ไฟป่าภาคเหนืออ่วม
‘แม่ฮ่องสอน’เร่งดับ
ต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืน
‘เชียงใหม่’ร้อนปะทุ
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2567 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP)และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 2,213จุด ซึ่งข้อมูลจากดาวเทียม ยังระบุอีกว่าจุดความร้อนที่พบส่วนใหญ่เกิดขึ้น ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,112 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 789 จุด พื้นที่เกษตร 160 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก. 91 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ54 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด ส่วนจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ แม่ฮ่องสอน 674 จุด เชียงใหม่ 395 จุด ตาก 218 จุด
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนมากสุดอยู่ ที่เมียนมา 8,650 จุด ตามด้วยไทย 2,213 จุด ลาว 1,332 จุด กัมพูชา 1,136 จุด และเวียดนาม 633 จุด
10จว.ค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐาน
ทั้งนี้ GISTDAรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น“เช็คฝุ่น”เมื่อเวลา09.00 น.วันที่ 13 มีนาคม2567 พบว่ามี 10 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน 146.2 ไมโครกรัม น่าน 106.4 ไมโครกรัม ลำพูน 100.9 ไมโครกรัม พะเยา 94.1 ไมโครกรัม เชียงราย 92.4 ไมโครกรัม เชียงใหม่ 89.3 ไมโครกรัม ลำปาง 87.5 ไมโครกรัม เลย 82.2 ไมโครกรัม ตาก 78.2 ไมโครกรัม แพร่ 77 ไมโครกรัม สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วงเช้าพบค่าฝุ่นPM2.5อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดีไปจนถึงคุณภาพอากาศดีมาก
แม่ฮ่องสอนไฟป่ายังพุ่งไม่หยุด
ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมส่วนหน้า (ภาคเหนือ )รายงานข้อมูล hotspot จากดาวเทียมSuomi NPP (ระบบ VIIRS) 17 จังหวัดภาคเหนือ วันที่ 13 มีนาคม 2567รอบเช้า Hotspot พบว่าจ.แม่ฮ่องสอน มีการตรวจพบจุดไฟป่ามากที่สุดของภาคเหนือ คือพบจุดความร้อนจำนวน 529 จุด สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน จุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -12มีนาคม 2567จำนวน 3,711 จุด สูงสุดที่ อ.ปาย จำนวน 1,002จุด โดยเกิดขึ้นสูงสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 2,273 จุด
จนท.เร่งดับไฟป่าอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ พบว่าบริเวณสองข้างทางหลวงหมายเลข1095 สายแม่ฮ่องสอน–อ.แม่สะเรียง มีไฟป่าเกิดขึ้นสองข้างทางหลวงเป็นแนวยาวต่อเนื่อง นอกจากนั้น บางจุดได้มีการเข้าไปดับไฟป่าแล้ว แต่ยังมีไฟสุมขอนคือ ขอนไม้เศษไม้ในป่าบริเวณสองข้างทางหลวง ยังคงติดไฟและส่งผลให้เกิดควันไฟลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นจำนวนมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันคืน
สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างหนักในระยะนี้ ดูเหมือนว่า การรณรงค์แก้ไขปัญหาไฟป่าของภาครัฐไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนักและราษฎรส่วนใหญ่ มองเรื่องผลเก็บเกี่ยวจากป่าในช่วงต้นฤดูฝนที่มีเห็ดเผาะและเห็ดอื่นๆ นานาชนิด ที่ยังเป็นที่นิยมของคนทั่วไปอย่างมาก ถึงแม้ราคาเห็ดถอบ หรือเห็ดเผาะออกใหม่จะมีราคาสูงเพียงใด ก็ยังมีคนนิยมซื้อกิน ทำให้การรณรงค์ จึงไม่ค่อยได้ผลและตรงจุด
ไฟป่า-ฝุ่นในเชียงใหม่ยังหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์IQAirสังเกตการณ์คุณภาพอากาศของเมืองสำคัญทั่วโลกได้อัปเดตการจัดอันดับเมืองใหญ่ ที่มีมลพิษมากที่สุดแบบเรียลไทม์ณ เวลา 09.20 น. พบ จ.เชียงใหม่ ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 11 โดยวัดค่าฝุ่นได้141 AQI US อยู่ในระดับสีส้ม มีผลกระทบต่อผู้ป่วย หรือร่างกายอ่อนแอ
โดยทางนายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าฯเชียงใหม่ประธานประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5แบบบูรณาการ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์และสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมาให้กับหน่วยงานได้รับทราบ มีส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้รายงานสถิติการเกิดจุดความร้อนในห้วงวันที่ 1 ม.ค.-11มี.ค.67มีจุดความร้อนเกิดขึ้นทั้งหมด 2,260จุดขณะที่พื้นที่เผาไหม้จังหวัดเชียงใหม่ ถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 17 ของประเทศ มีพื้นที่เผาไหม้ 68,685 ไร่
จุดความร้อนรอบเชียงใหม่ปะทุขึ้น
จากแผนที่จุดความร้อนรายวันจากดาวเทียมพื้นที่ประเทศไทย และประเทศรอบข้างแสดงถึงจุดความร้อนบริเวณโดยรอบของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาและจังหวัดใกล้เคียงอย่างแม่ฮ่องสอนที่เริ่มมีจุดความร้อนปะทุขึ้นอย่างหนัก ประกอบกับจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับอิทธิพลจากลมตะวันตกทำให้ฝุ่นควันในพื้นที่ข้างเคียงลอยเข้ามาปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้นในช่วงนี้
ไฟป่ารอบเขื่อนภูมิพลพุ่ง109จุด
สถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้น ในพื้นที่ จ.ตาก เริ่มทวีความรุนแรง ปะทุหนักครอบคลุม 9 อำเภอใน จ.ตาก ซึ่งนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าฯตาก ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ภัยจากไฟป่าและหมอกควันจ.ตาก ได้สั่งการและระดมเจ้าหน้าที่ บูรณการจากทุกหน่วยงาน ตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าระงับเหตุให้รวดเร็วเพื่อป้องกันไฟป่า ให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้ป่าได้รับความเสียหาย และลดหมอกควันปัญหา PM2.5
ล่าสุด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม จ.ตาก รายงานผลการตรวจพบจุดความร้อนจากดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIIRS เมื่อช่วงเวลา 02.01 น. ที่ผ่านมา พบจุดความร้อน เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ตาก มากถึง 296 จุด โดย 109 จุด อยู่ในพื้นที่ ผืนป่าซับน้ำรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา
ทส.เร่งส่งฮ.ขึ้นปฎิบัติดับไฟป่า
นายกานตพันธุ์ พิศาลสุขสกุล ผู้ช่วยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายในการแก้ไขสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยบูรณาการอากาศยานกับภาคพื้น ณ ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเขื่อนภูมิพล(War Room)ดังนี้1.สป.ทส.จะนำ ฮ.มาประจำ 2วัน/สัปดาห์ เตรียมการน้ำมันและอุปกรณ์ดับไฟป่าต่อไป 2.เพื่อความปลอดภัย จึงขอให้หน่วยงาน ดูแลสถานที่จุดจอด ฮ ชั่วคราว โดยการสำรวจ และแผ้วถาง พื้นที่จุดจอด 3.พื้นที่ จ.ตากและแนวเขตรอยต่อพื้นที่อนุรักษ์ และป่าสงวนโดยรอบ เป็นพื้นที่สูงชันเข้าถึงได้ยาก และมีแหล่งน้ำน้อย ฮ จึงเน้นการส่งกำลัง และส่งเสบียงเป็นหลัก 4. ในช่วงบ่าย หน่วยงานในพื้นที่จะมีการประชุมวางแผนและใช้อากาศยานในการส่งกำลัง และลาดตระเวนต่อไป
น่าห่วงกำลังทวีความรุนแรง
ทั้งนี้ รายงานแจ้งเพิ่มว่าสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ผืนป่าซับน้ำรอบอ่างน้ำเขื่อนภูมิพล ขณะนี้ กำลังทวีความรุนแรง แต่ละผืนป่า มีพื้นที่คาบเกี่ยว ต่อเนื่องหลายจังหวัด เช่นผืนป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำปิง ซึ่งมีรอยต่อครอบคลุม จ.ตาก จ.ลำปาง และ จ.ลำพูน ส่วนผืนป่าแม่ตื่น ซึ่งมีพื้นที่รอบต่อ ครอบคลุม จ.ตาก จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน ซึ่งปัญหาที่พบ คือ การเข้าถึงพื้นที่เกิดไฟ ที่เป็นไฟด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน ต้องเดินทางด้วยเรือ ลากโป๊ะ ที่บรรทุกจักรยานยนต์ เพื่อจะขี่ไปให้ใกล้จุดเกิดไฟ แล้วต้องเดินเท้าขึ้นภูเขาระยะทางไกลลาดชันสูง ไม่มีสัญญาณมือถือ ติดต่อกันไม่ได้ หลายทีมปักหลักดับไฟป่า ต่อเนื่องนานนับสัปดาห์ ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ส่งเสบียงอาหาร นอกจากนี้ ยังได้เตรียมแผนพื้นที่จอด ฮ.ไว้ในภาวะฉุกเฉินด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี