วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00 น. ที่ สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี กัน จอมพลัง พาแม่เด็กวัย 2 ขวบ ไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ลูกถูกทำร้าย จากกรณีที่แม่ไปฝากให้พี่เลี้ยงดูแล แต่พอลูกกลับบ้านมา พบรอยช้ำที่หน้าผาก แก้ม ปาก แผ่นหลัง แขน ขา พอถามพี่เลี้ยงก็ตอบว่า น้องล้มเอง ซึ่งแม่ไม่เชื่อ และคิดว่าถูกทำร้าย จึงไปแจ้งความตั้งแต่เดือน ธ.ค. คดียังไม่คืบ และพี่เลี้ยงก็ยังรับเลี้ยงเด็กคนอื่นต่อ
โดยเข้าพบ พ.ต.อ.กานตภณ วรรณา ผกก.สภ.คูคต พร้อมด้วย พ.ต.ที่.ประสิทธิ์ สมบุญจิตร รอง.ผกก.สอบสวน ร.ต.อ. อภิรัฐ วรรณา รอง สว.(สอบสวน) สภ. คูคต และ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต เพื่อพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ทางด้าน น.ส.วิมลรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี แม่เด็ก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.66 น.ส.วิมลรัตน์ฯ ประสงค์หาผู้รับเลี้ยงบุตรชายคือ ด.ช.เอ อายุ 2 ปี จึงได้ติดต่อกับ น.ส.มลฯ ย่านคอน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อ เลี้ยงดูบุตรชาย และไว้ใจเนื่องจากเป็นคนที่เคยรู้จักกัน จากนั้นก็ได้ฝากเลี้ยงบุตรชายเรื่อยมาก็ยังไม่เกิด ปัญหาแต่อย่างใด
ต่อมาวันที่ 26 ธ.ค.66 เวลาประมาณ 20.10 น. น.ส.วิมลรัตน์ฯ ได้ไปรับบุตรชายตามปกติ แต่ พบว่าตามร่างกายของ ด.ช.เอ มีรอยบวมแดง ฟกช้ำตามแขน ขา และศีรษะ น.ส.วิมลรัตน์ฯ จึงได้ สอบถาม น.ส.มลฯ ว่าแผลรอยดังกล่าวเกิดจากอะไร ซึ่ง น.ส.มลฯ อ้างว่า ด.ช.เอ เล่นของเล่นแล้วหกล้มเอง และอ้างว่าไม่ได้ทำร้าย ด.ช.เอ แต่อย่างใด ทำให้ น.ส.วิมลรัตน์ฯ ได้รับความเสียหาย จึงร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักนสอบสวนให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเหตุเกิด คอนโด ย่านต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ทางด้าน กัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้ ได้พาผู้เสียหายเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. คูคต โดยคุณแม่นำเด็กไปฝากเลี้ยงไว้ที่สถานที่แห่งหนึ่งโดยประกาศลงในโซเชียลและฝากลูกเลี้ยง โดยก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเหตุผิดปกติอะไร แต่เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา สังเกตุเห็นว่าตามตัวน้องมีรอยรอยเขียวช้ำเต็มตัวจึงได้สอบถามไปทางคนเลี้ยงทราบว่าน้องล้มแล้วเกิดบาดแผล ซึ่งตนเองสังเกตว่าถ้าล้มทำไมถึงมีบาดแผลขนาดนี้ เพราะจากแพทย์พบว่ามีบาดแผลตามตัวเกือบ 10 แห่ง จึงอยากฝากทางผู้กำกับคูคต ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้ให้ด้วย และในช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้ประสานไปทางรองผบ.ตร. ไว้แล้วและท่านก็บอกว่าทางโรงพักนี้ทำงานดี
ทางด้าน พ.ต.อ.กานตภณ วรรณา ผกก.สภ.คูคต กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งได้รับใบรับรองแพทย์มาเมื่อวานนี้ ในส่วนคดีนี้ไม่มีอะไรยากเพราะว่าพอเราได้ผลแพทย์แล้วก็จะทำการเรียกตัวทางพี่เลี้ยงเด็กมาทำการสอบสวนหากพบว่ามีความผิดจริงก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้เลย ตนเองอยากให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนว่าคูคตทำงานอย่างต่อเนื่องและทุกคดี แต่ทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยเฉพาะคดีทำร้ายร่างกายต้องให้แพทย์เป็นผู้ระบุและรับรองมาว่ามีบาดแผลตรงไหนและรักษาตัวกี่วัน เพื่อเอามาประกอบในสำนวนทางคดี
ต่อมา ทางด้านการจอมพลังพลัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจสภ. คูคต และเจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่บริเวณคอนโด อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เพื่อตรวจสอบบริเวณสถานที่รับเลี้ยงเด็ก โดยพบว่าสถานที่ดังกล่าวยังคงมีเด็กจำนวน 2 คนอยู่ในการรับเลี้ยง โดยพบกับ นางเบญจวรรณ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นผู้รับเลี้ยงเด็ก ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบ้านพักเด็กจังหวัดปทุมธานี จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พร้อมทั้งขอนำเด็กที่รับเลี้ยงทั้งสองคนไปตรวจสอบที่โรงพัก
ด้าน นางเบญจวรรณ เปิดเผยว่า ตนเองรับเลี้ยงเด็กคนนี้เพิ่งจะเลี้ยงได้ไม่นาน เพราะโดยปกติแล้วตนเองก็เลี้ยงอยู่แล้วจำนวนสองคน ซึ่งตอนแรกตนเองไม่อยากจะเลี้ยง แต่เนื่อง จาก ตนเองรู้จักกับแม่ของแม่เด็กอีกที จึงได้รับรับเลี้ยงไว้ โดยได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท แต่จ่ายเป็นเดือน ซึ่งตนเองยืนยันว่าบาดแผลที่เกิดบนตัวเด็กนั้นเป็นการลื่นล้มแล้วไปโดนของเล่น ซึ่งบางทีของเล่นก็อยู่ในที่นอนตนเองก็ไม่เห็น ซึ่งปกติแล้วตนเองมักจะล็อคประตูไว้เนื่องจากถ้าตนเองเดินออกมาด้านนอกเด็กก็จะวิ่งตาม เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย ส่วนบาดแผลนั้นขอยืนยันอีกครั้งว่าตนเองไม่ได้ทำ ซึ่งเด็กเป็นเด็กที่ซุกซนชอบเล่น จึงทำให้ล้มทับของเล่นและลื่นไปโดนขอบประตูจนมีบาดแผลดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี