"ผู้ว่าฯเมืองแปดริ้ว"จับมือ"อดีต อสส."อรรถพล ใหญ่สว่าง ปธ.หอการค้าฯ ทอดผ้าป่าวัดหลวงพ่อโสธร นำทุนแก้ไขปัญหาช้างป่าสร้างความเดือดร้อนปชช. ขับเคลื่อนแผนอนุรักษ์"ช้างเป็นสุข คนปลอดภัย การตายเป็นศูนย์ ภายในปี 2570"
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 ที่อาคารอเนกประสงค์ พระธรรมมังคลาจารย์ วัดโสธรวราราม วรวิหาร โดยมีพระเทพภาวนาวชิรคุณ วิ. เจ้าอาวาสวัดโสธรวราราม วรวิหาร เจ้าคณะจ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์พิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อแก้ไขปัญหาช้างป่า จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด ในฐานะนายกสมาคมชาวฉะเชิงเทรา , ดร.จิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้าจ.ฉะเชิงเทรา นายกำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา หัวหน้าส่วนราชการ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ฉะเชิงเทรา ภาคเอกชนในพื้นที่ และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมในพิธี โดยมียอดเงินเข้ากองทุนฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 1,137,113 บาท ซึ่งสมาคมชาวฉะเชิงเทราร่วมสนับสนุนเงิน 200,000 บาท
นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จากการกล่าวรายงาน ของประธานกองทุนอนุรักษ์ช้างป่าฯ นั้น แสดงให้เห็นว่า มีพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวจ.ฉะเชิงเทรา จำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อน จากผลกระทบที่ช้างป่าออกมาหากินและอยู่อาศัยนอกเขตป่าอนุรักษ์ และนับวันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าภาครัฐจะได้มีความพยายามในการป้องกันแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ปัญหาช้างป่าหมดไปได้การที่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชน ได้ให้ความสำคัญ ตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยช้างป่า และเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหาช้างป่า นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายกย่องชมเชยเป็นอย่างยิ่ง จึงขอเป็นส่วนหนึ่งและขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ร่วมกันขับเคลื่อนแผนการอนุรักษ์ช้างป่า และการพิทักษ์ประชาชน ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้บรรลุผลสำเร็จตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ คือ “ช้างเป็นสุข คนปลอดภัย การตายเป็นศูนย์ ภายในปี 2570”
ศาสตราจารย์พิเศษอรรถพล ใหญ่สว่าง นายกสมาคมชาวฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ในนามของสมาคมชาวฉะเชิงเทรา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการงานสังคมสงเคราะห์ งานสาธารณประโยชน์ต่างๆ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหาช้างป่าที่สร้างความเดือดร้อนต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ต้องอาศัยและทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่คอยสอดส่องดูแลซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีความเสียสละ อดทนในการเฝ้าระวังภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อยู่ตลอดเวลา การที่หอการค้าจ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน จัดตั้งกองทุนอนุรักษ์ช้างป่า พิทักษ์ประชาชน จ.ฉะเชิงเทรา ขึ้นในครั้งนี้ จึงนับได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาช้างป่าได้อย่างยั่งยืน ประชาชนสามารถอาศัยอยู่ร่วมกับช้างป่าได้มีความสุข มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีเงินกองทุนที่จะช่วยเยี่ยวยาครอบครัวของผู้ได้รับผลกระทบได้อย่างเป็นธรรม และในอนาคตหากสามารถพัฒนาส่งเสริมพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดฉะเชิงเทราได้ จะเป็นแหล่งสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ได้มีการปรับตัวในด้านการพัฒนาอาชีพที่สอดรับกับการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างรายได้กับประชาชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ในการมาร่วมสนับสนุนในกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อแก้ไปปัญหาช้างป่า จ.ฉะเชิงเทรา ในวันนี้จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนแก้ไขปัญหาช้างป่าร่วมกับผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลจำนวนมากที่ได้มาร่วมทำบุญใหญ่ในครั้งนี้ร่วมกัน และขอให้กองทุนอนุรักษ์ช้างป่า พิทักษ์ประชาชน จ.ฉะเชิงเทรา ได้ดำเนินงานสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้
ดร.จิตรกร เผด็จศึก ประธานหอการค้า จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่าจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับผลกระทบจากช้างป่าที่ออกมาหากินและอยู่อาศัยนอกเขตป่าอนุรักษ์มาอย่างยาวนาน และนับวันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น มีพื้นที่เสี่ยงภัยช้างป่าจำนวน 4 อำเภอ 10 ตำบล 134 หมู่บ้าน พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายมากกว่า 200 ไร่ต่อปี ประชาชนและเจ้าหน้าที่ ได้รับบาดเจ็บเฉลี่ย 7 คนต่อปี และเสียชีวิตเฉลี่ย 4 - 5 คนต่อปี ไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขณะเดียวกันก็มีช้างป่าตายอยู่นอกเขตป่าอนุรักษ์เฉลี่ย 4 - 5 ตัวต่อปี การอนุรักษ์ช้างป่า ไม่มีงบประมาณเพียงพอ การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่ายังไม่เป็นธรรม ดังนั้นเพื่ออนุรักษ์ช้างป่า และบรรเทาความเดือดร้อนจากความเสียหายและการสูญเสียที่เกิดขึ้นให้แก่ประชาชน หอการค้าจ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดตั้งกองทุนอนุรักษ์ช้างป่า พิทักษ์ประชาชน จ.ฉะเชิงเทรา พ.ศ. 2567 ขึ้น โดยมี พระเทพภาวนาวชิรคุณ เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา (ฝ่ายมหานิกาย) เป็นประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายสงฆ์ (มหานิกาย) , พระประชาธรรมนาถ เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา (ฝ่ายธรรมยุติ) เเละเจ้าอาวาสวัดสมานรัตนารามเป็นประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายสงฆ์ (ธรรมยุติ) , ศาสตราจารย์พิเศษอรรถพล ใหญ่สว่าง นายกสมาคมชาวฉะเชิงเทรา เป็นประธานกิตติมศักดิ์ , ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ , ประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานกรรมการ , ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฉะเชิงเทรา และเลขาธิการหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีวัตถุประสงค์กองทุน
1.เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์ช้างป่า การบริหารจัดการเกี่ยวกับช้างป่า เช่น การปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ แหล่งอาหาร โป่งเทียม สำหรับช้างป่า การก่อสร้างและการซ่อมแซมบำรุงรักษาคูกันช้างป่าหรือสิ่ง กีดขวางช้างป่า การสร้างพื้นที่ควบคุมช้างป่า การควบคุมประชากรช้างป่า การช่วยเหลือรักษาช้างป่าที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ การเคลื่อนย้ายช้างป่าที่มีพฤติกรรมดุร้าย การติดตามเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า การพัฒนาและใช้เทคโนโลยีในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยช้างป่า
2.เพื่อคุ้มครอง ช่วยเหลือเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า ทั้งการเสียชีวิต การได้รับบาดเจ็บ พืชผลทางการเกษตร ที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ หรือทรัพย์สินใดๆ ได้รับความเสียหายจากช้างป่า และ 3.เพื่อส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการท่องเที่ยว ในพื้นที่ประสบภัยจากช้างป่า
การจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี ที่จัดขึ้นในวันนี้เพื่อระดมทุนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาช้างป่า จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ให้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี