เมื่อวันที่ 15 มกราคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวภายหลังประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2567 ที่ศาลาว่าการ กทม.ถึงสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาวะอากาศถ่ายเทไม่ดี ทำให้ค่าฝุ่นสูงขึ้น เหตุผลหนึ่งเชื่อว่ามาจากการเผาชีวมวลในประเทศ รวมทั้งการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน แม้ตัวเลขการเผาชีวมวลภาพรวมของประเทศจะลดลง แต่จุดความร้อนในภาคกลางเมื่อเทียบปี 2566 กับปี 2567 ช่วงวันที่ 1-9 มกราคม พบว่าปี 2566 มีจุดเผา 525 จุด ส่วนปี 2567 มีจุดเผา 1,089 จุด เพิ่มขึ้นมา 107% ส่วนในเรื่องของรถยนต์ เราประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนบำรุงรักษารถยนต์ โดยจัดทำแคมเปญ “รถคันนี้#ลดฝุ่น” ร่วมกับ 9 บริษัทรถยนต์ และ 6 บริษัทผู้ค้าน้ำมัน ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันยูโร 5 ซึ่งคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งให้น้ำมันในถังหมดก่อน

นอกจากนี้ได้มอนิเตอร์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีการแจ้งเตือนประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร หากมีการพยากรณ์ว่าจะมีค่าฝุ่นเป็นสีแดงต่อเนื่อง 3 วัน จะดำเนินมาตรการ Work from Home (WFH) ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายที่พร้อมร่วมมือประมาณเกือบ 50,000 คน ด้านโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร มีการทำห้องปลอดฝุ่นในทุกโรงเรียน และกำลังดำเนินการจัดทำห้องปลอดฝุ่นของเด็กอนุบาลเพิ่มขึ้น ด้านการกำจัดต้นตอ ได้ตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่นอย่างต่อเนื่อง มีมาตรการห้ามเผาในที่โล่ง

ส่วนเรื่องสุขภาพ กรุงเทพมหานครมีคลินิกมลพิษทางอากาศ 8 แห่ง ได้แก่ รพ.กลาง รพ.ตากสิน รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ รพ.เวชการุณย์รัศมิ์ รพ.ลาดกระบังกรุงเทพมหานคร รพ.ราชพิพัฒน์ และ รพ.สิรินธร หากประชาชนได้รับปัญหาสุขภาพจากฝุ่นสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ รวมทั้งสามารถพบแพทย์ผ่าน Telemedicine แอปพลิเคชั่น “หมอ กทม.” เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการได้อย่างรวดเร็ว หรือหากต้องการปรึกษาเรื่องสุขภาพ สามารถโทร.สายด่วนสุขภาพ 1646 สำนักการแพทย์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชั่วโมง (นับตั้งแต่เวลา 07.00 น.ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) 10 วันล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 15–24 มกราคม 2567 อัปเดตจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) : ช่วงสัปดาห์นี้อากาศยังมีเปลี่ยนแปลง โดยช่วงวันที่ 15–17 มกราคม 2567 มวลอากาศเย็นยังแผ่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมหนาว) ยังพัดปกคลุมในระดับล่าง ส่วนระดับบนยังมีกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนช่วงแรก (วันที่16–17 มกราคม) ภาคเหนือตอนบน ยังมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง เช้าอากาศเย็น กลางวันอากาศร้อน สำหรับภาคใต้ยังมีฝนบางแห่ง ส่วนมากบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและตอนล่าง คลื่นลมยังมีกำลังอ่อนถึงปานกลาง และช่วงวันที่ 18–21 มกราคม 2567 มวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมมีกำลังอ่อนลง ลมมีกำลังอ่อน ทิศทางแปรปรวน

ขณะที่ช่วงวันที่ 22–24 มกราคม 2567 มีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจะแผ่เสริมลงมาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงแรกๆ มีลมใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก ทำให้มีฝนเกิดขึ้นบางแห่ง อุณหภูมิลดลงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วน กทม. และปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ภายใต้สถานการณ์ปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังแรง ซึ่งทำให้สภาวะลมหนาว ฝนและพายุเปลี่ยนแปลงไป)

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 9 (9/2567) (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 มกราคม 2567) ระบุว่าช่วงวันที่ 15-16 มกราคม 2567 คลื่นกระแสลมตะวันตกจากประเทศเมียนมา ได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือและประเทศลาวตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

ส่วนบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในตอนเช้าในระยะนี้

สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบดังนี้ วันที่ 15-16 มกราคม 2567 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ และตาก ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประกาศ ณ วันที่ 15 มกราคม 2567