จับขังคุก! หลานชายทาสยาเสพติดตอบแทนพระคุณยายด้วยด้ามจอบ ฟาดกกหูเสียชีวิตคาไร่มัน คาดไม่พอใจที่จะให้แม่ผู้ให้กำเนิดรับไปเลี้ยง หลังทนพฤติกรรมก้าวร้าวไม่ไหว

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนมว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.67 เวลาประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมาที่บ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม นายจุลศักดิ์ หรือครีม อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวช เนื่องจากเคยมีประวัติเสพยาบ้ามาก่อนและปัจจุบันหันมาเสพกัญชาเกิดอาการไม่พอใจยาย หลังถูกยายต่อว่าเรื่องขอเงินไปซื้อบุหรี่ ใช้จอบทุบหัวยายจนเสียชีวิตกลางไร่มันสำปะหลัง หลังบ้านพักในพื้นที่หมู่ 5 บ้านหนองแสง ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ผู้เสียชีวิตคือนางใย อายุ 59 ปี ถูกตีที่ขมับขวาเป็นแผลฉกรรจ์

ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.คุรุพงษ์ แก้วสะอาด ผกก.สภ.โพนสวรรค์ พร้อมด้วย พ.ต.ท. อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร สารวัตรสอบสวนฯ รวมถึง พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับการกองพิสูจน์หลักฐานนครพนม (ผกก.พฐ.) และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ชันสูตรเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพบจอบเหล็กด้ามไม้ ตรงปลายมีคราบเลือดและเส้นผมติดอยู่ ใกล้กันพบจอบเหล็กด้ามไม้และรองเท้าแตะ ซึ่งเป็นของผู้ตาย 1 คู่ส่วนผู้ก่อเหตุนายครีม หลานชาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมไปสอบสวนดำเนินคดี ฐานความผิดฆ่าบุพการี

จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายครีมผู้ต้องหา ยังให้การวกวนและไม่ยอมรับสารภาพว่าเป็นฆาตกร อ้างมาเลี้ยงควายและไม่รู้ว่ายายถูกใครฆ่าเสียชีวิต จากการตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารกัญชา แต่ไม่มีสารเสพติดประเภทยาบ้า ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนโดยละเอียดประกอบสำนวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปพร้อมคุมตัวเสนอขอฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม พร้อมคัดค้านการประกันตัว แต่ตลอดทั้งวันที่ถูกควบคุมในห้องขังโรงพัก ไม่มีญาติโผล่มาเยี่ยมผู้ต้องหาแม้แต่คนเดียว

สอบถามลูกชายผู้เสียชีวิตนายเด่นศักดิ์ อายุ 35 ปี เปิดเผยว่า แม่ของตนมีศักดิ์เป็นยายของผู้ก่อเหตุ ยอมรับว่ามีพฤติกรรมติดยาเสพติดมาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น และถูกให้ออกเพราะมั่วสุมยาเสพติด เมื่อสองสามปีที่ผ่านมานายครีม เสพยาบ้าหนักมาก จนกระทั่งป่วยจิต ต้องกินยาจิตเวชประจำและไม่ยอมทำงานชอบขอเงินยายครั้งละ 10-20 บาท โดยในแต่ละวันขอมากกว่า 5 ครั้งขึ้นไป ถ้ายายไม่มีให้จะเกิดอาการไม่พอใจและทำร้ายด้วยการทุบตีประจำ

ล่าสุดวันเดียวกันเวลาประมาณ 13.50 น.นางใย แม่ของตนได้โทรไปบอกพี่สาวคนโตและเป็นแม่ของนายครีม คือนางจุฬากร อายุ 44 ปีว่าให้มารับหลานไปดูแลเนื่องจากรับไม่ไหวเกี่ยวกับพฤติกรรมก้าวร้าว ขณะที่โทรนั้นนายครีมอาจได้ยิน เพราะนอนอยู่ในบ้าน หลังวางสายก็ไปรับเงินค่าจ้างกรีดยาง ส่วนแม่ก็ถือเสียมเข้าไปปลูกมันสำปะหลังที่อยู่ใกล้บ้านประมาณ 150 เมตร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายครีม อาจได้ยินคุยกันเรื่องให้นางจุฬากรมารับตัวไปเลี้ยงดู จึงคว้าจอบเดินไปตามไปในไร่ ขณะที่นางใยก้มหน้าขุดหลุมปลูกมันสำปะหลัง โดยใช้ตรงปลายด้ามจอบฟาดเข้าที่ขมับขวา จนนางใยฟุบหน้าแน่นิ่ง มีเลือดไหลอาบเต็มใบหน้า นายเด่นศักดิ์ กลับจากไปรับเงิน เห็นฝูงควายกระจัดกระจายอยู่เต็มไร่ จึงเดินไปดูพบร่างแม่จมกองเลือดในร่องมัน จึงรีบนำตัวส่ง รพ.โพนสวรรค์ แต่นางใย ได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนนายครีม ก็เดินวนเวียนอยู่บริเวณนั้นจึงถูกควบคุมตัวรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ นายเด่นศักดิ์ ผู้มีศักดิ์เป็นน้าชาย บอกกับว่า อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

งด้านนายสิงหา อายุ 64 ปี สามีของผู้ตายเปิดเผยว่าหลานชายเป็นลูกคนที่สองของนางจุฬากร ลูกสาวคนโตของตน ได้มาฝากเลี้ยงตั้งแต่อายุสองเดือน จึงรักเสมือนลูกคนหนึ่ง ดูแลชุบเลี้ยงตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย สุดท้ายไปเสพยาบ้าขณะยังเรียนอยู่ชั้นประถมและขึ้นมัธยมต้นก็เริ่มออกอาการสติฟั่นเฟือน จึงต้องออกโรงเรียนกลางคันระดับชั้น ม.2 จนกระทั่งป่วยจิตเคยนำไปบำบัดฟื้นฟูหลายครั้งและไม่ยอมกินยาปกติอยู่บ้านกันสี่คน พฤติกรรมของหลานชายระยะหลัง ไม่นอนกลางคืนจะเดินวนรอบบ้านทั้งคืน สูบบุหรี่พ่นควันยิ่งกว่าปล่องโรงสี

นายสิงหา เชื่อว่านางใย กำลังนั่งก้มหน้าขุดหลุมมันสำปะหลัง หลานชายมีการเข้าไปพูดคุยขอเงิน และไม่พอใจจึงเกิดอาการคลั่ง ยกปลายด้ามจอบทุบหัวทำร้ายยายจนเสียชีวิต ถามว่าความรู้สึกตอนนี้เสียใจมาก แต่พร้อมให้อภัยหลาน ถึงจะทำผิดก็ยังรักหลานชายคนนี้เสมอ เพราะเลี้ยงมาแต่ยังแบเบาะ ส่วนการดำเนินคดีขอให้เป็นไปตามกฎหมาย - 003