เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่าย'แก๊งผิวสี'แฝงตัวค้ายาเสพติดในประเทศ

เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่าย'แก๊งผิวสี'แฝงตัวค้ายาเสพติดในประเทศ

วันศุกร์ ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2567, 14.21 น.

ตำรรวจปราบปรามยาเสพติดเปิดปฎิบัติการ Operation Mouse Hunt 2 ทลายเครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดผิวสี  ที่แฝงตัวค้ายาเสพติดในประเทศ

19 ม.ค.67 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น Operation Mouse Hunt 2 ซึ่งเป็นปฏิบัติการตามนโยบายทลายเครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดผิวสีที่แฝงตัวค้ายาเสพติดในประเทศ     โดยปฏิบัติการรอบนี้ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นแมนชั่น 2 จุด ในพื้นที่ย่านอุดมสุข เขตพระโขนง เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 11 หมายจับ ผู้ต้องหา 10 ราย


จากการตรวจค้น พบชาวต่างชาติผิวสีพักอาศัยอยู่ตามห้องต่าง ๆ รวม 14 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 5 คน แบ่งเป็นสัญชาติไนจีเรีย 4 รายและสัญชาติไอเวอรี่โคส 1 ราย ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษแบบประเภท 1 ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 หมายที่เหลือ กำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี

พร้อมทั้งสามารถควบคุมตัวผู้เข้าข่ายกันทำความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จำนวน 9 ราย ประกอบไปด้วย อยู่ในประเทศ overstay 3 คน หลบหนีเข้าเมือง 1 คน และไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารประจำตัวอีก 5 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำตัวไปตรวจสอบสัญชาติและดำเนินคดีกับตำรวจ ตม. ต่อไป

นอกจากนี้ยังพบว่า 1 ใน 9 ผู้เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายคนเข้าเมือง พบว่าครอบครองธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐปลอมจำนวนมาก คาดว่าอาจจะมีมูลค่าหลายแสนดอลลาร์สหรัฐ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ภายในห้องพัก 205 โดยอ้างว่า ธนบัตรดังกล่าวเพื่อนนำมาฝากไว้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าธนบัตรปลอมเหล่านี้เป็นเงินดำที่นำสารเคมีมาเคลือบกระดาษปริ้นธนบัตนปลอม เพื่อให้ดูเหมือนเป็นธนบัตรจริง อันเป็นวิธีการที่กลุ่มอาชญากรรมแอฟริกาใช้เป็นการทั่วไป ยังไม่เคยพบวิธีการแบบนี้ในประเทศไทย อีกทั้งยังพบกระดาษเคมีที่มาเคลือบธนบัตรปลอม ทองคำปลอม ทั้งหมดจะต้องนำไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป และอาจจะพิจารณาดำเนินคดีปลอมธนบัตรต่างชาติด้วย

สำหรับขบวนการดังกล่าวนั้น มีพฤติการณ์จับกลุ่มกันยืนบริเวณทางเท้าตามแหล่งท่องเที่ยวย่านนานาและสอบถามผู้ที่สัญจรผ่านไปมาว่า ต้องการยาเสพติดไหม พร้อมทั้งจำหน่ายยาเสพติดจำพวกไอซ์และโคเคน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน โดยให้สายลับพรางตัวเป็นนักท่องเที่ยว ทำทีติดต่อล่อซื้อยาเสพติด จนสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิดและออกหมายจับได้ 

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. เผยว่า ปฏิบัติการนี้สืบเนื่องจาก Operation Mouse Hunt ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ตอนนั้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติผิวสีได้ 7 รายและยึดทรัพย์สินมากกว่า 2.5 ล้านบาท ต่อมาได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามพฤติกรรมของชาวต่างชาติผิวสีที่เป็นเครือขายผู้ค้ารายย่อย จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวย่านสุขุมวิท จนก่อความรำคาญแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ติดตามพฤติการณ์ของขบวนการนี้มาตั้งแต่ต้นปี 2566 จนสามารถออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ 10 ราย

โดยปฏิบัติการทั้งหมดเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีในการใช้ทุกมาตรการทางกฎหมายทำลายเครือข่ายยาเสพติดและยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดเป็นของแผ่นดิน ทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดนอกจากจะดำเนินการจับกุมขบวนการยาเสพติดภายในประเทศแล้ว ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดชาวต่างชาติที่ลักลอบมากระทำความผิดในประเทศไทย

หลังจากนี้จะต้องสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมทางคดีทั้งในเรื่องของเส้นทางการเงิน และสอบสวนหาความเชื่อมโยงกับบรรดาแฟนชาวไทยของกลุ่มผู้ต้องหาที่คาดว่าน่าจะเป็นนางนกต่อคอยให้การช่วยเหลือในเรื่องที่พัก และติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 5 รายมาดำเนินคดี

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ เข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 2565 โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามา ก่อนจะมีการเปลี่ยนเอกสารการเดินทางที่ประเทศต้นทางเป็นวีซ่านักศึกษา ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ยประมาณ 30 ถึง 35 ปี และยังพบว่ามีบางส่วนอาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นสแกมเมอร์หลอกลวงคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะต้องมีการขยายผลเรื่องนี้อีก

-001

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top