กรมคุมประพฤติเข้าพบ‘ทักษิณ’
แจ้งละเอียดยิบ
ข้อห้ามขั้นตอนระหว่างพักโทษ
ไม่ห้ามที่ปรึกษาการเมือง
‘วัชระ’จี้เพิกถอนพักโทษ
กรมคุมประพฤติ เข้าพบ “ทักษิณ” บ้านจันทร์ส่องหล้า แจงขั้นตอนระหว่างพักโทษ-นัดรายงานตัวเดือนมีนาคม พร้อมแจงละเอียดยิบข้อห้าม ย้ำ “5 ให้ 5 ห้าม” ระบุไม่มีข้อห้ามนั่ง บอร์ดกรรมการ-ที่ปรึกษางานทางการเมือง บรรยากาศที่บ้านจันทร์ส่องหล้า“ทักษิณ” เก็บตัวเงียบแต่เหมาก๋วยเตี๋ยวเลี้ยงมื้อที่ยง‘นักข่าว-ตร.’เฝ้าหน้าบ้าน แฟนคลับส่งกุหลาบแดงให้กำลังใจ’วัชระ’ยื่นร้อง’เศรษฐา-พีระพันธุ์’จี้เพิกถอนสิทธิ์พักโทษ‘ทักษิณ’ดูอิ่มเอิบสุขสบายเข้าเกณฑ์พักโทษจริงหรือ? ชงตั้งกก.สอบพิจารณาพักโทษถูกต้องกม.-ข้อเท็จจริง‘วรชัย’ป้อง‘นายใหญ่’ซัด‘จุรินทร์-ชัยธวัช’มีปมในใจ ไล่ไปดูหลักเกณฑ์พักโทษ-หลักการสิทธิมนุษยชน
ความคืบหน้ากรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ใน 930 รายชื่อ ที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการพักการลงโทษ ตามหลักเกณฑ์เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือ พิการ หรือ มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ได้เดินทางกลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 19 ก.พ. - 21 ก.พ. เป็นระยะเวลาที่นายทักษิณต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพักการลงโทษจนกว่าจะพ้นโทษในเดือน ส.ค.67
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติเปิดเผยว่าภายหลังจากที่มีการรายงานข่าวตามสื่อมวลชนตลอดสัปดาห์ว่า 1 ใน 930 ผู้ได้รับการพักโทษ คือ นายทักษิณ ชินวัตรซึ่งในประเด็นดังกล่าวอดีตนายกฯได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการพักการลงโทษโดยมีเงื่อนไขคุณสมบัติผ่านเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษฯและเข้าพักอาศัยยังสถานที่พักโทษที่ได้มีการแจ้งไว้(บ้านจันทร์ส่องหล้า)
กรมคุมประพฤติเข้าพบ‘แม้ว’
“โดยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางผู้บริหารที่ได้รับมอบหมายจาก อธิบดีกรมคุมประพฤติพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 1ซึ่งเป็นสำนักงานที่เป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่เขตดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบนายทักษิณและผู้อุปการะ พร้อมกับแจ้งเงื่อนไข ข้อกำหนดการพักโทษ และนัดหมายรายงานตัวในครั้งถัดไป”พ.ต.ท.มนตรี ระบุ
นัดรายงานตัวเดือนมีนาคม
รองอธิบดีกรมคุมประพฤติกล่าวอีกว่า สำหรับการนัดหมายรายงานตัวในเดือนมีนาคม กรณีหากนายทักษิณยังคงอยู่ระหว่างการพักฟื้นรักษาตัว หรือการตรวจรักษากับแพทย์ ทางเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ จะต้องประสานติดต่อกับผู้อุปการะว่าสะดวกให้เข้าพบยังบ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันเวลาใด หรือถ้ายังไม่สะดวกในเดือนนั้นๆก็สามารถแจ้งเลื่อนได้ แต่ถ้าอดีตนายกฯมีอาการดีขึ้น สะดวกในการเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่คุมประพฤติด้วยตัวเอง ก็สามารถเดินทางไปรายงานตัว ที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร 1 ถนนพรานนก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯจึงขึ้นอยู่กับอาการเจ็บป่วยในช่วงเวลานั้นๆ
“หลักการโดยรวมของการรายงานตัวของผู้ถูกคุมความประพฤติ คือต้องรายงานตัวทุกเดือน โดยในแต่ละเดือนสามารถขยับวันเวลาบวกลบได้ เช่นขยับวันเวลาการรายงานตัวเข้ามาเร็วขึ้น เพียงแค่ต้องไม่เกินปฏิทินในเดือนนั้น และถ้ารายงานตัวครบ 4 เดือน ครั้งถัดไปก็สามารถลดหย่อนได้ เป็น 2 เดือนค่อยรายงานตัว ซึ่งก็เป็นไปตามเกณฑ์ที่ถูกใช้กับผู้ถูกคุมประพฤติรายอื่นๆ”พ.ต.ท.มนตรี กล่าว
ส่วนคุณสมบัติของผู้อุปการะผู้ได้รับการพักโทษ พ.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ผู้อุปการะไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้ครอบครองทะเบียนบ้านของสถานพักโทษ แต่ต้องเป็นบุคคลที่สามารถให้หลักประกันแก่กรมคุมประพฤติได้เช่น มีสถานะ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในพื้นที่ กทม.เจ้าหน้าที่คุมประพฤติสามารถติดต่อได้สะดวก เพราะผู้อุปการะก็เหมือนผู้ปกครอง เวลาผู้ถูกคุมความประพฤติเกิดปัญหาใด เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ จะต้องประสานติดต่อได้
แจงขั้นตอนละเอียดยิบ‘5ให้5ห้าม’
รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า สำหรับข้อกำหนด ข้อห้าม หรือ เงื่อนไขต่างๆระหว่างการพักโทษ คือ”5 ให้5ห้าม”ซึ่งถูกระบุในหนังสือสำคัญแจ้งการพักการลงโทษ หรือใบ พ.8 ซึ่งเป็นเอกสารของกรมราชทัณฑ์ สำหรับผู้ได้รับการพักโทษ กรณีมีเหตุพิเศษฯ ประกอบด้วย“5ให้” คือ 1.ให้รายงานตัวกับกรมคุมประพฤติภายใน 3 วัน 2.ให้อยู่ในความดูแลของผู้อุปการะ 3.ให้ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบแบบแผน หากฝ่าฝืนหรือมีปัญหาใดให้ผู้ถูกคุมความประพฤติรายงานให้ผู้คุมประพฤติรับทราบ ส่วนการจะผิดเงื่อนไขหรือไม่ ผู้คุมประพฤติจะตรวจสอบและวินิจฉัย หากผิดเงื่อนไขก็ต้องส่งตัวกลับเข้าเรือนจำฯ 4.ให้ประกอบอาชีพสุจริต ถ้าเปลี่ยนอาชีพก็ต้องแจ้งผู้คุมประพฤติรับทราบ 5.ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานคุมประพฤติ
ส่วน“5ห้าม” คือ1.ห้ามออกนอกเขตจังหวัด หากมีกิจธุระจำเป็นต้องแจ้งผู้คุมประพฤติเพื่อขออนุญาต และต้องแจ้งกำหนดเวลาการไป-กลับ อยู่ยาวเป็นเดือนไม่ได้ 2.ห้ามประพฤติเสื่อมเสีย เช่น เล่นการพนันหรือดื่มสุราจนมีอาการมึนเมาจนก่อให้เกิดความเสียหาย ส่วนจะดื่มไวน์หรือไปสังสรรค์เล็กน้อยไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่สังคมสามารถทำได้ 3.ห้ามเกี่ยวข้องกับสารระเหยหรือยาเสพติด 4.ห้ามไปเยี่ยมผู้ต้องขังอื่นที่ถูกคุมขังภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน และ5.ห้ามคบค้าสมาคมกับผู้ที่จะนำไปสู่การกระทำความผิดซ้ำ
ไร้ห้ามนั่งบอร์ด-ที่ปรึกษาการเมือง
เมื่อถามว่า การไปดำรงตำแหน่งนั่งบอร์ดกรรมการหรือไปเป็นที่ปรึกษาในทางการเมืองสามารถทำได้ในระหว่างการพักโทษหรือไม่ พ.ต.ท.มนตรี อธิบายว่า ตนมองว่าในฐานะผู้ได้รับการพักโทษที่เตรียมจะกลับเข้าสู่สังคมเมื่อได้รับการพ้นโทษนั้น ระหว่างนี้ ก็สามารถทำหน้าที่ต่างๆได้ สิ่งสำคัญคือต้องไปดูว่าบอร์ดกรรมการนั้นๆ หรือ ตำแหน่งที่ปรึกษาในทางการเมืองนั้นๆ มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะไปดำรงตำแหน่ง โดยมีข้อยกเว้นประการใดหรือไม่ เช่น มีข้อห้ามไม่ให้ผู้ที่เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดมาดำรงตำแหน่งหรือไม่ เป็นต้น คล้ายลักษณะของกรณีที่บุคคลใด จะไปสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ก็จะมีข้อห้ามกำหนดไว้ว่าต้องไม่เป็นผู้ที่ต้องคำพิพากษาของศาลมาก่อน
“ดังนั้นในระหว่างการพักโทษจึงยังไม่มีการห้ามในเรื่องของงานทางการเมือง เพราะอย่างไรแล้วผู้ได้รับการพักโทษ เมื่อพ้นโทษ ก็จะได้ใช้ชีวิตปกติ และ มีสิทธิในฐานะคนไทยตามรัฐธรรมนูญทุกประการ” รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ ระบุ
ย้ำเข้าเงื่อนไขไม่ต้องติดกำไลEM
พ.ต.ท.มนตรีกล่าวทิ้งท้ายว่าส่วนเรื่องการติดกำไล EMในส่วนของผู้ได้รับการพักโทษแบบปกติ จะต้องติดกำไลEMเกือบทุกราย ยกเว้นมีอาการเจ็บป่วยหนัก หรือ ต้องเอกซเรย์จากการประสบอุบัติเหตุ หรือ มีความจำเป็นต้องถอดออกเพื่อการรักษาพยาบาล กรมคุมประพฤติก็จะทำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการพักการลงโทษ เพื่อถอดกำไล EM ให้ได้ ส่วนผู้ได้รับการพักโทษแบบกรณีมีเหตุพิเศษฯ ถ้าเจ็บป่วยและสูงอายุจะเข้าเงื่อนไขยกเว้นให้ ไม่ต้องติดกำไล EM ซึ่งทั้งหมดเป็นไปตามแนวทางที่คณะกรรมการพักการลงโทษได้กำหนดไว้ โดยสอดรับกับกฎกระทรวง ว่าด้วยการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดในการติดตามตัวผู้ถูกคุมความประพฤติตามเงื่อนไขที่ศาลหรือเจ้าพนักงาน
‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ปิดเงียบ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณบ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่าตลอดทั้งวันยังคงปิดบ้านเงียบตามปกติ มีแต่รถของคนในครอบครัว เข้า-ออก เหมือนเช่นทุกวันและไม่มีรายงานข่าวว่า จะมีบุคคลสำคัญเดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณ มีเพียงบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวเดินทางมาร่วมรับประทานอาหารเย็น เป็นเพื่อนนายทักษิณเท่านั้นและยังคงมีสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งเฝ้าสังเกตการณ์ทำข่าวบริเวณหน้าบ้าน
‘ทักษิณ’สั่งก๊วยเตี๋ยวเลี้ยงสื่อ-ตร.
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ และสายตรวจของ สน.บางพลัด ยังคงเฝ้าสังเกตการรักษาความปลอดภัย โดยรอบพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยวันนี้ นายทักษิณได้เหมารถขายก๋วยเตี๋ยวบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงประจำซอย เลี้ยงกลางวันสื่อมวลชนทุกสำนักที่เฝ้าทำข่าวอยู่หน้าบ้าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูแลความเรียบร้อยและเพื่อนบ้านใกล้เคียงด้วย
แฟนคลับส่งกุหลาบแดงให้กำลังใจ
ขณะที่ในเวลา10.30น. ได้มีบุคคลอ้างตัวว่าเป็นกลุ่มคนไทยแฟนคลับนายกฯทักษิณได้จ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาส่งช่อกุหลาบสีแดง ให้กำลังใจแก่นายทักษิณ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ไปส่งดอกไม้กับทีมรักษาความปลอดภัยของนายทักษิณที่อยู่ในแยกถัดไปแทน นอกจากนี้ ยังมีนายปรีดา จำปาวัน สมาชิกพรรคเพื่อไทยและนปช.จากจังหวัดปทุมธานีเดินทางมาเพื่อต้องการยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สกัดไว้พร้อมแนะนำให้ไปยื่นหนังสือที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทยแทน
‘วัชระ’ร้องจี้เพิกถอนพักโทษ‘ทักษิณ’
เวลา11.30น.ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯกำกับดูแลกระทวงยุติธรรมผ่านนายพันศักดิ์ เจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้เพิกถอนการพักโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เนื่องจากมิได้พักโทษตามกฎหมายและประกาศกรมราชทัณฑ์
เนื่องจากภาพที่ปรากฏตามสื่อมวลชน นายทักษิณยังช่วยตัวเองได้ นั่งริมสระน้ำได้ ร่วมรับประทานอาหารกับอดีตนายกฯกัมพูชา สมเด็จฮุนเซนได้จนมีการตั้งกระทู้ถามสดในที่ประชุมสภาผู้แทนฯกับพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในประเด็นนี้ในสภาฯ ซึ่งพ.ต.อ.ทวีก็ยอมรับว่าได้คะแนนประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ตามข่าว แต่ความจริงที่ปรากฏ น.ช.ทักษิณดูอิ่มเอิบสุขสบาย ไม่ใช่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แต่อย่างใด
ตั้งกก.สอบพิจารณาปมพักโทษ
“ดังนั้น ขอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลโปรดสั่งการให้หน่วยงานของรัฐที่ท่านกำกับดูแลและมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายดำเนินการ ดังนี้ 1.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ กระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์และ รมว.ยุติธรรมว่า อนุมัติให้พักโทษถูกต้องตามกฎหมายและข้อเท็จจริงหรือไม่ ตามเหตุผลสำคัญในหนังสือร้องเรียนของนายแก้วสรร อติโพธิ อนึ่งทราบข่าวว่าอนุกรรมการฯลาออกไป 2 คน และอธิบดี ไปทำกันเองภายในกับเจ้าหน้าที่ที่กระทรวงจริงหรือไม่2. ยกเลิกการอนุมัติพักโทษ นายทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากมิได้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศกรมราชทัณฑ์จริง เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน” นายวัชระย้ำทิ้งท้าย
‘วรชัย’โดดโต้ป้อง‘นายใหญ่’
นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี(นายภูมิธรรม เวชยชัย) ให้สัมภาษณ์ตอบโต้กรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ระบุการพักโทษของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตรจะซ้ำเติมความเสื่อมของรัฐบาลว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าอดีตนายกฯทักษิณเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญ2540ที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด นโยบายของรัฐบาลอดีตนายกฯ ทักษิณ ทำแล้วประชาชนได้และประเทศได้ประโยชน์ ซึ่งไม่มีเรื่องใดที่เกี่ยวกับการทุจริต ต่างกับรัฐบาลที่ผ่านมาที่นายจุรินทร์เป็น รมว.พาณิชย์ ตอนนั้นประชาชนต้องการหน้ากากอนามัย ประเทศไทยผลิตจำนวนมากแต่กลับมีไม่พอใช้ เมื่อตรวจสอบก็พบว่ามีการส่งออกไปต่างประเทศ จนทำให้ประชาชนเดือดร้อนก็ต้องถามนายจุรินทร์ว่าใครเป็นคนอนุมัติเรื่องนี้
ไล่ไปดูหลักเกณฑ์พักโทษ
นายวรชัยย้ำว่าวันนี้อดีตนายกฯ ทักษิณได้รับโทษ ตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ที่อ้างกันว่าเป็นนักโทษเทวดา เป็นแค่วาทกรรม ขอให้นายจุรินทร์ไปดูหลักการพักโทษข้อ7ของสหประชาชาติที่ระบุว่าผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลส่วนตัวแพทย์จะเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ยกเว้น ผู้ป่วยเห็นชอบ การที่บอกว่าให้เอาเอกสารทางการแพทย์มาดูว่าป่วยจริงหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ผิดหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และเป็นเรื่องที่แพทย์ทำไม่ได้
ซัด‘จุรินทร์-ชัยธวัช’มีปมในใจ
“คนที่ออกมาวิจารณ์การพักโทษทั้งนายจุรินทร์และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลนั้น ควรความเป็นจริงด้วย เพราะมีผู้ได้รับการพักโทษ อีกจำนวนมาก ไม่ได้มีเพียงอดีตนายกฯทักษิณเพียงคนเดียว ใครที่เป็นผู้ต้องขังแล้ว เข้าหลักเกณฑ์การพักโทษก็จะได้รับการพักโทษ เหมือนกันทุกคนอยู่แล้ว นายจุรินทร์และนายชัยธวัชที่ออกมาวิจารณ์ต่อเนื่อง เพราะมีปมในใจอะไรหรือไม่ หรือเป็นเพียงความไม่พอใจ เป็นการส่วนตัวที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคก้าวไกลไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่”นายวรชัย ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี