บุรีรัมย์ ชาวบ้านฮือ ร้องตรวจสอบเอาผิดเจ้าอาวาส แอบขายกุฏิเก่าแก่เกือบ 50 ปี ใช้หนี้ หลวงพ่อ อ้างผุพัง รื้อสร้างใหม่
วันที่ 16 มีนาคม 2567 อดีตผู้ใหญ่บ้าน พร้อมตัวแทนชาวบ้าน และผู้สูงอายุในหมู่บ้านแห่หนึ่ง ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันที่วัดแห่งหนึ่ง เพื่อเรียกร้องให้ทางอำเภอ และคณะสงฆ์ ตรวจสอบเอาผิดเจ้าอาวาส โดยอ้างว่า รับไม่ได้ที่เจ้าอาวาสแอบขายกุฏิเก่าแก่ที่ญาติโยมร่วมแรงศรัทธาก่อสร้างมาเกือบ 50 ปี เพื่อใช้หนี้ โดยที่ไม่มีการแจ้งผู้ใหญ่บ้าน หรือกรรมการวัดทราบ
ทั้งไม่ได้มีการทำประชาคมขอความเห็นชอบจากชาวบ้าน แต่ตัดสินใจขายและสั่งให้รื้อกุฏิหลังดังกล่าวโดยพละการ แม้ชาวบ้านจะคัดค้านแต่ก็ไม่ยอมรับฟัง ยังดึงดันให้รื้อเพื่อขายไม้ที่ตกลงกับผู้ซื้อไว้แล้วในราคา 5 หมื่นบาท ชาวบ้าน และผู้สูงอายุจึงได้พากันออกมาร้องเรียนเพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบการกระทำของเจ้าอาวาสว่าถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็ให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายและระเบียบวินัยของสงฆ์
นายอ่าน อยู่ยั่งยืน อดีตผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า กุฏิหลังนี้สร้างมาเกือบ 50 ปีแล้ว จู่ๆ ถูกสั่งรื้อก็ตกใจ น่าจะมีการพูดคุยหรือประชาคมขอความเห็นชอบจากชาวบ้านก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร แต่หลวงพ่อกลับขายในราคา 5 หมื่นบาท อ้างว่า ขายใช้หนี้แต่ไม่รู้ว่าหนี้อะไร พอเกิดเรื่องถึงมีการเรียกประชาคมซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ยกมือให้ยุติการรื้อ มีแค่ 2 คนที่เห็นด้วย จากกรณีดังกล่าวก็อยากให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าเจ้าอาวาสทำถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็ให้ดำเนินการเอาผิดตามระเบียบของสงฆ์ หรือให้ย้ายออกจากวัดไป เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจและศรัทธาของชาวบ้านที่ร่วมกันสร้าง
ด้าน ชาวบ้านบอกว่า ตัวเองเป็นคนหนึ่งที่มีร่วมในการก่อสร้างกุฏิหลังนี้มาตั้งแต่อายุ 16 – 17 ปี พอมาเห็นสภาพที่ถูกรื้อแบบนี้ก็รับไม่ได้ เหมือนทำลายความรู้สึกและศรัทธาชาวบ้าน มองเห็นใจก็จะสลายเพราะร่วมแรงร่วมใจก่อสร้างมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ถ้าหลวงพ่อทำแบบนี้ก็ไม่อยากให้อยู่ที่วัดนี้ต่อไปอีกเพราะไม่สมควรจะทำแบบนี้ ทั้งยังตั้งคำถามทิ้งท้ายด้วยความรู้สึกเสียใจว่า “ขายวัดขายกุฏิใช้หนี้เคยมีไหม”
ด้าน เจ้าอาวาส ก็ชี้แจงว่า กุฏิหลังดังกล่าวมีสภาพผุพังเกือบหมดแล้ว ในฐานะเจ้าอาวาสจึงทำตามอำนาจหน้าที่ แต่ชาวบ้านที่มาคัดค้านไม่ให้รื้อและหาว่าอาตมาไม่ทำประชาคมนั้น เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ไม่ชอบอาตมาและแยกออกไปตั้งที่พักสงฆ์ทับซ้อนกับวัด สร้างศาลาและเมรุใหม่ ทำให้ในหมู่บ้านมีเมรุ 2 หลัง ดังนั้น ถึงแม้อาตมาจะประชาคมเขาก็ไม่ยอมอยู่ดี ที่ผ่านมา เคยจะซ่อมแซมกุฏิหลังดังกล่าวก็ยังทำไม่ได้ อาตมาบวชที่นี่มา 20 ปี ชาวบ้านกลุ่มนี้ก็ไม่เคยมาร่วมทำบุญ ดังนั้น อาตมาจึงต้องใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะเจ้าอาวาส ทำตามกฎระเบียบของเถระสมาคม รื้อหรือทำใหม่ให้สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในวัดดีขึ้น ที่ผ่านมา ก็กล่าวหาอาตมาต่างๆ นาๆ หาว่าอาตมาไม่ให้เผาศพที่เมรุในวัดบ้าง ต้องไปเผาเมรุที่พักสงฆ์ทั้งที่อาตมาไม่เคยพูดหรือห้ามไม่ให้เผา
ส่วนเรื่องที่อาตมาสั่งรื้อกุฏิ ก็เพราะมีสภาพผุพังต้องการจะสร้างใหม่ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ ส่วนเงิน 5 หมื่นบาท อาตมาก็จ่ายค่าเหล็กที่เอามาสร้างศาลาอีกหลังไว้เพื่อเก็บข้าวของ ที่ย้ายออกมาจากกุฏิ เพราะตอนแรกมีคนที่ศรัทธาบอกจะจ่ายค่าเหล็กให้แต่ก็ไม่ส่งเงินมาให้ อาตมาจึงไม่มีเงินไปจ่ายค่าเหล็กกว่า 42,000 บาท เห็นว่ากุฏิผุพังจึงประกาศว่าถ้าใครกล้ารื้อจะขายไม้ให้ในราคาถูกๆ เพราะจะเอาเงินส่วนนี้ไปจ่ายค่าเหล็ก ยืนยันว่าทำตามอำนาจหน้าที่ตามกฎระเบียบเถระสมาคมไม่ได้เอาเงินไปใช้ส่วนตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี