กองกำลังป้องกันชาติคาเรนนี KNDF และ PDF สู้รบกันหนักกับทหารเมียนมาในเมืองโมเบียรอยต่อรัฐคาเรนนีกับรัฐฉานและเมืองผาซอง ตรงข้ามแม่ฮ่องสอน โดยฝ่ายทหารเมียนมามีการใช้เครื่องบินโจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้อพยพมุ่งหน้าสู่ชายแดนไทยเพิ่มขึ้น

วันที่ 5 เม.ย.67 แหล่งข่าวสมาชิกระดับสูงของ กองกำลังแห่งชาติคาเรนนี KA เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รับในรัฐคาเรนนีว่า วันนี้ได้เกิดการสู้รบอย่างหนักระหว่างทหารของกองกำลังป้องกันชาติคาเรนนี KNDF และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF บริเวณพื้นที่เมืองโมเบีย ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อของรัฐคาเรนนีกับรัฐฉาน ตรงข้ามอ.สี่แสง จ.ตองยี รัฐฉาน กับพื้นที่อำเภอผาซอง รัฐคาเรนนี ตรงข้าม อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

การสู้รบอย่างหนักเริ่มขึ้นหลังจากที่ กองกำลังทหารคาเรนนีได้พยายามเข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารเมียนมา ในเมืองโมเบีย และ ผาซอง ที่ยังหลงเหลืออยู่จำนวนไม่มากและทหารเมียนมาได้พยายามป้องกันฐานที่มั่นของตนเองอย่างเหนียวแน่น โดยกองทัพอากาศเมียนมาได้ส่งเครื่องบินมาโจมตี ต่อกองกำลังทหารฝ่ายต่อต้านอย่างหนัก ซึ่งการโจมตีดังกล่าว ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ทหารฝ่ายต่อต้านแต่อย่างใด แต่ทางการเมียนมากลับโจมตีไปที่ สถานที่ที่เป็นแหล่งชุมนุมของพลเรือน อาทิ วัด, โบสถ์, โรงเรียน, สถานีอนามัยและโรงพยาบาล ส่งผลให้ราษฎรชาวกะเหรี่ยงคาเรนนีเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และผู้คนในเมืองใหญ่ต่าง ๆ อาทิ เมืองลอยก่อว์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐคะยา และตามเมืองอื่น ๆ เช่น เมืองผาซอง, เมืองฟลูโซว์, เมืองดีมอร์โซว์, เมืองโมเบีย ต้องอพยพหนีไปอาศัยอยู่ในป่าทึบเพื่อหลบหนีจากทิ้งระเบิดโจมตีจากเครื่องบินทหารเมียนมา ซึ่งมีการโจมตีทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างต่อเนื่อง

กองทัพเมียนมา ไม่สามารถยึดฐานที่มั่นและพื้นที่คืนได้จากกลุ่มกะเหรี่ยงคาเรนนี แต่อาศัยการโจมตีทางอากาศเพื่อสร้างผลกระทบต่อประชาชน ที่เป็นแนวร่วมของกลุ่มต่อต้าน ส่งผลให้ฝ่ายต่อต้านต้องพะวักพะวงต่อการให้การดูแลประชาชนที่กำลังเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่สู้รบ และกลายเป็นเป้านิ่งให้กับกองทัพอากาศเมียนมา

การบุกเข้าโจมตีตามแผนยุทธการ 1111 ของกองกำลังทหารกะเหรี่ยงคาเรนนี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นต้นมา ทำให้ฝ่ายต่อต้านสามารถยึดค่ายทหารเมียนมาได้เป็นจำนวนมาก แทบทุกเมืองในรัฐคาเรนนี และทหารเมียนมาถูกปิดล้อมและโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่การการเมียนมาเมื่อไม่สามารถส่งทหารราบเข้ามาช่วยเหลือได้ จึงได้อาศัยการโจมตีทางอากาศเป็นหลัก ส่งผลให้บ้านเรือนของราษฎรและสถานที่ราชการเสียหายเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดเมื่อ 2 วันที่ผ่านมากองกำลังป้องกันประเทศ ได้มีการเปิดการฝึกทหารใหม่ขึ้นมา เพื่อสู้รบและยึดพื้นที่จากทหารเมียนมา โดยมีการฝึกในหลายแห่งในพื้นที่ เมืองผาซอง , ฟลูโซว์ , ดีมอร์โซว์ และค่ายกองบัญชาการหลัก ค่ายยามูของ กองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี KA

ปัจจุบันได้มีราษฎรชาวคาเรนนีได้เคลื่อนไหวเดินทางเข้ามาสู่ชายแดนไทยด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อหลบหลีกการโจมตีจากทางอากาศของกองทัพเมียนมา ที่ผู้อพยพทราบดีว่า ถ้ามาอาศัยอยู่ตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศไทย กองทัพอากาศเมียนมาจะไม่กล้าทิ้งระเบิดโจมตีพวกเขา โดยได้มีการเคลื่อนย้ายราษฎรกว่า 10,000 คนมุ่งหน้าสู่ชายแดนไทย ทั้งนี้ เพื่อหลบหลีกการโจมตีทางอากาศและการขอรับการช่วยเหลือด้านอาหารจากรัฐบาลไทย