ผอ.สำนัก3(บ้านโป่ง)ลงนามสั่ง"ผอ.มานะ เพิ่มพูน"รักษาการหัวหน้าเขตฯสลักพระ กาญจนบุรี แก้ปัญหาไฟป่า ขณะที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ประกาศห้ามบุคคลเข้าป่า ป้องกันลอบเผา ถูกจับเจอคุก 4-20 ปี ปรับหนักสุด 2 ล้าน
วันนี้ (8 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งให้นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดนายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(บ้านโป่ง) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ที่ ทส 0913.2/1449 วันที่ 7 ก.พ.2567 เรื่อง ให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการ
เนื้อหาในคำสั่งระบุว่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พิจารณาแล้วเพื่อให้การปฏิบัติงานของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ดำเนินไปด้วยความเหมาะสม สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ ทส 0901.304/ว 22421 ลงวันที่ 29 กันยายน 2560 และหนังสือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด่วนที่สุด ที่ ทส 0928.2/ว 9098 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ซักซ้อมแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่จึงให้นายมานะ เพิ่มพูล นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ไปปฏิบัติงานทำหน้าที่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อีกหน้าที่หนึ่ง และปฏิบัติราชการพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ทำหน้าที่หัวหน้าพื้นที่อนุรักษ์แบบบูรณาการเชิงพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อีกหน้าที่หนึ่ง
โดยให้ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายและหนังสือสั่งการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด บรรดาคำสั่งใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้ใช้คำสั่งนี้แทน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567
ด้านนายคุณากร บุญเกื้อสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู กล่าวว่า ในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ค.ของทุกปี ประเทศไทย มักประสบปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ส่งผลให้เกิดปัญหาฝุ่นควันที่มีค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังส่งผลทำให้เกิดปัญหามลภาวะโลกร้อน ซึ่งมีผลให้เกิดความแปรปรวนของสภาวะอากาศโลกร้อน ถือเป็นปัญหาวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วน ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณในการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ และยานพาหนะเป็นจำนวนมาก
ส่วนสาเหตุเกิดจากการเผาป่าล่าสัตว์ การเก็บหาของป่า และการกำจัดวัชพืชในที่ดินทำกินของเกษตรกรที่อยู่ใกล้พื้นที่ป่า เพื่อเตรียมการเพาะปลูกโดยไม่มีการควบคุมส่งผลให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติกลายเป็นไฟป่า ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดปัญหาหมอกควัน และไฟป่า อุทยานแห่งชาติลำคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 ประกาศห้าม ดังนี้
1.บุคคลใดซึ่งเข้าไปในอุทยานแห่งชาติต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด จึงห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ถึง 31 พฤษภาคม 2567 ในท้องที่ตำบลชะแล ตำบลท่าขนุน ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ยกเว้นพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตบริการและเขตนันทนาการกลางแจ้ง หากกรณีมีเหตุจำเป็นให้ประสานอุทยานแห่งชาติลำคลองงู พร้อมแจ้งรายชื่อและสาเหตุความจำเป็นในการเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป หากผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท
และ 2.การเผาวัชพืชในพื้นที่เกษตรกรรมใกล้เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ต้องมีการควบคุมไม่ให้ไฟลุกลามเข้าป่า หากมีการลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19(1) ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ มิให้บุคคลใดกระทำการยึดถือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม
ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 400,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีความผิดดังกล่าว ถ้าได้กระทำในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 หรือพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 2 ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด หรือพื้นที่เปราะบางของระบบนิเวศหรือความหลากหลายทางชีวภาพ ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้ในวรรคหนึ่งกึ่งหนึ่ง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี