ป่วน3จว.ใต้40จุด!
กลุ่มก่อความไม่สงบก่อเหตุกลางดึก
หวังทำลายเศรษฐกิจ
‘กิตติ์รัฐ’บินลงใต้ด่วน
สั่งดูแลสถานที่ราชการ
กลุ่มคนร้ายก่อเหตุการณ์ความไม่สงบหลายจุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสงขลา รวม 40 จุดโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้หวังก่อความวุ่นวาย-ทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการดูแลป้องกันพื้นที่ให้มีความปลอดภัย เร่งสอบสวนหาสาเหตุ และแรงจูงใจ ‘กิตติ์รัฐ’รับคำสั่งนายกฯ บินด่วนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทันที กำชับ ผบช.ภ.9คุมเข้มพื้นที่-สถานที่ราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายก่อความไม่สงบหลายจุดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดปัตตานี, จังหวัดยะลา, จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา ตั้งแต่ช่วงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 22 มีนาคม 2567
พันเอกเอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4 ส่วนหน้า เปิดเผย ว่า เบื้องต้น ฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่า เป็นเรื่องของการสร้างสถานการณ์ ก่อกวนในพื้นที่ ซึ่งครบรอบเหตุการณ์ 20 ปีตากใบ ในปฏิทินอิสลาม 11 รอบ ในช่วงรอมฎอน จะไม่ตรงกับของเราที่จะครบรอบในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 จึงจะครบรอบ 20 ปี ทั้งนี้ การข่าว ระบุ ผู้ก่อเหตุเตรียมการมาพอสมควร หลายครั้งเราก็ได้รับการแจ้งเตือน และสามารถทำลายการเตรียมก่อเหตุของเขาได้ แต่เมื่อคืนมีหลายพื้นที่ จริงๆ ก็เฝ้าระวังอยู่ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ เป็นกลุ่มก่อกวน ไม่มีหมายจับ เพราะเป็นผู้ก่อเหตุหน้าใหม่ เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เขาสร้างขึ้นมาเพราะฉะนั้นจะไม่อยู่ในระบบของทำเนียบผู้ก่อเหตุรุนแรง ก็ยากที่จะเข้าไปดำเนินการ
ส่วนเจ้าหน้าที่มีมาตรการอย่างไรกับผู้ก่อเหตุหน้าใหม่ หลังจากนี้ก็ต้องหาเบาะแส และความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีส่วนกับเหตุการณ์มากน้อยเท่าไหร่ และพิจารณาจากหลักฐานที่เกิดเหตุในพื้นที่
ในเวลาต่อมา ทาง กอ.มน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงสรุปว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. เป็นต้นไป ได้เกิดเหตุก่อกวนหลายจุด ในเขตจังหวัดปัตตานี, จังหวัดยะลา, จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสงขลา หวังทำลายระบบเศรษฐกิจ สาธารณูปโภค ลดความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่ความมั่นคง และพยายามสร้างสถานการณ์ทำลายบรรยากาศเดือนรอมฎอนสันติสุข ดังนี้
ยะลาโดนรวม11จุด
จังหวัดยะลา จำนวน 11 จุด 1. เหตุเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพทมือถือ เครือขายระบบ AIS บ้านกาบัง หมู่ที่ 7 ตำบลกาบัง อำเภอกาบัง 2. เหตุเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพทมือถือ เครือขายระบบ AIS บ้านลือเน็ง หมู่ที่ 2 ตำบลปะแต อำเภอยะหา 3. เหตุเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณบ้านปูโละสะนีแย หมู่ที่ 4 ตำบลบานแหร อำเภอธารโต 4. เหตุเผายางรถยนต์ บนถนนบริเวณสี่แยกบ้านแหร บ้านปูโละสะนีแย หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต 5. เหตุเพลิงไหมในบริเวณพื้นที่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ (รานอัติฟละ) บ้านเงาะกาโป ตำบลบันนังสตา 6. เหตุเพลิงไหม้บริเวณโรงงานไม้ยางพารา (โรงงานสามดาวพาราวูด) บ้านเจาะบันตัง ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา 7. เหตุเพลิงไหม้เสาไฟฟ้า บริเวณสามแยกทางเขา บ้านกูแบ หมู่ที่ 2 ตำบลตะโละหะลอ อำเภอรามัน 8. เหตุลอบวางเพลิง บริษัทสหพันธ์การไฟฟ้า จำกัด (โรงบรรจุแก๊ส ปตท.) พื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง 9. เหตุลอบวางเพลิงโรงงานวัลภาเมทัลซีท พื้นที่บ้านบันนังบูโย หมู่ที่ 6 ตำบลบันนังสาเรง อำเภอเมือง 10. เหตุลอบวางเพลิงในโรงโม่ธนบดี (ชินวร) บ้านกูเบ หมู่ที่ 4 ตำบลลิดล อำเภอเมือง 11. เหตุลอบวางเพลิงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เครือข่ายระบบ True ตำบลห้วยกระทิง อำเภอกรงปินัง
ปัตตานีเจอป่วนมากถึง20จุด
จังหวัดปัตตานี จำนวน 20 จุด 1. เหตุไฟไหม้ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น) สาขาปูยุด ตำบลปูยุด ได้รับความเสียหาย 2. เหตุระเบิดภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ตำบลเกาะจัน อำเภอมายอ 3. เหตุเพลิงไหม้ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น) สาขาบางปู พื้นที่ บ้านบางปู หมู่ที่ 3 ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง 4. เหตุเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เก่า ริมถนนเส้น 4092 ในพื้นที่บ้านเจาะบาแน หมู่ที่ 6 ตำบลลุโบะยิไร อำเภอมายอ 5. เหตุเผายางรถยนต์ บนถนนหมายเลข 410 บริเวณหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเมาะมาวี หมู่ที่ 4 ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง 6. เหตุเผายางรถยนต์บริเวณโค้ง บ้านบางูกา หมู่ที่ 4 ตำบลเมาะมาวี อำเภอยะรัง 7. เหตุเผาร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น) หน้ามหาลัยฟาฏอนี หมู่ที่ 3 ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง ได้รับความเสียหายบางส่วน 8. เหตุวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น) สาขาหน้าโรงพยาบาลโคกโพธิ์ พื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ 9. เหตุวางเพลิงห้องพักรายวันโฮมสวีทโฮมรีสอร์ท พื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก 10. เหตุเผายาง บริเวณสะพานชะเมา หมู่ที่ 4 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก
11. เหตุเพลิงไหม้สำนักงานการไฟฟาส่วนภูมิภาคอำเภอทุ่งยางแดง บ้านปาแดปาลัส หมู่ที่ 1 ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง 12. พยายามลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น) สาขาอำเภอไม้แก่น ตำบลไทรทอง อำเภอไม้แก่น 13. เหตุลอบวางเพลิงสายสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณเสาไฟฟ้าสนามฟุตบอล บ้านปากู หมู่ที่ 5 ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง 14. เหตุลอบวางเพลิงสายสัญญาณโทรศัพท์ บริเวณเสาไฟฟ้า บ้านจะมือฆา หมู่ที่ 7 ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี 15. เหตุลอบวางเพลิงเสาไฟฟ้าในพื้นที่ บ้านมอแซง หมู่ที่ 4 ตำบลปล่องหอย อำเภอกะพ้อ 16. เหตุเพลิงไหม้สายอินเทอร์เน็ต ริมถนนหมายเลข 4060 ในพื้นที่บ้านอุแตบือราแง หมู่ที่ 2 ตำบลตะโละดือรามัน อำเภอกะพ้อ 17. เหตุลอบวางเพลิงเสาไฟฟ้า บริเวณบ้านบิลยา หมู่ที่ 4 ตำบลตะโละไกรทอง อำเภอไม้แก่น 18. เหตุลอบวางเพลิงในพื้นที่ ตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ 19. ลอบวางเพลิงสายเคเบิ้ลในพื้นที่ ตำบลตะบิ้ง อำเภอสายบุรี 20. ลอบวางเพลิงยางรถยนต์ในพื้นที่ ตำบลบางเก่า อำเภอสายบุรี
นราธิวาสมีเหตุเผา7จุด
จังหวัดนราธิวาส จำนวน 7 จุด 1. เหตุเผารถเกลี่ยถนน หมายเลข 4056 เขตรอยต่อบ้านกูวา หมู่ที่ 5 ตำบลริโก๋ กับบ้านบาโงฮูมอ หมู่ที่ 5 ตำบลกาวะ อำเภอสุไหงปาดี 2. เหตุเผากล้องวงจรปิด หน้าโรงเรียนบ้านตามุง ในพื้นที่บ้านตามุง หมู่ที่ 2 ตำบลเชิงคีรี อำเภอศรีสาคร 3. เหตุเผากล้องวงจรปิด หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงคีรี ในพื้นที่บ้านตามุง หมู่ที่ 2 ตำบลเชิงคีรี อำเภอศรีสาคร 4. เหตุลอบวางเพลิงโรงไม้ บ้านปรียอ หมู่ที่ 1 ตำบลกายูคละ อำเภอแว้ง 5. เหตุลอบวางเพลิงโรงงานดินขาว บ้านบาโงดุดุง หมู่ที่ 6 ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง 6. เหตุเผากล้อง CCTV ในพื้นที่ บ้านปูโป หมู่ที่ 1 ตำบลสามัคคี อำเภอรือเสาะ 7. เหตุลอบวางเพลิงในเหมืองแร่ พื้นที่ บ้านไอร์บาลอ หมู่ที่ 6 ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ
จังหวัดสงขลา จำนวน 2 จุด 1. เหตุเพลิงไหม้เสาสัญญาณโทรศัพท์ AIS ตรงข้ามมัสยิดนุรุดดีน บ้านล่องควน หมู่ที่ 6 ตำบลคูหา อำเภอสะบ้าย้อย 2. เหตุเพลิงไหม้เสาไฟฟ้าและเสาสัญญาณโทรศัพท์ Dtac ยูเทิร์นตูหยง หมู่ที่ 2 บ้านตูหยง ตำบลปากบาง อำเภอเทพา
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ รวบรวมวัตถุพยาน และเก็บพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
แม่ทัพภาค4สั่งดูแลป้องกันพื้นที่
ด้าน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการตามขั้นตอน โดยเฉพาะการดูแลป้องกันพื้นที่ให้มีความปลอดภัย เร่งสอบสวนหาสาเหตุ และแรงจูงใจการก่อเหตุ พร้อมให้ขยายผลไปยังผู้ร่วมก่อเหตุ และยังฝากความห่วงใยไปยังเจ้าหน้าที่และทุกภาคส่วน ย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และกันพื้นที่เกิดเหตุ กันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์ในช่วงเดือนรอนฎอนอันประเสริฐของพี่น้องประชาชน ที่มุ่งเป้าหวังสร้างความหวาดกลัว ทำลายเศรษฐกิจของพื้นที่ที่กำลังฟื้นตัวเป็นสำคัญและขอความร่วมมือประชาชน
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย แจ้งเบาะแสได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายกฯโทร.คุยผบ.ทบ.
เมื่อเวลา 11.10 น. ที่รัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางถึงอาคารรัฐสภา โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มารอรายงานสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค.ต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้
จากนั้นนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่าได้รับรายงานจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ แล้ว และจะลงพื้นที่ทันที
“ช่วงเดือนรอมฎอนเขาก็แสดงกำลัง เมื่อสักครู่ผมก็ได้โทรศัพท์หาผู้บัญชาการทหารบก ท่านแสดงความเป็นห่วงและได้สั่งการ ซึ่งจะต้องมีการรวบรวมข้อมูล” นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่ามีรายงานเบื้องต้นหรือไม่ว่าเหตุใดจึงมีการเจาะจงก่อเหตุความรุนแรงในช่วงเดือนรอมฎอน นายกฯ กล่าวย้ำว่า เป็นการแสดงกำลัง ซึ่งเขาทำเป็นประจำอยู่แล้ว เดี๋ยวต้องไปหาข้อมูลต่อ
เมื่อถามว่าเป็นความเกี่ยวเนื่องกับวันครบรอบ 20 ปีเหตุการณ์ตากใบด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่ทราบครับ”
เมื่อถามต่อว่าได้กำชับให้แม่ทัพภาคที่4 ลงพื้นที่ดูแลอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ได้สั่งการผ่านทางผู้บัญชาการทหารบกไปแล้ว ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ก็จะดูแลในเรื่องนี้
“กิตติ์รัฐ”ลงพื้นที่3จว.ใต้ทันที
ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวภายหลังการหารือกับนายเศรษฐา ถึงสถานการณ์ในภาคใต้ ที่เกิดความรุนแรงหลังครบรอบ 20 ปีตากใบ ว่า ตอนนี้ได้รับรายงานว่าเกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ 31 จุด ตนจะรีบลงพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เชื่อว่าผู้ก่อความไม่สงบจะหาโอกาสก่อเหตุ ทั้งนี้เตรียมประสานกับแม่ทัพภาค 4 และในช่วงเช้าได้กำชับ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ลงพื้นที่ตรวจเข้ม ในพื้นที่เกิดเหตุ และรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการและบ้านพัก ซึ่งต้องมีการข่าวว่าจะเกิดอะไรตามมาหรือไม่
ภายหลังการให้สัมภาษณ์ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยก่อนขึ้นรถ ว่า จะเดินทางลงพื้นที่ทันที โดยจะเดินทางไปที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ก่อนเข้าไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูความเรียบร้อยและการประสานสั่งงานว่าสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้มีภารกิจอื่นอีกมาก แต่ก็จะลงไปเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการในพื้นที่ด้วย
กำลัง4ฝ่ายซ้อมแผนเผชิญเหตุ
วันเดียวกัน ที่หมวดเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4443(1) บ้านสามร้อยไร่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง ประธานการประชุมและซ้อมแผนเผชิญเหตุถูกโจมตีที่ตั้งในพื้นที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชน โดยมี นายซอลาฮุดดีน ยาญา นายก อบต.อัยเยอร์เวง พ.ต.อ.ธีรภัทร ปิยะถาวร ผกก.สภ.อัยเยอร์เวง หน่วยกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ กองกำลังภาคประชาชน อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย ผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอเบตง เปิดเผยว่า ในวันนี้กำลัง 4 ฝ่าย ทั้งทหารพราน ตำรวจ ฝ่ายปกครองและกำลังภาคประชาชน ได้มาร่วมกันปฏิบัติฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุ หลังเกิดเหตุก่อกวนหลายจุด หวังทำลายความไม่สงบห้วงเดือนรอมฎอนและทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ จชต. จึงได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุและป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น สำหรับการซ้อมแผนในวันนี้ ภาพรวมก็ค่อนข้างดี อาจจะมีจุดอ่อนบ้าง แต่จากการซ้อมบ่อยๆ ในเรื่องของเวลาก็ค่อนข้างสำคัญ ซึ่งการซ้อมกับสถานการณ์จริงก็จะแตกต่างกัน โดยเฉพาะในเรื่องการสับสนวุ่นวาย จึงจะต้องมีการซักซ้อมเพื่อที่จะได้สามารถปฏิบัติงานได้ พร้อมของฝากไปยังพี่น้องประชาชนว่าทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่ แต่ก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการสังเกตรถต้องสงสัย วัตถุต้องสงสัย ช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้วย หากพบเห็นสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ได้รับทราบต่อไปเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี