ตำรวจโพธาราม ใช้เวลา 35 วันสามารถตามจับคนร้ายชิงทองคำหนัก 18 บาทในห้างโลตัส สาขาโพธารามได้ ผู้ต้องหาสารภาพเป็นหนี้พนันออนไลน์ บัตรเคดิต และเคยต้องโทษในคดีชิงทรัพย์ในเขตพื้นที่ สภ.เมืองราชบุรีมาแล้ว พ้นโทษมาเมื่อปี 2557 ก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีก
วันนี้ (22 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่คนร้ายบุกเดียวใช้อาวุธมีดจี้ขู่บังคับพนักงานร้านทองและใช้ฆ้อนเหล็กทุบกระจกตู้โชว์ทองคำและกวาดทองไป 18 บาทภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาโพธาราม จ.ราชบุรี แล้วใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 สีดำแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2566 ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.อภิรัฐ พุ่มกุมาร รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.ชัชชน นราวุฒิพร ผกก.สภ.โพธาราม, พ.ต.ท.ปรัชญา เตชะ รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สว.สส.ฯ, พ.ต.อ.ธีระยุทธ สุทธิพนไพศาล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.วิชยานนท์ เอกตาแสง ผกก.สอบสวนฯ และ พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.7 ได้ระดมทีมงานสืบสวนไม่ว่าจะเป็นตำรวจกองปราบ ชุดสืบสวนภาค 7 สืบสวนจังหวัด และสืบสวนโพธาราม แบ่งงานกันออกหาข่าวในเขตพื้นที่ ต.สร้อยฟ้า ต.ชำแระ ต.ท่าชุมพล ต.บางโตนด จนในที่สุดสามารถรู้ตัวคนร้ายรายนี้ชื่อนายธีรศักดิ์ อายุ 40 ปี บ้านหมู่ 4 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จึงนำไปสู่การขอศาลจังหวัดราชบุรี ออกหมายจับที่ จ 37/2567 ลงวันที่ 21 ม.ค.2567 ภายใต้การอำนวยการของร่วมกันจับกุมนายธีรศักดิ์ ได้พร้อมของกลางหลายรายการ
ประกอบด้วย 1.ทองรูปพรรณ แหวน 6 วง กำไล 4 อัน เลสข้อมือ 3 อัน น้ำหนักรวม 6 บาท 2 สลึง, 2.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีดำ แดง ทะเบียน ราชบุรี จำนวน 1 คัน, 3.หมวกกันน๊อคสีขาวชนิดเต็มใบ ยี่ห้อ INDEX จำนวน 1 ใบ, 4.เข็มขัดแบบหนัง สีน้ำตาลจำนวน 1 เส้น, 5.โช๊คอัพรถจักรยานยนต์พ่นสีดำ จำนวน 1 คู่, 6.กระป๋องสีสเปรย์ จำนวน 1 กระป๋อง, 7.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO รุ่น A31 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง, 8.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO รุ่น A7 จำนวน 1 เครื่อง, 9.ชุดพนักงานบริษัทโตโยต้า จำนวน 1 ตัว, 10.เสื้อยืดแขนยาวสีส้ม จำนวน 1 ตัว, 11.ปลอกแขนสีดำ จำนวน 1 คู่, 12.กางเกงยีนส์สามส่วนสีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว, 13.ถุงมือยางสีฟ้า จำนวน 1 ถุง, 14.ถุงใส่ทองสีส้ม ประทับอักษรภาษาอังกฤษ AURORA จำนวน 1 ถุง, 15.จี้ทองรูปครุฑ จำนวน 1 อัน และ 16.จี้ทองพระ จำนวน 1 อัน ส่วนทองที่เหลือนำไปขายที่ร้านทองใน กทม.และตกหายระหว่างหลบหนีอีก ส่วนวันเกิดเหตุไม่ทราบว่าได้ทองมากี่บาท จึงนำตัวพร้อมของกลางมาสอบปากคำที่ สภ.โพธาราม
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนเข้าไปชิงทองจริงเนื่องจากเป็นหนี้พนันออนไลน์และบัตรเคดิตและเคยต้องโทษในคดีชิงทรัพย์ในเขต สภ.เมืองราชบุรี พ้นโทษมาเมื่อปี 2557 และมาก่อเหตชิงทองดังกล่าว ซึ่งทางผู้ต้องหาให้การว่าตนไม่มีการวางแผนอะไรเลย ขับรถไปก็เข้าก่อเหตุเลย เพราะร้านทองดังกล่าวอยู่ตรงปากทางเข้าออกของห้างก่อนจะก่อเหตุตนได้ขับรถไปจอดไว้ในป่าข้างทางถนนเลียบคลองชลประทานในพื้นที่ ต.สร้อยฟ้า ก่อนถอดป้ายทะเบียน ถอดเฟรมรถออก แล้วนำชิ้นส่วนที่ถอดซุกไว้ในป่าบริเวณจากนั้นก็ขับเข้ามาที่ห้างที่ก่อเหตุ จากนั้นได้ขับรถหลบหนีมายังจุดที่ถอดชิ้นส่วนรถซุกซ่อนไว้ และทำการประกอบใส่ให้เหมือนเดิมโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
จากนั้นได้ถอดเสื้อผ้า เสื้อคลุม รองเท้า มีด หมวก ที่ใส่ก่อเหตุโยนทิ้งน้ำในคลองชลประทาน แล้วเปลี่ยนชุดใหม่ที่เตรียมมาแล้วขับรถหลอกล่อให้ตำรวจคิดว่าตนมาจากบ้านโป่ง ก่อนวนรถกลับมาบ้านและจัดแจ้งนำเสื้อผ้าที่ใส่ชุดที่ 2 ทำการเผาทำลายหลักฐาน ได้ไปดัดแปลงแก้ไขรถ บางจุดให้ตำรวจไม่สงสัยติดสติ๊กเกอร์เพิ่มเติม เปลี่ยนอะไหล่ ที่เป็นจุดเด่น เช่นโช๊คจนมาถึงจับกุมตัวได้ดังกล่าว แต่ก็ไม่พ้นเงือมมือชุดสืบสวน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์, โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี