ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังร่วมประชุม Global Forum for Food and Agriculture ครั้งที่ 16 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ได้รับโจทย์เพื่อนำกลับมาเร่งดำเนินการหลายประเด็น ได้แก่ การปฏิรูประบบเกษตรและอาหารของไทยอย่างเป็นรูปธรรม การจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกองทุนระหว่างประเทศ เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมในไทย การเสริมสร้างความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับประเทศภาคี และการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไทยในตลาดสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ร่วมกับรัฐมนตรีด้านการเกษตรของประเทศอื่นๆ กว่า 80 ประเทศ เห็นพ้องที่จะเร่งรัดการปฏิรูประบบเกษตรและอาหาร เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ภายในปี 2573 (ค.ศ. 2030) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เป้าหมายที่ 2 ว่าด้วยการยุติความหิวโหย” และการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการ (1) ส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน (2) การส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน (3) การลดอาหารเหลือทิ้ง และ (4) การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเปราะบาง โดยพิจารณาจากความต้องการของ “ประชาชนทุกคน” เป็นหลัก ซึ่งมีความสอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนภาคการเกษตรด้วย BCG Model ของกระทรวงเกษตรฯ
ร.อ.ธรรมนัส ยังได้หารือกับMrs.Gerardine Mukeshimanaรองประธานกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม โดยนาง Gerardine Mukeshimana ขอบคุณฝ่ายไทยที่ให้การสนับสนุนการเป็น “ประเทศเจ้าภาพ (host country)” ในการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม ซึ่งยังมีขั้นตอนการดำเนินงานหลายขั้นตอน ก่อนที่จะสามารถจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคดังกล่าวในประเทศไทยได้ โดย ร.อ.ธรรมนัส แจ้งว่าฝ่ายไทยเห็นความสำคัญของกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมอย่างมาก ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคการเกษตรของไทยในมิติต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกร ซึ่งการจัดตั้งสำนักงานดังกล่าว จะทำให้ไทยเป็นประเทศเจ้าภาพของ 3 หน่วยงานระดับโลกที่มาจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี นอกเหนือจากสำนักงานภูมิภาคขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และสำนักงานภูมิภาคของโครงการอาหารโลก (WFP)
สำหรับในมิติทวิภาคี รมว.เกษตรฯ ได้พบปะหารือกับผู้นำประเทศคู่ภาคีต่างๆ อาทิ Mr.Piet Adema รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ธรรมชาติและคุณภาพอาหารแห่งเนเธอร์แลนด์ Mrs.ClaudiaMüller รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอาหารและการเกษตรแห่งเยอรมนี และ Mr.HarvickHansnul Qalb รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรแห่งอินโดนีเซีย เพื่อร่วมผลักดันให้เกิดความร่วมมือด้านการค้าสินค้าข้าว 2 ล้านตัน และความร่วมมือการเกษตรที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมระบบเกษตรและอาหารอย่างยั่งยืน และการเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัวแก่เกษตรกรให้มีความยืดหยุ่นต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของประชากรและความมั่นคงทางอาหาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี