3จังหวัดภาคเหนืออ่วม!
ไฟป่าลามหนัก
เชียงใหม่ถกจนท.รับมือ
‘เชียงราย’เร่งบินทำฝนหลวง
แม่ฮ่องสอนมลพิษเกินเกณฑ์
ไฟป่านครนายกยังปะทุ4จุด
ฝุ่น PM2.5 ของไทยยังเกินค่ามาตรฐาน 20 จังหวัดเหนือหนักสุดต่อเนื่อง สูงสุดวัดได้ 328 มคก. ที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ขณะที่ไฟป่าหมอกควันยังซ้ำเติมจังหวัดภาคเหนือตอนบนทั้งเชียงใหม่- แม่ฮ่องสอน-เชียงราย ผู้ว่าฯเชียงใหม่เรียกเจ้าหน้าที่ทุกอำเภอขันน็อตสกัดไฟป่าที่ตรวจพบจุดความร้อนเพิ่ม ทำให้มลพิษเกินมาตรฐานต่อเนื่องมาเกือบ2เดือน สั่งคุมเข้มลอบเผา เจอให้ดำเนินคดีเด็ดขาด ส่วนไฟป่า’นครนายก’ยังปะทุ4จุด ระดมฮ.-คนเดินเท้าลุยดับ
ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศประจำวันที่ 2 เมษายน พบว่า ภาพรวมปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน 20 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู และ จ. อุบลราชธานี
โดยภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 40 – 328 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) สูงสุดวัดได้ 328 มคก./ลบ.ม. ที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 6 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 25-82 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 18 – 41 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 15 – 31 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 14 – 23 มคก./ลบ.ม.ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 14 – 41 มคก./ลบ.ม. ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไป ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝุ่นในจังหวัดภาคเหนือยังคงเกิดหมอกควันไฟป่าต่อเนื่อง โดยนายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมศูนย์บัญชาการป้องกันหมอกควันไฟป่า เพื่อติดตามสภาพอากาศ/ค่าฝุ่น ไฟป่าหมอกควันรายอำเภอ และกำหนดมาตรการแนวทางรับมือ ในที่ประชุมมีการรายงานสถานการณ์ในอำเภอที่มีจุดความร้อน (Hot Spot) จำนวนมากและพื้นที่สำคัญ ได้แก่ อ.เชียงดาว แม่แตง ฝาง หางดง พร้าวและแม่อาย โดยจุดความร้อนที่เกิดขึ้นส่วนมาก เกิดในพื้นที่อนุรักษ์ รวมถึงบางส่วนเป็นการลุกลามจากพื้นที่อื่น และมีพื้นที่ที่เกิดไฟป่าจะเป็นพื้นที่เขาสูง ผาลาดชัน ทำให้ยากควบคุม เนื่องจากต้องเดินเท้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ จึงสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เฝ้าระวังพื้นที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อส่วนมาก และเร่งเข้าพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้เร็วที่สุด หากจำเป็นต้องเข้าพื้นที่ช่วงเวลากลางคืนขอให้ทุกหน่วยงานร่วมประเมินสถานการณ์ เพื่อลดความสูญเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่อาจเกิดขึ้นได้ หากระดับพื้นที่ประเมินสถานการณ์แล้วว่าเกินขีดความสามารถของหน่วยงานในพื้นที่ให้ร้องขอการสนับสนุนจากจังหวัดได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่เฝ้าระวังตั้งจุดตรวจ จุดสกัดผู้ที่จะเข้าไปในพื้นที่ป่า หลังประกาศปิดป่าไปแล้ว รวมทั้งจัดชุดลาดตระเวน เพื่อป้องกันการลักลอบเผาป่าด้วย ขณะนี้ดำเนินคดีผู้ทำผิดเกี่ยวกับป่าไปแล้ว 11คดี พื้นที่เสียหายมากกว่า 50ไร่ ส่วนการลดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนนั้น ให้ทุกหน่วยงานเร่งประชาสัมพันธ์ผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน โดยประชาชนสามารถขอรับหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น ได้ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง
ด้านศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละออง จ.แม่ฮ่องสอน รายงานสถานการณ์ไฟป่าในจ.แม่ฮ่องสอนว่า จุดไฟป่าวันที่ 1เมษายนที่ผ่านมา มีจุดไฟป่าของแม่ฮ่องสอน 574 จุด ค่ามลพิษในอากาศ อ.เมืองแม่ฮ่องสอนวัดได้ 214 มคก./ลบ.ม.พบที่ อ.ปาย ค่ามลพิษวัดได้ 234 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานต่อเนื่องมาแล้ว 50วัน ส่วนในตัวเมือง เกินค่ามาตรฐาน ต่อเนื่องมาแล้ว 42วัน
จากการประชุมของศูนย์ปฏิบัติการฯที่ประชุมรายงานผลดำเนินงาน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 29 มีนาคมที่ผ่านมา พบมีจุดความร้อนสะสม7,283 จุด คิดเป็นร้อยละ77.66 ของค่าเป้าหมายปี 2566 โดยปีนี้จ.แม่ฮ่องสอนตั้งค่าเป้าหมายไม่เกิน 9,378 จุด อำเภอที่มีจุดความร้อนมากที่สุดขณะนี้ ได้แก่ อ.แม่สะเรียง เมือง และสบเมย ขณะที่ค่า PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน 39วัน
นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังจากนี้ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งจุดความร้อนและพื้นที่เผาไหม้ จึงย้ำทุกหน่วยงานปฏิบัติการตามมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเข้มข้น อาทิทำห้องปลอดฝุ่นของหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ศูนย์ดูแลเด็กเล็กให้บริการประชาชน
นายกู้ชาติ สง่าศรี หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียงกล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน สถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียงจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปดับไฟป่าต่อเนื่องทุกวัน เพราะเกิดไฟป่าเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมืองดเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่การเกษตร การชิงเผาแบบเชิงวิชาการ เพื่อลดปัญหาหมอกควัน และจุดความร้อนที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ และร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับทางผู้นำชุมชนและชาวบ้าน ทั้งนี้ จังหวัดออกมาตรการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มผู้ลักลอบเผาป่า เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
เช่นเดียวกับ จ.เชียงราย สถานการณ์ไฟป่ายังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทั้งบ้านผาวี หมู่ 8 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน พื้นที่ต.บ้านดู่ ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย ต.ป่าแดด อ.แม่สรวย พื้นที่อ.แม่จัน และอ.เชียงแสน แต่พบว่าจุดความร้อนลดลง ในวันที่ 1 เมษายนเหลือเพียง 62 จุด จากเดิมมีอยู่กว่า100 จุด นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายระดมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อาสาสมัครดับไฟป่า ฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 18 อำเภอ ประสานกำลังทหารมณฑลทหหารบกที่ 37 เข้าดับเพลิงตามจุดต่างๆ แล้ว นอกจากนี้ ยังประสานเฮลิคอปเตอร์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแและสิ่งแวดล้อม (ทส.) มาสนับสนุนการดับไฟในพื้นที่สันเขาสูงและหน้าผาชันที่เจ้าหน้าที่เข้าดับไฟไม่ถึง และวันที่ 3 เมษายน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะบินแบบอากาศยาน CASA ภารกิจดับไฟป่าเชียงราย 2 ลำ ขึ้นบิน 4 รอบ ต่อวัน ทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
สำหรับหมอกควันไฟที่เกิดขึ้นยังคงปกคลุมพื้นที่ทั่วบริเวณ และมีค่าฝุ่น 2.5 ที่สูงเกินค่ามาตรฐานโดยเฉพาะอ.แม่สาย ที่กรมควบุคมมลพิษยังวัดค่าได้ถึง 309 มคก./ลบ.ม. ทำให้ยังเห็นสภาพหมอกควันปกคลุมทั้งตัวเมืองและด่านพรมแดน ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวณหน้าด่าน ที่ตลาดดอยเวาแและตลาดสายลมจอย ย่านเศรษฐกิจหลักของพื้นที่บรรยากาศซบเซา มีนักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้าค่อนข้างบางตา
ส่วนสถานการณ์ไฟไหม้ป่าเขาแหลม ต.เขาพระ จ.นครนายก ผู้สื่อข่าวรายงานภาพรวมวันนี้ (2 เมษายน) ยังมีเชื้อไฟตกค้าง 4 จุดได้แก่ 1.ด้านวังรี ใกล้รีสอร์ต 2.จุดเขาชะพลู ด้านโครงการทหารพันธุ์ดี 3. จุดเขาตะแบก ใกล้สนามยิงปืน จปร.และ4.จุดเขาเพิ่ม แผนวันนี้คือ นำโดรนขึ้นสำรวจเพื่อวางแผนดับไฟ ใช้เฮลิคอปเตอร์ 4ลำทิ้งน้ำ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าควบคุมและดับไฟจากยอดเขาตะแบกลงไปช่องเขายางแดง รวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงโดยรอบ ขณะที่ผู้อำนวยการส่วนควบคุมไฟป่า ประชุมและจัดกำลังเจ้าหน้าที่มากกว่า100คน กระจายมุ่งเป้าดับไฟป่าที่ลามไปพื้นที่เขาบ้านวังรี ใกล้แนวเขตติดต่ออ.แก่งคอย จ.สระบุรี และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนพื้นที่กะอาง อ.บ้านนา พบมีกลุ่มไฟเกิดขึ้น จึงส่งเจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟแยกไปอีกชุด ล่าสุดเปลวไฟที่ฝั่งวังรีดับแล้ว เหลือแค่กลุ่มควันบางๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เกรงว่าไฟจะปะทุขึ้นอีก โดยเฉพาะช่วงทีมีลมแรง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี