ตำรวจนครพนมแจ้งข้อหาทหารยศ'สิบเอก'มีอาวุธสงครามเถื่อน เร่งสางปมยิงเด็กปั๊มนครพนม 2 ศพรอผลพิสูจน์ทูตสังหารอาจเชื่อมโยงฆ่า”หมวดบอล”เมื่อสองปีที่แล้ว
จากกรณี พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.นครพนม) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รองผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (รอง ผบก.สส.บช.ภ.4) พ.ต.อ.ธนารัตน์ มีทองหลาง ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผกก.สส.ภ.จว.นครพนม) ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานทหาร ค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมืองนครพนม นำกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบ ขอควบคุมตัวทหารยศนายสิบเอกคนหนึ่ง อายุ 38 ปี ตำแหน่งพลขับทั่วไป สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งพร้อมตรวจค้นในบ้านพักทหาร พบอาวุธปืนสงคราม ขนาด 7.62X61 mm. NATo จำนวน 1 กระบอก รวมถึงเครื่องกระสุนปืน เกือบ 100 นัด ก่อนคุมตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนฯนครพนม เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนมีหลักฐานเบื้องต้นว่าสิบเอกคนดังกล่าวเป็นผู้ต้องสงสัย ในคดีฆาตกรรมยิงพนักงานปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา แต่มือปืนยังคงหลบหนี
หลังเกิดเหตุทางตำรวจชุดสืบสวนได้ระดมกำลังลงพื้นที่ทันที โดยใช้เทคโนโลยี่สมัยใหม่มาตรวจสอบและพบหลักฐานสำคัญ ช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ เป็นรถยนต์เก๋งคันหนึ่ง รวมถึงการใช้โทรศัพท์มือถือ แกะรอยจนทราบว่าเป็นทหารยศสิบเอก จึงได้ประสานหน่วยงานทหารเพื่อติดตามหาเบาะแสตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ ก่อนจะขอความร่วมมือกับทางต้นสังกัดเข้าไปเชิญตัวสิบเอกดนดังกล่าวในฐานะพยานคนหนึ่งและค้นภายในบ้านพักพบอาวุธปืนสงครามกระบอกดังกล่าวจึงนำส่งพิสูจน์หลักฐาน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่นว่า มีความเชื่อมโยงกับการฆ่าเด็กปั๊มหรือไม่
ทั้งนี้ สิบเอกคนดังกล่าว มีตำแหน่งพลขับทั่วไป เดิมมีภูมิลำเนาอยู่ จ.มุกดาหาร เคยเป็นพลอาสากำลังทหารพรานมาก่อน กระทั่งสอบบรรจุรับราชการทหาร ย้ายมารับราชการในพื้นที่ จ.นครพนม ได้ประมาณ 2 ปีเศษ โดยทางเจ้าตัวให้การปฏิเสธ อ้างไม่เกี่ยวข้องกับคดี แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา
ในเบื้องต้นพบการกระทำผิดเนื่องจากมีอาวุธปืนสงครามอยู่ในครอบครอง รวมถึงเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นในฐานความผิดมีอาวุธปืนสงคราม เครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมายไว้ในครอบครอง ส่วนฐานความผิดอื่นๆ รวมถึงหลักฐานที่จะเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องในคดียิงพนักงานปั๊มหรือไม่ จะต้องได้มีการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง รวมถึงตรวจสอบอาวุธปืนและกระสุน ไปเทียบเคียงกับหลักฐานผลการชันสูตรศพผู้ตาย รวมถึงหัวกระสุนที่ตรวจพบในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ และต้องรอการยืนยันจากผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงผลตรวจของกองพิสูจน์หลักฐาน หากพบมีความชัดเจนจะได้แจ้งข้อหาความผิดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป พร้อมควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เมืองนครพนม รอการเสนอศาลจังหวัดนครพนม ขอฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว ส่วนคดีฆาตกรรม ณ เวลานี้สิบเอกคนดังกล่าวเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่านั้น ทั้งนี้ ทางตำรวจยังไม่ตัดปมฆาตกรรมทุกประเด็น ทั้งชู้สาว ขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมาย
อนึ่ง หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวนตรวจพบเสื้อเปื้อนเลือดอยู่ในกระท่อมกลางนา ฝั่งตรงข้ามกับปั๊มน้ำมัน ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จึงส่งพิสูจน์หลักฐานตรวจหาดีเอ็นเอ ปรากฏว่าเสื้อตัวดังกล่าวเป็นของหลานชายเจ้าของกระท่อมที่ไปมีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นงานปีใหม่จึงมาถอดทิ้งไว้ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใด กระทั่งชุดสืบสวนใช้เทคโนโลยี่ไล่เช็คละเอียดยิบและสามารถจับสัญญาณการใช้โทรศัพท์ และภาพรถยนต์ของสิบเอกคนดังกล่าวทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ แต่ยังไม่ใช้ผู้ต้องหาฆ่าคนตายต้องรอผลยืนยันจากนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง
ถ้าผลพิสูจน์ออกมาว่า อาวุธปืนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจต้องกลับมานับหนึ่งใหม่ แต่ถ้าใช่ถือเป็นการปิดคดีได้อย่างสวยงาม และอาจจะไปเชื่อมโยงกับการสังหาร ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี ผู้บังคับหมวดดุริยางค์ ค่ายพระยอดเมืองขวาง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2564 หรือเมื่อสองปีที่แล้ว ซึ่งคดีนี้ยังปิดไม่ลง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี