'ลุงอ้วน'เสี่ยเต็นท์รถโร่แจ้งความพยาบาลสาวลวงรักหลอกเงิน 38 ล้านฐาน'ฉ้อโกง'
จากกรณีที่นายวาสิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสองย่านถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี นำเอกสารพร้อมหลักฐานการโอนเงินเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกพยาบาลสาวคนสนิท อายุ 39 ปี สังกัดโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง นำสำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วยในโรงพยาบาลจำนวน 680 คนมาทยอยเอาเงินไปปล่อยกู้ตั้งแต่ปี 63 จนถึงปี 67 ทำให้สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันที่ 15 มี.ค.67 เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายวาสิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปีได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อีกครั้งเพื่อต้องการดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง หลังจากครั้งแรกแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น
นายวาสิตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำหลักฐานการกู้ยืมเงินทั้งหมดมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ธีรนันท์ พยาบาลสาวรายนี้ หลังมาทราบความจริงในภายหลังว่า พยาบาลสาวได้นำหลักฐานสำเนาบัตรประชาชนของผู้อื่นมากู้ยืมเงินจากตนไปและเมื่อทวงถามถึงเงินที่กู้ยืมไปเพื่อจะนำมาใช้ในธุรกิจ กลับถูกปฎิเสธและขาดการติดต่อ วันนี้จึงเข้าแจ้งความอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีในข้อฉ้อโกง โดยใช้เอกสารผู้อื่นหรือปลอมแปลงมาทำการกู้ยืมเงินไปจากตน หลังจากเป็นข่าวยังไม่ได้รับการติดต่อจากพยาบาลสาวรายนี้เลย ซึ่งถ้าหากเขาติดต่อกลับมาเพื่อพูดคุยกันถึงยอดเงินที่กู้ไป ตนก็พร้อมเจรจา ยังให้โอกาสอยู่ ที่ผ่านมาพ่อแม่เขาก็ทราบเรื่องทั้งหมดแล้วพร้อมกับเอ่ยคำขอโทษ หลังจากนี้ก็ถือว่าหมดเวรหมดกรรมต่อกัน
ขณะเดียวกันทราบว่ามีผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของสำเนาบัตรประชาชนที่ถูกนำมากู้เงินได้เดินทางเข้าแจ้งความพยาบาลสาวในพื้นที่ต่างๆบ้างแล้ว หลังเกิดเรื่องตนได้ขอโทษภรรยากับลูกๆทั้งหมดแล้ว ภรรยาก็ปลอบใจพร้อมกับให้กำลังใจ ซึ่งเขามองว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม ถ้าหากเคลียร์ได้ก็เคลียร์ให้มันจบๆ ไปและตนก็พร้อมที่จะจบความสัมพันธ์กับพยาบาลสาวรายนี้อย่างแน่นอน โดยช่วงเวลาที่คบหากับพยาบาลสาวมาหลายปี เหมือนเลี้ยงงูเห่าไว้ข้างตัว ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดนี้ ก็เพราะต้องการให้สังคมรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมการโกงในเรื่องของการนำสำเนาเอกสารบัตรประชาชนของผู้อื่นมาใช้โดยที่เจ้าของบัตรตัวจริงไม่รู้เรื่องมาก่อน จึงเกรงว่าเขาจะเอาเอกสารชุดนี้ไปหลอกกู้เงินจากใครอีกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายวาสิตย์ เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถจะเดินทางเข้าพบว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค.67 เพื่อให้ช่วยติดตามเรื่องคดี พร้อมประสาน ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความคนดัง เพื่อขอให้เข้ามาช่วยเป็นทนายว่าความในคดีนี้อีกด้วย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี