บังคับคดีนครพนม ‘จัดมหกรรมเจ้าหนี้พบลูกหนี้’ ไกล่เกลี่ยร่วม 11 สถาบันการเงิน เปิดโพยนายทุนนอกระบบ ดอกเบี้ยมหาโหดเต็มเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมแกรนด์บอลรูม โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว เขตเทศบาลเมืองนครพนม นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ นางนิรมล สุขวิไล ผู้ตรวจราชการกรม ในฐานะผู้แทนอธิบดีกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ มีอยู่ มีกิน มีใช้ ภายใต้โครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีฐานข้อมูลลูกหนี้ในพื้นที่ประมาณ 2,000 ราย ที่ยังเป็นหนี้สถาบันการเงินจำนวน 11 แห่ง จึงได้มีหนังสือเชิญมาพบเจ้าหนี้ เพื่อเจรจาต่อรองตกลงกัน โดยมีองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายณรงค์ แก้วลอดหล้า ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครพนม กล่าวว่า บังคับคดีนครพนม เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจและหน้าที่ในการบังคับคดี ให้เป็นไปตามคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดี เนื่องจากมีลูกหนี้ตามคำพิพากษาอีกหลายราย ยังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรืออาจได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ลูกหนี้ตามคำพากษา ได้รับผลกระทบทางการเงิน รวมทั้งการดำรงชีพ

ดังนั้น การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในชั้นบังคับคดี จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้เจรจากัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในการผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ก็จะช่วยให้ประชาชนสามารถเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และลูกหนี้มีกำลังทรัพย์ที่พอจะชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ได้รับเงินตามที่ได้ตกลงกัน ก่อให้เกิดการปรับโครงสร้างนี้ ลดค่างวด ขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ หรือผ่อนผันยืดการชำระหนี้ในระยะหนึ่ง ทำให้ลูกหนี้ดำเนินชีวิตไปได้ตามสมควร

‘กรมบังคับคดีโยสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครพนม จึงได้กำหนดให้มีการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ มีอยู่ มีกิน มีใช้ ภายใต้โครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ 2568 ในครั้งนี้ขึ้น โดยมีผู้ร่วมไกล่เกลี่ยของกรมบังคับคดีเป็นคนกลาง เพื่อให้ความช่วยเหลือคู่ความ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบังคับคดี เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ทำให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษา สามารถชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ได้ และยังช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงความเป็นธรรมได้โดยง่าย สุดท้ายสามารถยุติข้อพิพาทชั้นบังคับคดีด้วยความรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย ครั้งนี้มีลูกหนี้ตามคำพิพากษาเข้าร่วมงานประมาณ 300 รายกับอีก 11 สถาบันการเงินฯ’ นายณรงค์ แก้วลอดหล้า กล่าว

ด้าน นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การไกล่เกลี่ยถือเป็นกลไกสำคัญ ในการยุติปัญหาข้อพิพาทที่มีต่อกัน ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะเปิดโอกาสให้เจ้าหนี้กับลูกหนี้ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจ ทำให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระเงินให้เจ้าหนี้ได้ครบตามจำนวนที่ตกลงกัน สิ่งที่จะตามมาคือลูกหนี้ไม่ต้องถูกบังคับคดี ถูกอายัดสิทธิเรียกร้อง หรือถูกอายัดทรัพย์ และถูกนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด โครงการนี้ถือว่ามีประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า กรณีประชาชนเป็นหนี้กับสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างถูกต้อง ไม่ค่อยประสบปัญหาในการถูกยึดทรัพย์มากนัก ยกเว้นลูกหนี้ไปต่อไม่ไหวจริงๆ สถาบันการเงินจึงใช้วิธียึดทรัพย์ขายทอดตลาดเป็นขั้นตอนสุดท้าย ปัญหาหลักๆส่วนมากเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบ ที่ถือไพ่เหนือกว่าลูกหนี้ทุกประตู เวลาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชิญมาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้ จะไม่ยอมให้ความร่วมมือ เพราะส่วนมากจะใช้การรับจำนองแบบขายฝาก และโขกดอกเบี้ยมหาโหด ถึงเวลาจะยึดทรัพย์ทันที

ในส่วนของจังหวัดนครพนม มีนายทุนเงินกู้นอกระบบ มากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องการกำจัดนายทุนนอกระบบอย่างเอาจริงเอาจัง สามารถตรวจสอบการรับจำนองขายฝากในสำนักงานที่ดินจังหวัดฯ และสาขาแต่ละแห่ง ก็จะรู้ทันทีว่าใครคือนายทุนเงินกู้นอกระบบ ///-026