'พ.ต.ท.เก๊'ลองของ!อ้างเป็นหลาน 'เรวัช' หลอกสาวขอแต่งงานสูญเกือบแสน

'พ.ต.ท.เก๊'ลองของ!อ้างเป็นหลาน 'เรวัช' หลอกสาวขอแต่งงานสูญเกือบแสน

วันเสาร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568, 12.36 น.

'พ.ต.ท.เก๊'ลองของ! อ้างเป็นหลาน 'เรวัช' หลอกสาวขอแต่งงานสูญเกือบแสน

เมื่อวันที่ 25 เม.ย.68 ที่ผ่านมา น.ส.แพท (นามสมมุติ) อายุ 49 ปีได้ขอความช่วยเหลือกับนายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า หลังตกเป็นเหยื่อถูกนายสุวิทย์ ที่อ้างว่านามสกุล กลิ่นเกษร อายุ 51 ปีอ้างตัวเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.สังกัดภูธรภาค 7 ดูแลงานด้านปราบปรามยาเสพติด และยังเป็นหลานของนายพลคนดัง พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด ก่อนใช้อุบายหลอกให้รักและคบหาเป็นแฟนกัน จากนั้นขอยืมเงินประมาณ 1 แสนบาท ก่อนที่เพื่อนของ น.ส.แพท จะมาจับโป๊ะได้ว่านายสุวิทย์ ไม่ได้เป็นตำรวจจริงและไม่ได้เป็นหลานของ พล.ต.ท.เรวัช ตามที่กล่าวอ้างจึงได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ แต่กลับถูกผู้ต้องหานำป้ายข้อความไปแขวนไว้ที่รั้วประตูบ้านพักเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือเพจกล้าที่จะก้าว


น.ส.แพท เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.67 ระหว่างที่ตนกำลังไลฟ์ในติ๊กต๊อก ชายที่อ้างตัวซึ่งใช้ชื่อโปรไฟล์ในติ๊กต๊อกว่า สุวิทย์ กลิ่นเกษร ทักข้อความเข้ามาหาตน จากนั้นนายสุวิทย์ได้แนะนำตัวว่าเขาเป็นหลานของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร นายพลมือปราบคนดัง โดยอ้างว่า พล.ต.ท.เรวัช เลี้ยงดูมาพร้อมกับลูกชายทั้ง 5 คนของเขา ตนซึ่งเป็น FC ของ พล.ต.ท.เรวัชอยู่แล้ว จึงได้ถามนายสุวิทย์ว่าเป็นหลานของ พล.ต.ท.เรวัช จริงหรือไม่ ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ยืนยันหนักแน่นว่าเป็นหลานแท้ๆ และใช้นามสกุลเดียวกัน จึงได้ติดต่อกันอีกครั้งผ่านทางไลน์แล้วเริ่มมีการพูดคุยกันเรื่อยมาจนผ่านมาหนึ่งเดือน นายสุวิทย์ ได้ขอคบหาเป็นแฟน ซึ่งตนหลงเชื่อว่าเขาเป็นตำรวและยังเป็นหลานของ พล.ต.ท.เรวัช จริง จึงตัดสินใจคบหากัน 

น.ส.แพท เผยอีกว่า หลังจากที่คบหากับนายสุวิทย์ ซึ่งอ้างว่าเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท.ทำงานด้านปราบปรามยาเสพติด ได้ใช้อุบายมาหลอกขอยืมเงินตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น โดยอ้างว่าจะนำเงินไปจ่ายค่าข้าว ค่าน้ำมันให้กับลูกน้อง เพื่อใช้ทำงานสืบหาเบาะแสยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และถ้าหาก อาเรวัช ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา ผบ.ตร.ได้งบค่าใช้จ่ายในการปราบปรามยาเสพติด จะเบิกมาคืนให้ ตนหลงเชื่อจึงทยอยโอนเงินให้ไป บางครั้งก็กดเป็นเงินสดออกมาให้เขา ตลอดเวลาที่คบหากันตั้งแต่เดือนธันวาคม จนถึงต้นเดือนมีนาคม นายสุวิทย์ จะชักชวนออกไปต่างจังหวัดตลอด โดยอ้างว่าจะไปทำงานสืบหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งระหว่างที่พักอยู่ด้วยกันที่ต่างจังหวัด นายสุวิทย์ จะให้ตนรออยู่ที่ห้องพักแล้วก็จะอ้างว่าขอออกไปทำงานในพื้นที่ก่อน จากนั้นก็หายตัวไปประมาณ 3-4 ชั่วโมงแล้วก็กลับมา โดยบอกกับตนว่าไปทำงานมาเรียบร้อยแล้ว 

น.ส.แพท กล่าวต่อว่า ตนเคยขอให้นายสุวิทย์พาไปพบกับ พล.ต.ท.เรวัช ที่ตนเป็น FC อยู่ก็จะถูกนายสุวิทย์ บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดและอ้างว่าอาเรวัชงานยุ่ง ถ้าว่างก็จะพาไปเจอ ต่อมาประมาณเดือนมกราคม 68 นายสุวิทย์ได้ขอตนแต่งงาน โดยจะจัดงานแต่งงานที่ไร่ ณ กานดา ของ พล.ต.ท.เรวัช จังหวัดกาญจนบุรี และอ้างว่าอาเรวัชกับภรรยาจะเป็นคนดูแลเรื่องการจัดงานแต่งงานให้ทุกอย่าง ทำให้ตนหลงเชื่อนายสุวิทย์โดยสนิท ตนจึงพูดถึงเรื่องแหวนที่จะใช้ในงานแต่งงานวันที่ 10 พ.ค.68 ซึ่งนายสุวิทย์ ก็อ้างว่างานยุ่ง ให้ตนไปดำเนินการหาแหวนแต่งงานเอง 

ปรากฎว่าในระหว่างนี้ตนได้นำเรื่องการจัดงานแต่งงานไปปรึกษากับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เพื่อนจึงเอะใจ จากนั้นได้ทำการตรวจสอบเรื่องสถานที่จัดงานแต่งงานโดยเพื่อนสนิทได้ติดต่อไปที่ไร่องุ่นและได้รับคำยืนยันจากทางไร่ว่า ไม่มีการจัดงานแต่งงานที่ไร่องุ่นแต่อย่างใด และทางไร่ไม่เคยมีการจัดงานแต่งงานมาก่อน และได้ตรวจสอบรายชื่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าไม่มีชื่อตำรวจที่ชื่อ พ.ต.ท.สุวิทย์ กลิ่นเกษร กล่าวอ้าง จึงทำให้รู้ทราบความจริงว่าที่ผ่านมาถูกนายสุวิทย์หลอกและแอบอ้างตัวมาโดยตลอด จึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เพื่อดำเนินคดีกับนายสุวิทย์ ในข้อหาฉ้อโกงเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวนายสุวิทย์ได้ และนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี นายสุวิทย์ได้ยื่นประกันตัวออกมาในวงเงิน 1 หมื่นบาท จากนั้นนายสุวิทย์ได้พยายามหาทางติดต่อกับตนทุกช่องทางเพื่อจะให้ตนยอมความและไม่เอาเรื่อง แต่ตนไม่ยอม จนกระทั้งวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมานายสุวิทย์ ได้ขับรถ จยย.เข้ามาที่บ้านของตนในช่วงบ่าย แต่ตนไม่อยู่บ้าน นายสุวิทย์จึงเขียนข้อความในลักษณะขอโทษมาแขวนไว้ที่รั้วประตูบ้าน สร้างความหวาดกลัวให้กับตนเป็นอย่างมากเพราะนายสุวิทย์ ได้บุกมาถึงบ้านที่อาศัยอยู่ ทั้งที่เพิ่งประกันตัวออกมาแต่ก็ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกันอีก จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุวิทย์อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจขอความช่วยเหลือกับทางเพจและผู้สื่อข่าว

ด้านนายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า กล่าวว่า จากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุนอกจากจะแอบอ้างตัวเป็นตำรวจและเป็นหลานของ อดีต พล.ต.ท.คนดังแล้ว ยังมีพฤติกรรมคุกคามผู้เสียหายให้ได้รับความหวาดกลัว ทั้งที่เพิ่งจะประกันตัวในชั้นศาลออกมา หลังจากนี้ทางเพจกล้าที่จะก้าวจะประสานกับทางกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เข้าโครงการคุ้มครองพยาน เนื่องจากทางผู้เสียหายพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง ทำให้เกิดความหวาดกลัว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top