‘บิ๊กโจ๊ก’ร้องสอบ‘ปธ.แผนกคดีละเมิดฯ ศาลปค.สูงสุด’อ้างเรียนหลักสูตรรุ่นเดียว‘ผบ.ตร.’แต่ไม่ถอนตัวคดี

‘บิ๊กโจ๊ก’ร้องสอบ‘ปธ.แผนกคดีละเมิดฯ ศาลปค.สูงสุด’อ้างเรียนหลักสูตรรุ่นเดียว‘ผบ.ตร.’แต่ไม่ถอนตัวคดี

วันอังคาร ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2568, 16.07 น.

‘บิ๊กโจ๊ก’ร้องประธานศาลปกครองสูงสุด จี้สอบจริยธรรมและวินัยประธานแผนกคดีละเมิดฯศาลปกครองสูงสุด เหตุเพื่อนเรียนหลักสูตรศาลรัฐธรรมนูญรุ่นเดียวกับ‘ผบ.ตร.’ แต่กลับยังนั่งพิจารณาคดี ไม่ยอมถอนตัว ขัดต่อกฎหมายเอง

9 กันยายน 2568 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เดินทางยื่นคำร้องถึงนายประสิทธิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด และนายอนุวัติ ธาราแสวง ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่น ศาลปกครองสูงสุด เพื่อเรียกร้องให้นายอนุวัติ ธาราแสวง ปฏิบัติตามจริยธรรมตุลาการศาลปกครองสูงสุด ด้วยการถอนตัวจากการพิจารณาและมีความเห็นในคดีหมายเลขดำที่ ฟ.117/2567 ที่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นฟ้อง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ และ นายกรัฐมนตรี ที่ให้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ และ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ มีคำขอให้ศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งให้ตนเองออกจากราชการไว้ก่อน และขอให้ประธานศาลปกครองสูงสุดดำเนินการทางวินัยกับอนุวัติ ในข้อหากระทำการผิดวินัยและฝ่าฝืนจริยธรรมตุลาการศาลปกครอง เพราะขาดความเป็นกลางไม่สุจริตและเที่ยงธรรม


ในหนังสือร้องเรียนของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า มีหลักฐานพบว่า นายอนุวัติ ธาราแสวง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวเรียนหลักสูตร นิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย หรือ นปธ. รุ่นที่ 12 ของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหลักสูตรเดียวกับที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร.กำลังศึกษาอยู่ ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.2567 ถึงวันที่ 20 ธ.ค.2567 และยังเป็นช่วงที่ ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ออกจากราชการไว้ก่อน และมีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ความเห็นร่างพิจารณาคดี ตีความให้คุณให้โทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้การพิจารณาร่างคำพิพากษามีความไม่เป็นกลาง ซึ่งเป็นการกระทำผิดจริยธรรมตุลาการศาลปกครอง ที่บัญญัติว่า ตุลาการศาลปกครองพึงถอนตัวจากการพิจารณาและพิพากษาคดีเมื่อมีเหตุที่ตนอาจถูกคัดค้านได้ตามกฎหมาย หรือ เมื่อมีเหตุประการอื่นที่เกี่ยวกับตุลาการศาลปกครองให้การพิจารณาคดีนั้นเสียความยุติธรรม และยังเป็นการกระทำผิดวินัยตามประกาศ ก.ศป. เรื่องวินัยแห่งการเป็นข้าราชการตุลาการศาลปกครอง

“ความเป็นเพื่อน และความสนิทสนม ของตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้และผบ.ตร.ซึ่งเป็นผู้ถูกร้องในคดี อาจทำให้การทำหน้าที่ ของตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้ ไม่เกิดความเป็นกลาง และขาดความสุจริตในการพิจารณาสำนวน ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวผมเอง ซึ่งเป็นผู้ร้อง แต่ท่านกลับเพิกเฉย ไม่ขอถอนตัวจากคดี ทั้งที่เรื่องนี้ เป็นเรื่องของจริยธรรมและวินัยของข้าราชกาาตุลาการศาลปกครอง วันนี้จึงเดินทางมายื่นข้อร้องเรียน ต่อประธานศาลปกครองสูงสุด ที่ศาลปกครองสูงสุด เพื่อคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้ ขอให้ ดำเนินการทางจริยธรรม และสอบวินัย กับตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านนี้ด้วย”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top