‘บิ๊กเต่า’ยัน‘ธนดล’ไม่ใช่‘ที่ปรึกษาหมู’ แต่เชื่อมีข้อมูลคดีจ่อเรียกให้ปากคำ เผยมีเจ้าหน้าที่รัฐคนดังถูกตบทรัพย์เพิ่ม จ่อแจ้งเอาผิด
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 มกราคม 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารแชทระหว่าง “นายเอก” และ “นายธนดล” มามอบให้กับตนเอง ว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการหารือ เนื่องจากนายธนดลตอนแรกประสานจะเข้ามาพร้อมกับนายอัจฉริยะ แต่ติดภารกิจไม่ได้เข้ามา จึงมีการนัดหมายเจรจากันในภายหลัง พร้อมกับยืนยันว่า นายธนดล ไม่ใช่ “นายหมู“ ที่นายอัจฉริยะเคยบอกว่าเป็นตัวกลางพาอธิบดี และภรรยาไปที่บ้านนายศรีสุวรรณ โดยนายหมู มีชื่อจริงว่า “สุธี” เป็นที่ปรึกษาอีกคนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ
“ทราบว่านายหมู ไม่ได้มีบทบาทอะไรในคดี แต่เมื่อมีเรื่องร้องเรียนเกิดขึ้นในกระทรวงเกษตรฯ ก็เชื่อว่าผู้บังคับบัญชาน่าจะใช้ให้เข้ามาดูปัญหา และจัดการปัญหาให้จบ โดยไม่ได้ดูในรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร ซึ่งภรรยาของอธิบดีเองยืนยันกับตำรวจว่านายหมูไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ยังต้องมีการขยายผล ซึ่งจะมีการเชิญนายหมูเข้ามาให้ปากคำในสำนวนด้วย ยืนยันว่านายธนดล ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคดี แต่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ให้มาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยเชื่อว่านายธนดลมีข้อมูลที่จะนำเข้ามาพูดคุยกับตนเอง” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า นอกจากกรณีของอธิบดีกรมการข้าว ล่าสุดมีข้าราชการการเมืองที่มีชื่อเสียงติดต่อเข้ามา เพื่อจะแจ้งความหลังถูกกลุ่มของนายศรีสุวรรณ เรียกรับผลประโยชน์ในลักษณะเดียวกัน โดยยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด แต่มีการประสานจะเข้าพบ
ส่วนกรณีที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดีกรมการข้าว กังวลปมนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” ถูกปลดจากคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของรองนายกฯ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 จะไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐขณะเรียกรับผลประโยชน์แล้ว ทำให้ข้อหาอ่อนลงนั้น ยอมรับว่าหากมีคำสั่งปลดก่อนเรียกรับผลประโยชน์จริง นายยศวริศ จะไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นคำสั่งปลด และก่อนที่จะมีการออกหมายจับได้รับการยืนยันจาก ป.ป.ช. แล้วว่านายยศวริศ มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในขณะกระทำความผิด หากมีคำสั่งปลดจริง ก็จะต้องตรวจสอบเอกสารให้ชัดเจน
“ในขบวนการนี้ มีคนที่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐแน่ๆ ขณะเรียกรับผลประโยชน์ คือ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ “ตูน” ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ของรองนายกฯ เช้าวันที่ 26 มกราคม 2567 ก่อนมีการล่อซื้อที่บ้านนายศรีสุวรรณ เพราะเป็นคนเจรจานัดหมายในการวางเงินวันนั้น ซึ่งเมื่อมี 1 คนเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ร่วมขบวนการก็ต้องเข้าข่าย “สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐฯ” ซึ่งตามกฎหมายจะต้องรับโทษ 2 ใน 3” รอง ผบช.ก. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการทำคดีนี้ กลัวจะเป็นการล้มยักษ์หรือเปล่า เพราะเริ่มมีรายงานข่าวผู้ใหญ่โทรเบรกทางฝั่งที่ปรึกษากฎหมายของอธิบดี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่กลัว เพราะรูปปั้นท้าวเวสสุวรรณหรือว่ารูปปั้นยักษ์หน้า บก.ปปป. ตัวใหญ่กว่า
“อยากเจอหัวหน้ายักษ์เหมือนกัน เพราะเชื่อว่ายักษ์จะตัวใหญ่แค่ไหนก็สู้ความจริงไม่ได้” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี