ร้องปวีณา! ถูกหลอกทำงานคอลเซนต์เตอร์ แต่ไม่ยอม-ถูกทรมานทั้งวันทั้งคืนนาน14 วัน

ร้องปวีณา! ถูกหลอกทำงานคอลเซนต์เตอร์ แต่ไม่ยอม-ถูกทรมานทั้งวันทั้งคืนนาน14 วัน

วันจันทร์ ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567, 18.14 น.

ปทุมธานี สาวเชียงรายร้องปวีณาช่วย ถูกหลอกไปทำงานคอลเซนต์เตอร์ แต่ไม่ยอมทำแล้วถูกทรมานทั้งวันทั้งคืนนาน14 วัน

วันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 15.30 น.   ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี คลอง7ธัญบุรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางสาวอัมพร (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ชาวเชียงรายได้เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังจากที่ถูกหลอกให้เดินทางไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา ให้เป็นแก๊งค์คอลเซนต์เตอร์​ แต่ตนเองไม่ยอมทำจึงถูกทรมานทำร้ายร่างกายด้วยการชกตอย และหนักสุดคือเอากระบองไฟฟ้าช็อต ก่อนหลบหนีออกมาได้ เพื่อต้องการช่วยเหลือเพื่อนอีก 2 คนจึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว 


นางสาวอัมพร  กล่าวว่า เริ่มต้นเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ตนเองได้พบกับสาวทอมคนหนึ่งชื่อแจง ที่ท่ารถเชียงราย แล้วได้พูดคุยกันเรื่องทั่วไป ก่อนที่จะแยกย้ายกันขึ้นรถทัวร์มาลงรังสิต กลับมาเจอกันอีก และในจังหวะนั้นต้องการที่จะหาโรงแรมพักจึงได้ชวนกันไปเปิดห้อง ซึ่งทางแจงก็ได้เริ่มพูดชักชวนให้ไปทำงานเป็นแอดมินที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งตนแรกตนเองยังไม่ได้ไปจึงได้ขอเฟชบุ๊คไว้ ก่อนที่จะมีปัญหาเรื่องเงินจึงตัดสินใจทักไปหาแจง เพื่อที่จะขอเดินทางไปทำงาน จนกระทั้งเมื่อวันที่ 4 มี.ค. จึงได้มีการนัดแนะให้ไปเจอกันที่ จังหวัดสระแก้ว เมื่อตนเองไปถึงก็พบกับคนชื่อแจง โดยแจ้งว่าต้องเปลี่ยนไปเข้าที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อไปถึงด่านช่องจอม ได้มีคนมารับแล้วพาเดินเลอะไปที่บ้านหลังหนึ่ง เมื่อเข้าไปในบ้านก็เดินทะลุหลังบ้านที่เป็นกำแพงแต่ทุบเป็นรูโหว่ไว้ ไปที่สะพานไม้ที่มีบ้านอีกหลังอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชาโดยมีคนเปิดประตูไว้ และมีคนมารับอีกทอด

ซึ่งเขาพาไปที่ 9จี ซึ่งหลังจากที่ไปถึง ก็โดนยึดโทรศัพท์และบัตรประชาชน รวมถึงพาสปอร์ต ซึ่งตนเองก็พบว่า ตนเองถูกหลอกให้มาทำงานเป็นแก๊งค์คอลเซนต์เตอร์ ตนเองจึงปฎิเสธที่จะไม่ทำ ก่อนที่จะโดนทำร่ายร่างกายทั้งตบ ต่อย เตะ ให้ยืนยกเก้าอีกห้ามขยับ ให้ยืนตากแดด วิ่งขึ้นลงบันได และยังมีการใช้กระบองไฟฟ้าช๊อตตามร่างกายอีก ซึ่งคนที่ทำก็เป็นคนไทย ซึ่งตอนเองคาดว่าน่าจะเป็นคนไทยใหญ่ ซึ่งเป็นผู้คุม โดยมีบอสเป็นคนจีน และคนงานที่นี่มีประมาณเกือบ 100 คน ซึ่งตนเองโดยทรมานแบบนี้ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. ที่ไปถึงทั้งวันทั้งคืน 

จนถึงวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดเวลาที่อยู่ที่นั้น ต้องทนทุกข์ทรมานโดนทำร้ายทุกวันไม่มีวันหยุด จนตนเองได้แอบตีสนิทกับคนไทยซึ่งเป็นผู้หญิง ซึ่งได้ช่วยเหลือตนเองในการติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั้งพี่เขาโดนจับได้ว่าแจ้งตำรวจ จึงถูกขายไปใหเกับอีกกลุ่มซึ่งคาดว่าน่าจะพาไปทำงานขายตัว และในวันที่ 16 มี.ค. นั้นเอง ทางผู้ที่ควบคุมได้มาพาคนงานทั้งหมดย้ายออกเนื่องจากตำรวจไทยกับกัมพูชาจะเข้ามาจับกุม ซึ่งคนงานมีประมาณ 100 คน ซึ่งทั้งหมดจะเป็นคนไทย และส่วนใหญ่จะยินยอมทำงานเพราะได้ผลประโยชน์ และ เป็นบุคคลที่มีหมายจับถูกตามล่าตัว ซึ่งเคยได้ยินเขาคุยกัน เพราะถ้ากลับมาไทยก็อาจจะถูกจับดำเนินคดีจึงยอมที่จะทำงานที่นั้นต่อ ซึ่งวันที่เขามาขนย้ายคนนั้น ได้พาออกจากคล้ายเนินสูงลงมาทางด้านหลังแล้วเอามาพักไว้ที่โรงแรมหนึ่ง จากนั้นประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะพาย้ายไปโรงแรมที่ 2 และ 3 ก่อนที่ตนเองและเพื่อนรวม 5 คนได้ตัดสินใจกระโดดรถหนีก่อนที่จะวิ่งสุดชีวิต จนรอดพ้นมาได้ ก่อนที่จะเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ต่อไป    

ทางด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ฝากเตือนอย่าไปเชื่อให้คนเขาหลอกไปทำงานที่ปอยเปตหรือที่ไหนก็ตามหรือที่เมียวดีประเทศเมียนมาซึ่งก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งหนีอออกมาได้มาหามูลินธิปวีณาฯเพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงอยากจะประชาสัมพันธ์ว่านี่คือตัวอย่างที่น้องวเขาถูกหลอกไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และเมื่อน้องเขาไปยอมทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ก็ถูกทุบตีทรมานเอาไฟฟ้าช็อตน้องถูกกระทำอย่างโหดเหี้ยมซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯก็จะจะประสานกับทางเจ่าหน้าที่ตำรวจเพื่อที่ขยายผลให้ทุกคนได้รับรู้รับทราบว่ามันใช่ว่าจะได้เงินอย่างง่ายเดียวแต่เราต้องเสียทั้งเงินเสียทรัพย์เสียทั้งตัวด้วยบางคนก็ถูกให้ไปค้าประเวณีขายต่อเมื่อไม่ยอมทำงานให้คอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้หนีจากความตายได้ถ้าหนีไม่ทันก็อาจถูกฆ่าตาย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top