ทีมทนาย"บิ๊กโจ๊ก"แถลงโต้เดือดปมออกหมายจับ"บิ๊กตำรวจ"โยงคดีเว็บพนัน ยันตรวจสอบแล้วยังไม่มีการออกหมายเรียก"รองผบ.ตร."แต่อย่างใด ชี้ขณะนี้ข้อกล่าวหาอยู่ในชั้นของ ป.ป.ช.แล้ว พร้อมยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเว็บพนัน ระบุเป็นการดิสเครดิตสกัดนั่งผบ. ตร. ประกาศสู้กลับเพื่อปกป้องชื่อเสียง ขอให้จับตาดูข้อเท็จจริงที่จะปรากฎให้สังคมได้เห็น
12 มี.ค.67 จากกรณีพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น. เดินทางมายื่นคำร้องขอออกหมายจับกลุ่มนายตำรวจระดับสูงพัวพันเว็บพนัน ในความผิดฐานสมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินตามที่สมคบกันตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5, 9, 10 โดยศาลอนุญาตออกหมายจับ ผู้ต้องหาจำนวน4 ราย เเยกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 รายเเละพลเรือน 1 ราย ส่วนนายตำรวจอีก 1 คนให้ออกหมายเรียกก่อน เเต่ไม่ขอระบุว่าเป็นใคร พร้อมยอมรับว่าในส่วนนายตำรวจที่ถูกออกหมายเรียกเป็นนายตำรวจระดับนายพล ส่วนอีก 3 คนไม่มีตำรวจระดับนายพล พร้อมระบุว่าการมาขอออกหมายจับครั้งนี้ไม่กดดันเพราะเราทำตามกฎหมาย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (ด่วนที่สุด!ศาลออกหมายจับ‘3บิ๊กตำรวจ-พลเรือน’เอี่ยวเว็บพนัน ‘นายพลใหญ่’โดนหมายเรียก)
เมื่อเวลา 17.00 น.ทนายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ และ ทนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทีมทนายความที่ได้รับมอบหมายแต่งตั้งจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง ว่า จากการที่มีคณะพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งศาลได้มีดุลพินิจยกคำร้องไม่ออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ โดยศาลมีดุลยพินิจว่าไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ และยืนยันว่าศาลไม่มีการออกหมายเรียกพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่อย่างใด ตนอยากให้ประชาชนทำความเข้าใจเพิ่มเติมเรื่องการเผยแพร่ข้อเท็จจริงในทำนองว่าศาลไม่อนุมัติออกหมายจับ แต่อนุมัติหมายเรียกแทนนั้น ทางทีมทนายความและคณะทำงานได้ตรวจสอบแล้วว่า ศาลไม่มีคำสั่งอย่างที่มีการเผยแพร่ออกไป
เมื่อศาลไม่อนุมัติออกหมายจับและยกคำร้องของพนักงานสอบสวนแล้ว และหากเห็นว่าพนักงานสอบสวนยังจะดำเนินการต่อ ทีมทนายความต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ซึ่งพบว่าไม่ถูกต้องและไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการกล่าวหา พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้มีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. แล้วซึ่ง ป.ป.ช.ก็ได้มีมติรับเรื่องไว้ไต่สวนแล้ว โดยข้อเท็จจริงนี้ถูกเผยแพร่ไปตั้งแต่ วันที่ 5 มีนาคม 2567 แล้ว ซึ่งหากพนักงานสอบสวนยืนยันว่าจะดำเนินการต่อทีมทนาย เห็นว่าจะเข้าข่ายมาตรา 157 การปฎิบัติหน้าที่ที่โดยมิชอบ ซึ่งส่วนนี้พนักงานสอบสวน จะต้องรับผิดชอบเอง
ทั้งนี้ พล.ต.อ สุรเชษฐ ยืนยันว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการกระทำความผิดตามที่ถูกตั้งเรื่องและกล่าวหา ย้ำว่าไม่มีเส้นเงินไหนของตนเองที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันใดๆ ซึ่งเงินต่างๆเป็นเงินของตนเองโดยแท้ และไม่ได้มาจากเว็บพนันออนไลน์ ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มอบเงินให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ เป็นเงินส่วนตัวเป็นเงินส่วนตัวของท่านไม่ได้รับมาจากเว็บพนันตามที่ถูกกล่าวหา ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเท็จ เพื่อยื่นต่อคณะพนักงานไต่สวนของ ป.ป.ช. ต่อไป
ทนายณัฐวิชช์ กล่าวอีกว่า ทีมทนายความ เห็นว่าการไปยื่นคำร้องในวันนี้ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวนยื่นขอมา ซึ่งหากพนักงานสอบสวนจะดำเนินการในเรื่องนี้ต่อก็ขอว่าอย่าอ้างศาล ถ้าจะทำอะไรก็ให้รับผิดชอบด้วยตนเอง โดยทนายอ้างว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าจะดำเนินการตามสิทธิ์ของท่านทุกช่องทางไม่ว่าจะทางแพ่งหรืออาญา อีกทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งข้อสงสัยว่า ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้นั้น ทำไมจึงมาเกิดในห้วงเวลานี้ ซึ่งจะเข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากการดิสเครดิตเพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นแคนดิเดต ผบ. ตร.ที่มีความอาวุโสเป็นอันดับที่ 1 และการออกหมายจับในครั้งนี้ ทำให้ได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียง และส่งผลกระทบต่อการพิจารณาการแต่งตั้งผบ. ในเร็วๆนี้
ด้านทนายวราชันย์ กล่าวว่า จากการพิจารณาแล้ว จะต้องมาดูว่าพนักงานสอบสวนมีอำนาจในการดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่เพราะการที่ ป.ป.ช. รับคดีเว็บพนันมินนี่ไว้พิจารณาแล้ว เท่ากับว่าอำนาจหน้าที่ทั้งหมดจะอยู่ที่ ป.ป.ช.ไม่ว่าจะเป็นคดีเตาปูนหรือเว็บพนันมินนี่ รวมถึงเรื่องเส้นเงินนั้นที่ข้อเท็จจริงเดียวกัน ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ ได้มอบหมายให้ทีมทนายความเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดที่ถูกเผยแพร่และนำเสนอมาใช้สิทธิ์มาใช้ในการป้องกันสิทธิ์ของตนเอง โดยย้ำว่าในเรื่องนี้ยังไม่มีใครเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ทีมทนายความ กล่าวทิ้งท้ายว่า หลังจากนี้จะมีการสู้กลับ เพื่อปกป้องสิทธิของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อย่างแน่นอน พร้อมขอให้จับตาดูข้อเท็จจริงที่จะปรากฎให้สังคมได้เห็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี