดครั้งแรกขึ้นในวันนี้ โดยมีลูกหนี้และเจ้าหนี้ร่วมกิจกรรมเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหานี้สิน นอกจากนี้นี้ยังมีหน่วยงานจากกระทรวงต่าง ๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมหาแนวทางในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนภายหลังเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้สินอีกด้วย
นางสาวหริณโลจณ์ ทรงบัณฑิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เปิดเผยว่า ยอดลงทะเบียน ของผู้เป็นหนี้นอกระบบของจังหวัดจราดตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 - วันที่ 13 มกราคม 2567 มีลูกหนี้ 413 ราย เจ้าหนี้ 304 รายมูลค่าหนี้ 17,561,683 บาท และมียอดไกล่เกลี่สะสม ระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2566-วันที่ 13 มกราคม 2567 ไกล่เกลี่ยแล้ว 79 ราย มูลหนี้ 1,906,500 บาท ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 79 ราย มูลหนี้ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 1,894,500 บาท สำหรับยอดลงทะเบียนหนี้นอกระบบวันนี้ (14 มกราคม 2567) มีผู้เป็นหนี้ มาปรึกษา จำนวน 5 ราย ส่วนเจ้าหนี้ยังไม่มีมาลงทะเบียน ทั้งนี้จังหวัดตราดจะดำเนินการจัดตลาดนัดแก้หนี้ทุกเดือนตอบปี 2567 เดือนละครั้งและจะกระจายไปยังอำเภอต่างๆด้วย
อนึ่ง เจ้าหนี้ของจังหวัดตราดที่เป็นที่ทราบทั่วไปของลูกหนี้ มีทั้งนักการเมืองท้องถิ่นระดับใหญ่ ข้าราชการปกครองในจังหวัดตราด หรือนักธุรกิจเอกชนที่ปล่อยเงินกู้รายย่อยให้กับพ่อค้าแม่ค้าทั้งในตลาดเทศบาลเมืองตราด และในจังหวัดตราด ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มาลงทะเบียน และลูกหนี้ก็ไม่มาลงทะเบียนด้วย
ขอนแก่น Kick off “ตลาดนัดแก้หนี้” เปิดพื้นที่ให้ลูกหนี้-เจ้าหนี้-สถาบันการเงิน ไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องแก่นเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดกิจกรรม ตลาดนัดแก้หนี้ จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 1 โดยมีนายประจวบ รักแพทย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย สถาบันการเงิน เจ้าหนี้ ลูกหนี้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่น มีผู้มาลงทะเบียนหนี้นอกระบบแล้วทั้งสิ้น 3,314 ราย จำนวนมูลหนี้รวม 263,059,754.80 บาท ซึ่งจังหวัดขอนแก่น ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 402 ราย คิดเป็นจำนวนร้อยละ 12.10 ของผู้มาลงทะเบียน
นายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้กำชับให้จังหวัดทำงานร่วมกับตำรวจ ให้คุ้มครองความปลอดภัยของลูกหนี้ ให้จังหวัดและอำเภอใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พาลูกหนี้ และเจ้าหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเกลี่ยไกล่ โดยให้มีการจัดตลาดนัดแก้หนี้อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ สัปดาห์ที่สองของเดือน ที่บริเวณที่ทำการปกครองจังหวัด ศาลากลางจังหวัด หรือสถานที่ที่เหมาะสม พร้อมขอความร่วมมือให้บูรณาการหน่วยงานการเงิน-แก้หนี้ ที่เกี่ยวข้องในจังหวัด เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้และเจ้าหนี้ ให้เป็นไปตามเป้าหมายของการจัดตลาดนัดแก้หนี้ และให้เร่งดำเนินการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สิน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทั่วประเทศ
"ตลาดนัดแก้หนี้ มีเป้าหมายจัดกิจกรรมการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การบูรณาการหน่วยงานในพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้และเจ้าหนี้ เช่น กระทรวงแรงงาน สำนักงานพัฒนาชุมชน ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร"
การ Kick off “ตลาดนัดแก้หนี้” ภายในงานจะมีการรับลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบ การไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ และตลาดแก้จน ที่จะมีธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) พิโกไฟแนนซ์, ตำแหน่งงานว่าง, การลงทะเบียนหางาน, การรับงานไปทำที่บ้าน ,กองทุนเกษตรสำหรับเกษตรกร โดยมีอัยการจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ยุติธรรมจังหวัด ให้คำปรึกษาข้อกฎหมายแก่ประชาชนด้วย
มหาสารคาม คิกออฟ จัดตลาดนัดแก้หนี้ เกลี่ยไกล่เจ้าหนี้ลูกหนี้นอกระบบ
ที่หอประชุมอำเภอเมืองมหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off ตลาดนัดแก้หนี้ โดยรัฐบาลกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ ที่บางรายอาจถูกข่มขู่คุกคาม และต้องรับภาระในการชำระดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด
นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ในกิจกรรม Kick off “ตลาดนัดแก้หนี้” ในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานด้านกฎหมาย และสถาบันการเงินจากการที่ได้พูดคุย เจรจาไกล่เกลี่ย มีลูกหนี้ที่มาพร้อมกับเจ้าหนี้หลายราย ที่ผ่านมามีความกังวลว่าจะไม่ได้เงินคืน หรือมีปัญหาความขัดแย้งกัน จะมีคณะเจรจาไกล่เกลี่ยมาร่วมเจรจา สร้างความสบายใจให้กับเจ้าหนี้และลูกหนี้ โดยมีการกำหนดหลักเกณฑ์การชำระหนี้ของเจ้าหนี้และลูกหนี้แต่ละราย เป็นรายๆไป ซึ่งจะได้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ในส่วนของลูกหนี้เองในกรณีที่เคยโดนเจ้าหนี้เก็บดอกเบี้ยในอัตราที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดก็จะมีการเจรจาให้ลดดอกเบี้ยลงให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งตรงนี้ก็สร้างความมั่นในให้กับเจ้าหนี้ด้วยว่า ลูกหนี้สามารถที่จะชำระได้ตามกำหนด ลูกหนี้ก็เป็นการลดค่าใช้จ่าย ลดดอกเบี้ยที่เคยเสีย บางรายเคยเสียร้อยละ 10 ต่อเดือน วันนี้ก็มาช่วยเจรจาให้ลดลง
ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ไปยืมเงินมาจากกลุ่มนายทุนที่เก็บดอกเบี้ยรายวัน ตรงนี้หากเจ้าหนี้ไม่ยอมมาเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งทางลูกหนี้มีเบอร์โทรศัพท์อยู่แล้ว ก็จะได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามตัวมาเจรจาไกล่เกลี่ยให้ ซึ่งลูกหนี้ไม่ต้องกังวล ทางเจ้าหน้าที่รัฐจะดูแลให้ แต่อย่างไรก็ต้องชำระหนี้ ไม่ใช่ปลดหนี้
อยากเชิญชวนประชาชนที่ยังคงเป็นหนี้นอกระบบ ที่ยังไม่ลงทะเบียน สามารถมาลงทะเบียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมทุกแห่งไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือลงในระบบออนไลน์ โดยทางจังหวัดจะได้จัดมหกรรมแก้หนี้นอกระบบในทุกๆเดือน หมุนเวียนไปตามอำเภอต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
สำหรับจังหวัดมหาสารคามมีประชาชนที่เป็นลูกหนี้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากทางราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นต้นมา มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,000 คน ยอดหนี้รวมกว่า 180 ล้านบาท
ขณะที่ ลูกหนี้ รายหนึ่งที่มาร่วมกิจกรรม กล่าวว่า ตนเองยืมเงินเจ้าหนี้มา 50,000 บาท เพื่อมาลงทุนค้าขาย เมื่อปี 65 โดยได้ขายขนมถ้วย ซึ่งเจ้าหนี้ก็เป็นคนละแวกบ้าน โดยเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือนก็ได้ผ่อนชะระแต่ดอกเบี้ย เป็นเงินเดือนละ 1,500 บาท ก็ผ่อนมาตลอดได้เกือบๆปี ต่อมาก็ขายของไม่ดีมีภาระค่าใช้จ่ายเลี้ยงลูก 2 คน ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ทำให้ไม่มีเงินไปชำระหนี้ ก็ไม่ได้ผ่อนดอกเบี้ยเลยอีกเกือบปี พอรัฐบาลเปิดให้มีการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ก็ลงทะเบียนไปแล้วก็มาเจรจาไกล่เกลี่ยในวันนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ทำบันทึกไว้ว่าแต่ละเดือนจะต้องชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้กี่บาท
ด้านเจ้าหนี้ กล่าวว่า ตนเองเข้าใจลูกหนี้ เพราะบ้านอยู่ใกล้กัน รู้ว่าขายของไม่ดี ทำให้มีภาระค่าใช้จ่าย ทั้งต้องเลี้ยลูก ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่มาเจรจาในวันนี้ดอกเบี้ยไม่เอาแล้ว ตอนนี้ขอแต่เงินต้นคืน ที่ผ่านมาช่วงโควิดก็เข้าใจลูกหนี้มาโดยตลอด ซึ่งการเจรจาในวันนี้ ก็ถือว่าดี เพราะเหมือนเป็นการทำสัญญาเลยว่าเราจะได้เงินต้นคืน สิ่งที่อยากฝากถึงรัฐบาลคือ ให้พัฒนาในประชาชนเข้าถึงสถาบันการเงินให้มากกว่านี้ หากประชาชนกู้รัฐได้ง่ายก็ไม่ต้องเสียเวลามากู้หนี้นอกระบบ
ประจวบฯ เปิดตลาดนัดแก้หนี้ เคลียร์แล้ว 20 ราย มูลหนี้กว่า 1.25 ล้านบาท
ที่ห้องเกาะหลัก ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้ ตามข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้เปิดพื้นที่เจรจาไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ
โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคลังจังหวัดฯ สรรพากรพื้นที่ประจวบฯ ตำรวจภูธรจังหวัดฯ ที่ทำการปกครองจังหวัดฯ ร่วมเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ และมีเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการจังหวัดฯ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดฯ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ยุติธรรมจังหวัดฯ ให้คำปรึกษาข้อกฎหมายแก่ประชาชน รวมทั้งการให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อจากธนาคารของรัฐ 2 แห่ง คือ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และการให้คำแนะนำด้านการพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฯ ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะมีขึ้นอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งเพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทำให้ประชาชนมีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล กล่าวว่า ภาครัฐมีความตั้งใจที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหานี้ ไม่ว่าจะด้วยการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาท การดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิดกฎหมายที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบเกินสมควร การให้คำแนะนำและส่งเสริมอาชีพ รวมถึงการบริการให้คำแนะนำให้กับประชาชนที่มีความพร้อมสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้หลุดพ้น จากวังวนความเป็นหนี้ สามารถทำมาหากินได้อย่างปกติสุข ไม่ต้องหวาดระแวง และเริ่มต้นสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขอให้พี่น้องประชาชนทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้ได้เชื่อมั่นและเห็นถึงความตั้งใจนี้ การจัดกิจกรรม "ตลาดนัดแก้หนี้" จะเป็นอีกกลไกหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบ และทำให้พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหา มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้อย่างมีความสุข
ทั้งนี้ จากการเปิดลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.66 - 13 ม.ค.67 พบว่า จ.ประจวบฯ มีลูกหนี้มาลงทะเบียนขอให้ภาครัฐช่วยเหลือแล้วจำนวน 1,086 ราย มูลหนี้ 59,724,744 บาท เป็นการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น ThaiD จำนวน 923 ราย และลงทะเบียนที่ศูนย์แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบระดับจังหวัดและอำเภอ 163 ราย ไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาททางแพ่งประสบผลสำเร็จแล้ว 20 ราย มูลหนี้ 1,254,280 บาท ประชาชนที่มีปัญหาหนี้นอกระบบสามารถลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 29 ก.พ.67 ทางระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th หรือ ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ หรือ โทรสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร.1567 ตลอด 24 ชั่วโมง.
อุดมศักดิ์ นิ่มเซียน.ประจวบฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี