เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มี.ค.67 พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อมรศักดิ์ แสงวรรณ รอง ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.ท.สุชาติ จิตตสินนวา สว.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.ชุดสืบสวน ตม.จว.สระแก้ว ชุดปฏิบัติการที่ 2 (ชป.2) บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ออกทำการสืบสวน หาข่าว ตรวจสอบ ป้องกัน ปราบปราม จับกุม คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย และตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าวในเขตพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อขยายผลให้ทราบถึงเส้นทางธรรมชาติที่คนต่างด้าวอาจใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมาในพื้นที่ หมู่บ้านชายแดน ทุกหมู่บ้าน เพื่อเฝ้าระวังมิให้มีการลักลอบเดินทางเข้า-ออกประเทศอย่างผิดกฎหมาย ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.ที่สั่งการให้ ตม.ทั่วประเทศระดมกวาดล้างบุคคลต่างด้าวลักลอบทำงานโดยผิดกฏหมาย ก่อนเทศกาลสงกรานต์

ต่อมา จนท.ได้เข้าตรวจค้นห้องแถวให้เช่าไม่มีเลขที่ ม. 7 ถนนดงงู-ป่าไร ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังสืบทราบว่าที่ห้องแถวดังกล่าวมีบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้ามาพักอาศัย แต่ไม่มีการแจ้งเข้าพักอาศัยของบุคคลต่างด้าว ตาม มาตรา 38 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จึงเข้าทำการตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวน 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน เช่าพักอาศัย โดยไม่มีการแจ้งการเข้าพักอาศัยของบุคคลต่างด้าวภายใน 24 ชม. จึงร่วมกันจับกุมนางอมรรัตน์ สกุลแก้ว อายุ 39 ปี  เจ้าของห้องพักมาสอบสวนพร้อมทั้งแจ้งข้อหา ให้บุคคลต่างด้าวชาวกัมพูชาพักอาศัยแต่ไม่ได้แจ้งการพักอาศัยภายใน 24 ชม. ตามมาตรา 38 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ดำเนินการเปรียบเทียบปรับนางอมรรัตน์ ฯตามกฎหมายสูงสุดคือปรับ 1600 บาท ต่อต่างด้าว 1 คน ซึ่งเป็นอัตราค่าปรับสูงสุดเพื่อตัวอย่างให้กับคนไทยที่ให้ที่พักพิงคนต่างด้าวแล้วไม่แจ้ง จนท.ภายใน 24 ชม.จะต้องมีความผิดโดนดำเนินคดีซึ่งมีโทษปรับสูงสุดทุกราย