ตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดสาวกาฬสินธุ์ตายคาคอนโด พบก่อนตายโทรหาแม่ขอเงินซื้อยากิน รักษาโรคประจำตัว

จากกรณีเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 17 ม.ค.67 ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตภายในห้องพักภายในคอนโดแห่งหนึ่ง ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุภายในห้องชั้นที่ 4 ทราบชื่อต่อมานางสาวรมย์นลิน อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ นอนเสียชีวิตกับพื้นห้องอยู่ปลายเตียง เสียชีวิตมาแล้ว 8-9 วันในสภาพขึ้นอืดเลือดไหลนองเต็มพื้น โดยไม่สวมใส่เสื้อ เปลือยท่อนบน สวมเพียงกางเกงขาสั้นลายช้าง นอนหงายหน้า ภายในห้อง โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงตรวจสอบเก็บหลักฐานจนทั่วภายในห้อง ก่อนนำร่างส่งไปยัง สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ กทม.เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายและจะได้มีการเรียกพนักงานคอนโด และญาติครอบครัวผู้เสียชีวิตมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ล่าสุดวันนี้ (18 ม.ค.67) พ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.นาจอมเทียน นำกำลังออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ ซึ่งต้องใช้เวลาเนื่องจาก ผู้ตายได้มีการพูดคุยกับแม่และทางนิติบุคคล ของคอนโด เมื่อประมาณ 8 วันที่แล้ว ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ซึ่งเรากำลังไล่ดูกล้องขณะผู้ตายมีชีวิตอยู่ ก่อนเข้าห้องไปจนเจ้าหน้าที่มาพบศพว่ามีใครเข้าไปให้ห้องต่อจากผู้ตายหรือไม่  

โดย พ.ต.อ.วัฒนชัย แสงฤทธิ์ ผกก.สภ.นาจอมเทียน เปิดเผยว่า จากการสอบถามนางโชติกา อายุ 51 ปี ผู้เป็นแม่ของนางสาวรมย์นลิน อายุ 30 ปี ผู้ตายทราบว่าผู้ตายมีอาชีพเป็นพนักงานร้านอาหารโดยมาอาศัยทำงานที่เมืองพัทยาเกือบ 10 ปี ก่อนมาเช่าคอนโดดังกล่าวได้ประมาณปีกว่าและยังมีโรคประจำตัวร้ายแรงอีกด้วย

พร้อมกล่าวว่า คดีนี้เราได้รับแจ้งว่าพบคนตายในคอนโดก่อนร่วมกันทุกหน่วยเข้าไปตรวจสอบ ชันสูตรและดูสถานที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบศพค่อยข้างเน่าแล้ว เพราะเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน เท่าที่ดูสภาพศพเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แจ้งว่าไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายบริเวณรอบๆห้อง ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เบื้องต้นสันนิฐานว่าน่าจะเสียชีวิตเอง หลังเกิดเหตุได้ติดต่อญาติไป ทางญาติก็แจ้งว่าไม่ติดใจในสาเหตุการตาย

โดยผู้ตายติดต่อกับญาติครั้งสุดท้าย คือติดต่อขอยืมเงิน จากนั้นไม่ติดต่อมาอีกเลย โดยตอนแรกญาติจะขอนำศพไปบำเพ็ญกุศลศพเลยแต่ด้วยความละเอียดรอบคอบ จึงได้นำร่างส่งตรวจที่ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กทม.เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเขาเสียชีวิตด้วยตนเอง หรือมีใครมาทำให้เขาเสียชีวิต เพื่อความละเอียดอีกครั้ง ตอนนี้ให้ชุดสืบเก็บเซฟเวิร์ด ของกล้องวงจรปิด หน้าห้องผู้ตาย ไปตรวจสอบว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ ให้เจอช่วงที่เขามีชีวิตอยู่เพื่อจะได้รู้ว่า ไม่มีใครเข้าไปในห้องเขาจากการสอบถามญาติผู้ตายทราบว่าผู้ตายป่วยด้วยโรคร้ายประจำตัว

จากการสอบถามนิติบุคคลคอนโด ทราบว่าผู้ตายหายไปประมาณ 8 วัน เพราะมีการพูดคุยกันทางไลน์ โต้ตอบกันเรื่องค่าใข้จ่ายของคอนโด ก่อนมีการพบศพ 8 วันไม่มีการตอบจากผู้ตาย จึงสันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 วันเหมือนเขาเก็บอยู่ในห้องคนเดียว ช่วงนี้สืบทราบว่าตกงานอยู่และมีการขอยืมเงินที่บ้านไปซื้อยามารักษาตัว แต่เราก็ไม่ได้ฟันธงตรงนี้ 100 % ยังไงก็ต้องผลพิสูจน์ จากสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ กทม อีกที่หนึ่ง เพื่อมาสรุปสำนวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - 003