ไทยจับมือมะกัน
กู้เรือหลวงสุโขทัย
คาดใช้เวลา19วัน
พร้อมแจงเหตุล่ม
ผบ.ทร.เปิดไทม์ไลน์ 19 วัน กู้เรือหลวงสุโขทัย ขอบคุณสหรัฐฯ ส่งกำลังพล-อุปกรณ์ ร่วมปฏิบัติภารกิจ นำป้ายชื่อเรือขึ้นมาก่อนเป็นขวัญกำลังใจพร้อมแถลงชี้แจงสาเหตุ ส่งคืนงบฯ ใช้กู้เรือ 90 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.เดินทางด้วยอากาศยานลงจอดที่เรือหลวงอ่างทองและได้นั่งเรือลาดตระเวนระยะใกล้ ต.998 เพื่อเดินทางไปยังเรือ Ocean valor ของสหรัฐอเมริกาเพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล ก่อนจะเริ่มปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย ภายใต้การฝึก Cobra Gold 2024 โดย พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้จะเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์กองทัพเรือ ต้องขอบคุณกองทัพเรือสหรัฐฯ นักประดาน้ำ กำลังพลเรือ Ocean valor ซึ่งจากการสังเกตการณ์จึงเข้าใจถึงความยากลำบาก
ผบ.ทร.กล่าวต่อว่า ขณะนี้นักประดาน้ำได้ลงไปปฏิบัติภารกิจแล้ว โดยนักประดาน้ำคนแรกเป็นกำลังพลของกองทัพเรือสหรัฐฯ และนักประดาน้ำคนที่2 เป็นคนไทย ซึ่งมีนักประดาน้ำสำรองอีก 1คน เป็นกำลังพลของกองทัพเรือสหรัฐฯ เป็นไดร์แรก เมื่อขึ้นมาแล้วจะพัก จากนั้นนักประดาน้ำชุดต่อไป เป็นนักประดาน้ำกองทัพเรือไทย เป็นตัวหลัก นักประดาน้ำสหรัฐฯ เป็นตัวรอง สลับกันเช่นนี้ชุดละ 3 คน โดย 2 คนอยู่ใต้น้ำ ส่วนอีก1คน เตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้ง ทั้งนี้ กองทัพเรือไทยส่งนักประดาน้ำปฏิบัติภารกิจ 35นาย สหรัฐฯ 14นาย ใช้ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน 40-45 นาที จากนั้นจะเข้าห้องปรับบรรยากาศกำลังดันสูง หรือ Hyperbari chamber 1ชั่วโมง
พล.ร.อ.อะดุง กล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่เรานำขึ้นมาคือป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ซึ่งขณะนี้ได้ตัดออกมาสำเร็จแล้ว และนับไปอีก 5 วันจากนี้ จะมีการถ่ายรูปเรือหลวงสุโขทัยตลอดลำ รวมทั้งค้นหาผู้สูญหาย เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป
“ในวันที่ 6-19 มีนาคม จะเป็นการทำลายอาวุธและอำพันที่เป็นอันตราย ที่เป็นของสหรัฐฯ และของไทย โดยสิ่งไหนที่นำขึ้นมาได้ ก็จะนำขึ้นมา ซึ่งทางสหรัฐฯ มีเครื่องตัดเหล็กและมีเครนที่สามารถยกของขึ้นมาได้ ดังนั้นจะใช้ดุลพินิจ อะไรที่นำขึ้นมาได้ก็จะนำขึ้นมา และจะนำสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจขึ้นมา เพื่อนำมาสร้างเป็นอนุสรณ์สถานเรือหลวงสุโขทัย ก็จะจบภารกิจครั้งนี้รวม 19 วัน” ผบ.ทร.กล่าว
พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า กองทัพเรือยืนยันว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ตรงไปตรงมาและเอามาประกอบสิ่งที่ตนต้องการแถลงต่อคนไทยทั้งประเทศ ว่าเรือหลวงสุโขทัยจมเพราะอะไร ซึ่งต้องชัดเจน เมื่อฟังแล้วต้องเข้าใจ คำถามทั้งหมดต้องได้รับการอธิบาย ยอมรับว่าได้เห็นหมดแล้ว แต่ในขณะนั้นอยากจะนำเรือขึ้นมาให้ได้ เพื่อให้เห็นกับตา ที่ระบุว่าในวันที่เกิดเหตุประมาณตี3 น้ำเริ่มเข้ามาในตัวเรือ เข้ามาบริเวณใด ช่วงตี4มีอะไรเกิดขึ้นบ้างเรามีข้อมูลหมดแล้ว แค่ต้องการนำมาเปรียบเทียบจากคำให้การของคนบนเรือว่าพูดตรงกันหรือไม่ ซึ่งจากการไปถ่ายรูปเรือบริเวณดังกล่าวมีรอยปริตรงหัวเรือจริง ส่วนจะเกิดจากสาเหตุอะไรขอให้รอข้อมูล พร้อมยืนยันเสียงหนักแน่นว่าไม่ได้ปริเนื่องจากสาเหตุการซ่อมบำรุง ก่อนเรือจมผู้การเรือหลวงสุโขทัยได้สั่งให้ปิดประตูเรือตามขั้นตอนเรียบร้อย ซึ่งรูปที่ออกมาตรงตามนั้นจริง
พล.ร.อ.อะดุง กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณ 200 ล้านบาทที่เตรียมไว้กู้เรือนั้น จะนำคืนคลัง 90 ล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลนำไปช่วยเหลือประชาชน ส่วนงบประมาณอีก110ล้านบาท เป็นของกองทัพเรือใช้ในการปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งจากการไปเห็นในวันเดียวกันนี้เอกสารมีจำนวนมากและการปฏิบัติงานเป็นไปได้ยาก โดยสหรัฐฯ มาได้จังหวะ ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้คงไม่จบ
ผบ.ทร.กล่าวด้วยว่า หากพบร่างผู้สูญหายก็จะนำขึ้นมาทันที หากเจอไม่ว่าจะเป็นกระดูกหรือชิ้นส่วนมนุษย์ ก็จะนำส่งตำรวจเพื่อชันสูตรตรวจดีเอ็นเอ รวมทั้งกองทัพเรือจะรับเป็นเจ้าภาพพิธีศพให้กำลังพลทั้ง 5นาย สำหรับอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นใต้ทะเลนั้น ตนได้ขอพรกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ยให้ช่วยคุ้มครอง และใต้ทะเลน้ำใสมาก เห็นภาพชัดเจน ไม่มีคลื่นลมที่เป็นอุปสรรค จึงขอภาวนาตลอดภารกิจนี้ขอให้คลื่นลม สภาพอากาศเป็นใจ ซึ่งปัจจุบันเรือหลวงสุโขทัย ยังมีลักษณะตั้งตรงเหมือนเดิม ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เรือเอียง แต่จะมีสัตว์น้ำเข้าไปอยู่อาศัย ส่วนน้ำมันที่อยู่ในตัวเรือ จากการได้รับรายงานช่วงที่เรือจม เหลือไม่มาก แต่ก็จะมีการพิจารณากันอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี