เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ’เตรียมบุกทำเนียบ 27 กุมภานี้ จี้นายกฯเห็นชอบร่างกม.บำนาญผู้สูงอายุ

26 ก.พ. 2567 เพจเฟซบุ๊ก “บำนาญแห่งชาติ” ของเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ โพสต์ข้อความดังนี้ #เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ และภาคประชาชนอีกหลายเครือข่ายรวม 43,826 รายชื่อ ร่วมกันเข้าชื่อเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุและบำนาญพื้นฐานแห่งชาติฯ ไปเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 และมีการเปิดรับฟังความเห็นเรียบร้อยแล้วนั้น แต่ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวยังเข้าพิจารณาในสภาไม่ได้ เพราะเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่มีการเงินเกี่ยวข้อง สถานะของกฎหมายจึงอยู่ระหว่างการรอรับรองจากนายกรัฐมนตรี

ดังนั้นภาคประชาชนจึงเตรียมขอเข้าพบ พร้อมทั้งขอหารือ และยื่นจดหมายให้กับนายกฯ ในอังคารที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้นายกฯ เร่งให้ความเห็นชอบต่อการนำร่างกฎหมายฉบับประชาชนเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภาโดยเร็ว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ เคยรวบรวมรายชื่อประชาชนครบ 1 หมื่นคน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เสนอร่างกฎหมายบำนาญแห่งชาติ และมีการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2563 เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) ลงนามรับรองร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อให้สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรได้ โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ (ในขณะนั้น) มารับหนังสือข้อเรียกร้อง

นอกจากนั้น ในวันที่ 27 พ.ค. 2565 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ยังมีการพิจารณารายงานการศึกษาแนวทางการเสนอกฎหมายบำนาญพื้นฐานแห่งชาติ จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่ง สส. ส่วนใหญ่ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านในเวลานั้น มีความเห็นไปในทางเดียวกัน คือสนับสนุนรายงานการศึกษาดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้สูงอายุ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน แต่เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ ควรหาวิธีบริหารรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่แบบราชการ เพราะมีข้อจำกัดมากทำให้เกิดความล่าช้า

อย่างไรก็ตาม จนถึงวันที่ 20 มี.ค. 2566 ซึ่งเป็นวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้ง สส. ชุดใหม่ ก็ยังไม่มีการลงนามกฎหมายจากนายกรัฐมนตรี ทำให้ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 และมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ และ รมว.คลัง ในช่วงต้นเดือน ก.ย. 2566 ภาคประชาชนจึงมีการล่ารายชื่ออีกครั้ง กระทังได้นำไปยื่นที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2566 โดยมี นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร (คนที่หนึ่ง) และ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สวัสดิการสังคม สภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับรายชื่อดังกล่าว