เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ร.ต.อ.สุรชาติ ทองใย รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้ง จากศูนย์รับแจ้งเหตุ สภ.เมืองภูเก็ต ว่า มีเหตุ ชายชาวไทย กระทำ อนาจาร ลวนลาม นักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติ เหตุเกิดภายในห้องน้ำผู้หญิง สถานีขนส่งภูเก็ตแห่งที่ 2 ม.2 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ขอให้เดินทางมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วย
หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตำรวจชุดสายตรวจสภ.เมืองภูเก็ต รุดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องน้ำ อยู่ด้านหลังของสถานีขนส่ง ซึ่งอยู่และติดกับชานชาลา โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปสอบถาม พลเมืองดี ที่ได้โทรแจ้ง โดยพลเมืองดี ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ได้มี หญิงชาวต่างชาติ ได้วิ่งมาขอความช่วยเหลือ โดยบอกว่า มีชายไทย ซึ่งเป็นพนักงานเดินรถโดยสารแห่งหนึ่ง เข้าไปกระทำอนาจารลวนลามภายในห้องน้ำ หญิง ให้ตนช่วยโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว
อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่านักท่องเที่ยวหญิงผู้เสียหาย ได้เดินทางต่อไปยังเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ซึ่งจะมีการติดตามสอบสอนต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบภายในห้องน้ำผู้หญิงและสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ จากผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งทราบว่า มีพระสงฆ์ 1 รูป ได้เข้าช่วยเหลือสาวต่างชาติรายนี้ แต่ได้เดินทางออกไปจาก บขส.แล้ว หลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.ธัญตุรงค์ วุฒิวงศ์ รองผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมด้วย ร.ต.ท.บุญพบ ทินบุตร รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต และ ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบ หาข้อมูล ต่าง ๆ และ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งสอบถามรายละเอียด ของผู้ต้องสงสัยที่ได้ก่อเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องสงสัย ได้ทำงาน เป็นลูกน้อง อยู่บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการติดตามมาสอบสวน
นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ยังได้ พร้อมประสานไปยัง บริษัทเดินรถ ที่นักท่องเที่ยวหญิงคนดังกล่าวได้เดินทางไป เพื่อให้มาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ภูเก็ต ต่อไป
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน นายนครินทร์ ยอแสงรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลรัษฎา พร้อมฝ่ายนิติกร ในฐานะที่เทศบาลตำบลรัษฎากำกับดูแล บขส.ภูเก็ต 2 สถานที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้พยายามที่จะติดต่อผู้เสียหาย เพื่อให้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดี แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ ในส่วนของเทศบาลนั้นสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้ในข้อหาบุกรุก ซึ่งได้มอบหมายให้นิติกรเข้าแจ้งความ เพื่อให้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ตเป็นอย่างมาก เบื้องต้นคาดว่าหญิงสาวคนดังกล่าวอาจเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่กำลังจะเดินทางจาก จ.ภูเก็ตไปยังเกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี