จากกรณีอุบัติเหตุที่ ด.ช.วีรยุทธ จินดาแดง อายุ 13 ปี หรือน้องทู นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนนครนนท์วิทยา 1 (วัดท้ายเมือง) จากการที่น้องทู และนายโจ้ จินดาแดง ลุง ซึ่งเป็นอาสาศูนย์วิทยุชาลีกรุงเทพ ไปช่วยโบกรถเนื่องจากได้รับการประสานว่ามีรถยนต์จอดเสียเนื่องจากยางแตก ระหว่างที่กำลังโบกรถปรากฎว่ามีรถเก๋งสีขาว ขับรถมาด้วยความเร็วพุ่งชนรถที่จอดเสีย พร้อมกับชนน้องทู ร่างลอยกระเด็นลอยละลิ่วข้ามไปอีกฝั่งถนนแล้วถูกรถเบนซ์วิ่งสวนมาชนเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนงามวงศ์วานช่วงใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน เมื่อวันกลางดึกวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยช่วงบ่ายของวันที่ 19 ม.ค.ทางญาติและเหล่าอาสาสมัครกู้ภัยได้ไปรับศพน้องทู ออกจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และไปยังจุดที่เกิดเหตุเพื่อไปเชิญวิญญาณน้องทูให้ตามไปยังวัดสมรโกฎิ หลังจากนั้นได้มีการรดน้ำและสวดอภิธรรมเป็นคืนแรก 

ล่าสุดวันนี้ 21 ม.ค. นายปรีชา จินดาแดง พ่อของน้องทู เปิดเผยว่า ช่วงกลางดึกหลังการสวดศพผ่านไปทางหลวงพ่อที่ไปทำพิธีเชิญวิญญาณน้องทูช่วงบ่าย แจ้งมาว่าวิญญาณของน้องทูยังไม่มา ยังวนเวียนอยู่ที่เดิมเหมือนว่าน้องหลงทางหรือลักษณะเสียชีวิตแบบไม่รู้ตัววันนี้จึงต้องมาทำพิธีเชิญวิญญาณตรงจุดเกิดเหตุอีกครั้ง และยังมีอีก 1 เหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อคือน้องทูเคยบอกก่อนที่จะเสียชีวิตว่าในวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 20-21 ม.ค.นี้น้องจะต้องไปติวหนังสือที่โรงเรียนก่อนที่จะสอบ จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาสวดศพวันที่ 2 คุณครูที่เคยสอนน้องและจะต้องเป็นคนที่ติวหนังสือบอกกับตนว่าวันนี้ครูมีความรู้สึกและสัมผัสได้ว่าน้องทูมานั่งติวหนังสือร่วมกับเพื่อนๆคนอื่นด้วย โดยครูยังบอกอีกว่าน้องทู ยังไม่รู้ว่าตัวเองเสียชีวิตและมั่นใจว่าวิญญาณน้องทูยังคงอยู่ที่เกิดเหตุไม่ได้ตามมา ซึ่งเป็นเรื่องที่หน้าแปลกใจว่าหลวงพ่อที่ไปเชิญวิญญาณน้องบอกมาก่อน ที่คุณครูก็มาบอกในลักษณะเดียวกันหลังจากที่หลวงพ่อบอกก่อนหน้า หลังลูกจากไปเมื่อคืนนี้น้องทูมาหาย่าเขา เช้ามาย่าบอกว่าหลานมาหาและชมว่าย่าตัดผมสวยซึ่งก่อนที่น้องทูจะเสียชีวิตเขาเคยให้ย่าตัดผม

ขณะเดียวกัน ย่าของน้องทู กล่าวว่า หลานจะเรียกตนว่าแม่ โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาหลานมาหาตนเองก็ได้พูดคุยด้วยหลานยังชมว่า “แม่ซอยผมซะสวยเลยเนอะ” ซึ่งก่อนที่หลานจะเสียชีวิตเคยบอกให้แม่ไปซอยผมแต่ตนบอกว่าไม่มีตังค์มีตังค์ก่อนแล้วค่อยซอย ซึ่งเมื่อวานช่วงกลางวันก็ไปซอยผมมา และยังถามอีกว่า “แม่มางานหนูเหรอ” หลานยังบอกอีกว่าแม่ต้องอยู่คนเดียวแล้วนะตนยังถามกลับไปว่า “แล้วหนูไปไหน”หลานตอบว่า หนูไปแล้ว แล้วหนูทิ้งย่าทำไม หลานตอบว่า ไม่ได้ทิ้งก็รถมันชนหนู ซึ่งเหตุการณ์นี้พ่อและลุงน้องทู ยืนยันว่าตัวย่านั้นลุกขึ้นมานั่งและเหมือนพูดคุยคนเดียวจนกระทั่งต้องสกิดให้ย่ารู้ตัวก่อนที่จะลงนอนตามเดิม ส่วนการสวดอภิธรรมตั้งแต่วันที่ 19-21 และจะทำพิธีประชุมเพลิงวันที่ 22 ม.ค.67 เวลา 16.00 น. ณ วัดสมรโกฎิ อ.เมืองนนทบุรี

.-008