ส่งกลับ‘แคดเมียม’
ผู้ว่าฯตากสั่งขุดหลุมรอฝังกลบ
เร่งเช็คสุขภาพคนสมุทรสาคร
ผู้ว่าฯ ตาก พร้อมรับกากอุตสาหกรรม“แคดเมียม” กลับหลุมกำเนิดภายใน 7 วัน ขณะที่คณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบ 2 บ่อกักเก็บกาก โดยจะให้ผู้ประกอบการทำการซีลปากบ่อ ป้องกันมลภาวะเป็นพิษ ระหว่างรอการเคลื่อนย้ายกลับมา เพื่อป้องกันอันตราย ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค สั่งการหน่วยงานในสังกัด ลงพื้นที่ตรวจสอบ-เฝ้าระวัง-ประเมินสุขภาพประชาชนรอบบริษัทเก็บกากแคดเมียม จ.สมุทรสาคร
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 เมษายน 2567 นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าฯ ตาก พร้อมด้วย นายนภัทร เตชะสิรภัทร อุตสาหกรรมจังหวัดตาก, นายสาธิต มณฑาทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม จังหวัดตาก พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยัง บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอน จำกัด (มหาชน) เลขที่ 94 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน ต.หนองบัวใต้ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บกากอุตสาหกรรมแคดเมียม ต้นทางของสารดังกล่าวที่มีการขนย้ายไปยังโรงงานใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งสารแคดเมียมมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว หลังจากที่ไปปรากฏตามข่าวที่ จ.สมุทรสาคร สร้างความแตกตื่นแก่ประชาชนจำนวนมาก เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากสารดังกล่าว ทางผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ได้สั่งการห้ามเคลื่อนย้ายเข้ามา และจะให้ส่งกลับกากอุตสาหกรรมแคดเมียมกลับไปยังแหล่งกำเนิดที่จังหวัดตาก และจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการ และอยู่ในระหว่างเตรียมการ
ตากพร้อมรับแคดเมียมกลับใน7วัน
ในส่วนของ จ.ตาก นายสุรพล วงศ์สุขพิศาล รองผู้ว่าฯ ตาก เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ลงพื้นที่ในนามคณะทำงาน ตามคำสั่ง นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าฯ ตาก มาตรวจความพร้อมของสถานที่ที่จะรองรับกากอุตสาหกรรมแคดเมียมที่กำลังเป็นปัญหาขนย้ายกลับมายังแหล่งกำเนิดตามคำสั่ง รมว.อุตสาหกรรม ภายใน 7 วัน โดยจุดแรกคือ บ่อกักเก็บกากอุตสาหกรรม ที่ได้ทำการเปิดบ่อ ขุดกากอุตสาหกรรมไปแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสภาพความแข็งของพื้นที่บ่อ มีความสมบูรณ์ แข็งตามมาตรฐาน แม้จะผ่านการใช้งานมาหลายสิบปี และจุดที่ 2 เป็นบ่อที่กำลังดำเนินการเปิดบ่อไปบางส่วน โดยมีการปิดประกาศคำสั่งอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ยึดอายัดตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ห้ามเคลื่อนย้ายกากอุตสาหกรรมอย่างเด็ดขาด ลงวันที่ 4 เมษายน 2567 เพื่อป้องกันอันตราย
ซีลปากบ่อป้องกันมลพิษ
สำหรับการตรวจความพร้อมของหลุมฝังกลบกากอุตสาหกรรม โดยรวมบ่อทั้ง 2 ที่ทำการเปิดบ่อไปแล้วนั้นยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่ก็จะให้ผู้เชี่ยวตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อจะให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละด้านเข้ามาดูแลอย่างเข้มข้น โดยในส่วนของบ่อที่ 2 ที่อยู่ในขั้นของการการเปิดบ่อนั้นจะสั่งการให้ผู้ประกอบการทำการซีลปากบ่อ เพื่อป้องกันมลภาวะเป็นพิษ ในระหว่างขั้นตอนการรอการเคลื่อนย้ายกลับมายังแหล่งกำเนิด และระหว่างดำเนินการจะมีการปิดล้อมพื้นที่เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นกากอุตสาหกรรมดังกล่าว ขอให้ประชาชนคลายความวิตกกังวล คณะทำงานของจังหวัดจะดำเนินการตรวจสอบ ดูแลการปฏิบัติการเคลื่อนย้ายมาฝังกลบที่แหล่งกำเนิดทั้ง 2 บ่ออย่างเข้มงวดและเข้มข้น
สสจ.สมุทรสาครลงพื้นที่สุ่มตรวจ
วันเดียวกัน สำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านที่อยู่อาศัยตามชุมชนต่างๆที่อยู่รอบๆโรงงานพบว่ามีทั้งคนไทยและคนต่างด้าวอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก ได้มีการให้ความรู้ดูแลและให้คำแนะนำเบื้องต้นกับชาวบ้านพร้อมกับนัดหมายชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้ามารับการตรวจสุขภาพ พร้อมกับเฝ้าระวังและสุมเก็บตัวอย่างปัสสาวะหาสารแคดเมียมซึ่งจะทราบผลตรวจในไม่กี่วัน ตลอดจนมีทีมเยียวยาทางด้านจิตใจลงไปดูแลด้วยพบว่ามีประชาชนตระหนกและมีความเครียดเล็กน้อยยังไม่พบว่ามีใครซึมเศร้าแต่อย่างใด
และในวันที่ 9 เมษายนนี้จะมีการตรวจสุขภาพของประชาชนที่เหลืออยู่ในบริเวณใกล้เคียงโรงงานและพนักงานของโรงงานประสานเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโรงงานเพื่อนัดหมายพนักงานที่เกี่ยวข้องในการขนย้ายกากแคดเมียมในการให้ความรู้ในการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสมว่าควรจะปฎิบัติตนอย่างไร ตลอดจนทางสสจ.ได้เตรียมความพร้อมทีมสอบสวนโรคไว้ หากกรณีผลทางห้องปฎิบัติการผิดปกติ
สธ.รุดทำความเข้าใจชาวบ้าน
เจ้าหน้าที่หน่วยสาธารณสุข ภายใต้คำสั่งการของ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค มอบหมายให้ นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค,นพ.วิเชียร ตันสุวรรณนนท์ ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 5ราชบุรี, นายแพทย์พราน ไพรสุวรรณ์ ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5,นพ.สุรวิทย์ ศักดานุภาพ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และคณะแพทย์ ลงพื้นที่ประชุมชี้แจงร่วมกับ ตัวแทนชาวบ้าน ผู้นำชุมชน อสม. เจ้าหน้าที่ รพ.สต. ที่อยู่โดยรอบบริษัทฯ ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของแคดเมียม การเข้าสู่ร่างกาย ลักษณะอาการ และการรักษาหากได้รับพิษ ซึ่งในลักษณะแคดเมียมที่พบในซอยกองพนันพล พบว่า เป็นแคดเมียมที่ถูกทำลายพิษแล้ว แต่ ทางหน่วยงานสาธารณสุขจะตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งด้านการปนเปื้อนในสภาพแวดล้อม และในร่างกายประชาชน และจากที่มีการตรวจสุขภาพพนักงานไปส่วนหนึ่ง ไม่พบแคดเมียมในร่างกาย และพื้นที่ด้านนอกก็ไม่มีแคดเมียม มีเพียงการตกค้างภายในเท่านั้น ส่วนประชาชนทั่วไป ที่อยู่ด้านนอก ยังมีความเสี่ยงต่ำ
นายกฯ สั่งดำเนินการเร่งด่วน
ทางด้าน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง สั่งการดำเนินการ กรณีสารแคดเมียมเพื่อ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน โดยมีส่วนที่ดำเนินการแล้ว อาทิ กรมควบคุมมลพิษ ได้ดําเนินการเก็บตัวอย่างสิ่งแวดล้อมเพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อชุมชนแล้ว, สาธารณสุขสมุทรสาคร ได้ตรวจสุขภาพแรงงานภายในสถานประกอบการแล้ว, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร มีคําสั่งให้เคลื่อนย้ายกองกากแร่แคดเมียมที่อยู่ภายนอกโกดัง เข้าไปไว้ภายในโกดังโรงงานเพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของกากแคดเมียม และสําหรับกากแคดเมียมทั้งหมดได้มีคําสั่งให้ดําเนินการขนย้ายกลับไปยังแหล่งต้นทางโดยดําเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และให้ดําเนินการฝังกลบกากแคดเมียม ในพื้นที่เดิมให้ถูกต้องตาม EIA ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน
ในส่วนของ การตรวจสอบกากแคดเมียมที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงต่อความปลอดภัยนั้น นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ติดตามและนํากลับไป ฝังกลบ ติดตามการดําเนินการให้ถูกต้องและปลอดภัยตาม EIA ไม่ ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน รอบคอบ โปร่งใส ตรงไปตรงมา และให้ควบคุมอย่างเคร่งครัด ไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี