‘ทักษิณ’ระทึก! ลุ้น 30 เม.ย. ศาลฎีกาฯนัด‘ชาญชัย’ฟังคำสั่ง ร้องนำตัวมารับโทษ

‘ทักษิณ’ระทึก! ลุ้น 30 เม.ย. ศาลฎีกาฯนัด‘ชาญชัย’ฟังคำสั่ง ร้องนำตัวมารับโทษ

วันศุกร์ ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568, 14.58 น.

ลุ้น 30 เม.ย.ศาลฎีกาฯนัด‘ชาญชัย’ฟังคำสั่ง ร้องศาลให้นำ‘ทักษิณ’มารับโทษ นักกฎหมายชี้ศาลตัดสินแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องของราชทัณฑ์  

25 เมษายน2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ได้นัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ร้อง มาฟังคำสั่งในคำร้องที่ก่อนหน้านี้นายชาญชัยได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม2568 เพื่อขอให้ศาลฎีกาฯไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาฯ


นายชาญชัย เห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 89, 89/2(1) (2) และมาตรา 246 โดยไม่อาจอ้างกฎกระทรวง เรื่องการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 25กันยายน 2563 ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายชาญชัยเคยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาฯมีคำสั่งยกคำร้องทั้ง 2 เรื่องโดยไม่ต้องไต่สวน โดยให้เหตุผลว่าเมื่อศาลฎีกาฯออกหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สิ้นสุดไปแล้ว การบังคับโทษและอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ปัญหาว่าเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น จึงไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกา จึงไม่ต้องไต่สวนคำร้อง ให้ยกคำร้อง

นายชาญชัยจึงยื่นคำร้องอีกครั้งเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเดิม และขอให้รับคำร้องไว้ไต่สวนและมีคำสั่งบังคับโทษจำคุกให้เป็นไปตามคำพิพากษาที่ถึงที่สุด โดยศาลฎีกาฯนัดฟังคำสั่งวันที่ 30 เมษายนเวลา 13.00 น.

แหล่งข่าวนักกฎหมายในกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า เรื่องนี้มันเป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ ครั้งนี้ก็น่าจะเช่นเดียวกัน เนื่องจากคดีเมื่อศาลตัดสินคดีถึงที่สิ้นสุดแล้ว ออกหมายจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สิ้นสุดก็หมดหน้าที่ของศาล เรื่องการบริหารโทษเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ที่อยู่ภายใต้ การกำกับดูแลของกระทรวงยุติธรรม ขั้นตอนจะไปผิดหรือทำไม่ชอบในการบริหารโทษ ก็ต้องไปว่ากันอีกเรื่อง ไปฟ้องดำเนินคดีกันไป ศาลจะไม่เกี่ยวข้องอีก จะเห็นได้จากหลายคดีที่ศาลพิพากษาประหารชีวิต แล้วสุดท้ายได้ประหารจริงหรือไม่ ก็ไม่ได้มีการประหาร เพราะเรื่องการบริหารโทษเป็นของกระทรวงยุติธรรมแล้ว แต่คดีนี้เมื่อนายชาญชัยไปยื่นก็ต้องรับวินิจฉัยไว้เท่านั้นเอง เหมือนก่อนหน้านี้ที่ศาลฎีกาฯมีคำสั่งยกคำร้อง

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top