นายสมพร ศรีเมือง ผอ.องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข พบอุบัติการณ์โรคเบาหวานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่มขึ้น 3 แสนคนต่อปี จากแนวโน้มดังกล่าว อ.ส.ค.ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล จัดทำโครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน โดยใช้น้ำนมโคสดแท้ 100% ของ อ.ส.ค.เป็นวัตถุดิบหลักเพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยของจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(องค์การมหาชน) หรือ สวก.
ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยได้ใช้น้ำนมโคและข้าวจากเกษตรกรไทยมาเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งผลจากการวิจัยยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ High value product ที่มีศักยภาพสูง เป็นช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมพัฒนาด้านการเกษตร การเลี้ยงโคนม การแปรรูป และการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรของไทยเป็นการใช้เทคโนโลยีการผลิตอาหารเพื่อการแก้ปัญหาด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทำให้ประเทศไทยมีความสามารถในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ป้อนสู่ตลาดโลก
ด้าน ผศ.ดร.สุภัทร์ ไชยกุล จากภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยเบาหวานมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนผู้ป่วย หรือแม้กระทั่งผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่ นำเข้ามาจากต่างประเทศและมีราคาแพง ผู้ป่วยต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูง ด้วยเหตุนี้จึงมีการวิจัยถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ให้สามารถผลิตเพื่อจำหน่ายได้ในประเทศไทยจากน้ำนมโคที่เลี้ยงในประเทศมาใช้เป็นวัตถุดิบเป็น
ครั้งแรก โดยงานวิจัย พัฒนา 2 สูตร คือสูตรน้ำนมโค และสูตรน้ำนมโคปราศจากน้ำตาลแลคโตส แบบยูเอชที ซึ่งผ่านการวิจัย พัฒนาการผลิตและผ่านการรับรองคุณภาพแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี