■■ “ไผ่ฎำ” ได้มีโอกาสขึ้นเหนืออีกครั้งโดยมีเพื่อนพ้องน้องพี่ที่สนิทเชื้อเชิญให้ไปดูของจริงสาเหตุสำคัญหลักอันหนึ่งที่เกิดหมอกควันพิษ (ที่เหมาเรียกกันว่าไฟป่า) เพราะเรื่องนี้หากไม่ดัดจริตกันก็ต่างรู้แก่ใจว่าไฟไหม้ป่าเกือบทั้งหมดเกิดจากน้ำมือมนุษย์ที่จงใจเผาป่า เผาเพื่อต้องการจะล่าสัตว์ และเผาเพื่อต้องการให้ได้เห็ดชนิดหนึ่ง (เห็ดถอบ หรือภาษากลางเรียกเห็ดเผาะ) ซึ่งมันงอกขึ้นมาภายหลังจากที่เศษใบไม้ในป่าถูกเผา และเห็ดชนิดนี้หายากมากออกผลปีละครั้ง และถ้าเศษใบไม้ไม่ถูกเผาก็แทบจะหาเห็ดชนิดนี้ไม่ได้ แต่เมื่อป่าพื้นราบถูกเผา หรือใบไม้ในป่าถูกเผาเห็ดพวกนี้จะงอกขึ้นมาทันที คนพื้นเมืองคนทางภาคเหนือต่างรู้ชั่วดีกันแทบทั้งสิ้น แต่ไม่มีใครพูดความจริง พอป่าถูกเผาชาวบ้านที่เป็นผู้กระทำควบคุมไฟไม่ได้ ไฟจะลุกลามกินพื้นที่บริเวณกว้าง แล้วสุดท้ายก็เหมาเรียกว่าไฟป่า...
■■ การเกิดไฟป่าก็รู้กันว่าจะเกิดเป็นหย่อมๆ ลุกลามแล้วค่อยๆ กระจายไป แต่การเจตนาจงใจเผาป่าเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นนั้นจะมีการจุดไฟด้วยน้ำมือมนุษย์ชั่วกระทำเป็นแนวยาว ไม่ละเว้นแม้กระทั่งข้างทาง...
■■ “ไผ่ฎำ” ได้รับการอธิบายชัดเจนว่า ธรรมชาติไฟป่าจะไม่เป็นเหมือนที่กำลังเกิด เพราะไม่มีไฟป่าทุเรศที่ไหนเกิดขึ้นตั้งแต่ข้างทาง ส่วนการเผาซากทางเกษตรนั้นก็จะมีลักษณะเป็นหย่อมๆ กลมๆไม่แผ่อาณาบริเวณกว้างใหญ่เท่าไหร่นัก และที่มักอ้างกันว่าสาเหตุของหมอกควันมาจากการเผาป่าของประเทศเพื่อนบ้านก็ถูกต้องส่วนหนึ่งทว่าสิ่งที่แลเห็นคือเผากันในประเทศ...
■■ ช่วงค่ำคืนของวันที่ 5 เมษายน 2567 ขณะที่ “ไผ่ฎำ” เดินทางด้วยรถยนต์เพื่อผ่านเข้าอำเภอลี้โดยต้องข้ามเขาผ่านอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ปรากฏว่าแค่ริมถนนทั้งสองข้างมีการจุดไฟเผาเศษใบไม้เป็นระยะๆ ตลอดเส้นทางที่รถวิ่งผ่าน ซึ่งลักษณะดังกล่าวหากบ้าจี้เรียกว่าไฟป่าก็สามารถบอกได้ทันทีเช่นกันว่า นั่นคือความอัปยศด้วยการโยนความผิดให้ธรรมชาติที่สร้างคุณประโยชน์แก่สรรพสิ่งที่มีชีวิตดื่มเสพใช้ แต่สิ่งมีชีวิตที่เลวร้ายทำลายธรรมชาติ คือ มนุษย์ ขณะสัตว์เดรัจฉานไม่เคยปรากฏว่าทำลายธรรมชาติหรือเผาป่าเลย ที่สำคัญยิ่งเดินทางก็ยิ่งเห็นเปลวไฟไปตลอดทาง และเห็นไฟไหม้ป่าเป็นแนวยาวทั้งพื้นราบและบนภูเขาไปตลอดเช่นกัน...
■■ เหตุการณ์ดังกล่าวอุบัติขึ้นช่วงนี้ทุกปี แปลกเรื่องดังกล่าวคนใหญ่คนโตของบ้านของเมือง อำเภอ จังหวัด ที่รู้ข้อเท็จจริงให้ข้อมูลสวนทางกับประชาชนผู้ไม่ดัดจริตสุดทุเรศยิ่ง และคนใหญ่คนโตในพื้นที่ก็แทบไม่มีใครยอมออกมาพูดความจริง หรือมุ่งเอามนุษย์จัญไรทำลายป่ามาลงโทษให้เข็ดหลาบ คงหลับหูหลับตาระห่ำพร่ำบ้าพูดกันว่าไฟป่าๆ ชนิดไร้ยางอายเสมอมาทุกปี ไฟป่าเริ่มต้นไหม้ตั้งแต่ข้างทางมนุษย์มีสมองทั่วไปที่ปกติย่อมทราบว่ามันไม่ใช่...
■■ ต้องไม่ลืมว่าการหวังผลหลังเผาป่านั้น คนในพื้นที่ๆ ไม่คิดถึงความฉิบหายของส่วนรวมมุ่งหวังเพื่อจะได้เห็ดของป่าราคาสุดแพงเพียงอย่างเดียว เห็ดหรือของป่าดังกล่าววันนี้ หากคัดแยกแล้วตกกิโลละ 400-500 บาททีเดียว แถมวันนี้ยังมีพ่อค้าหัวใสพัฒนาบรรจุเห็ดกระป๋องส่งต่างประเทศอีกด้วย...
■■ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการเผาป่าช่องทางหนึ่งนอกจากธรรมชาติล้างธรรมชาติอันเป็นเรื่องปกติที่ไม่เลวร้าย ด้วยเหตุดังกล่าวนักการเมืองภาคเหนือควรพูดความจริงกันเสียบ้างว่าไฟป่ามีที่มากี่ช่องทาง...
■■ เหนืออื่นใดคิดนึกกันบ้างหรือไม่ว่าเพราะเหตุใดไฟไหม้ป่าที่ทำความฉิบหายให้กับธรรมชาติทางภาคใต้จึงไม่มีเหมือนกับทางภาคเหนือ ทั้งๆ ผืนป่าทางภาคใต้ก็หนาแน่น...■■
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี