เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี เดินทางเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน พร้อมนำกล้องวงจรปิดมาแสดงให้ช่วยนำเสนอ เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะตนเองยังรู้สึกกลัว ว่าจะไม่ปลอดภัยในชีวิต เนื่องจากการก่อเหตุของกลุ่มวัยรุ่น ที่แสดงถึงความไม่มีความเกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด ทั้งที่จุดเกิดเหตุนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก วอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก และยังมีเจ้าหน้าที่เฝ้าประจำจุดเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวอีกด้วย
โดย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุช่วงเวลา 05.00 น.ของวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองและน้องสาวกลับออกมาจากวอล์คกิ้งสตรีท มายังลานจอดรถ สังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่จับกลุ่มสนทนาคล้ายจะมีเรื่องกัน ซึ่งรถ จยย.ของตนเองจอดอยู่บริเวณนั้น จึงบอกกลุ่มวัยรุ่นไปว่า พี่หนูขอรถหน่อยค่ะ ก่อนจะเอ้ยปากพูดกับน้องสาวด้วยความเมาว่า ไม่สนหรอกใครจะมีเรื่องกันแค่จะเอารถกลับบ้านเท่านั้น เพราะไม่ใช่เรื่องของตนเอง แต่กลุ่มวัยรุ่นเกิดได้ยินจึงหันมาต่อว่า ก่อนจะมีผู้หญิงปรี่เข้ามากระชากผมแล้วตบตี กระทืบซ้ำ มิหน่ำซ้ำยังมีผู้ชายอาศัยช่วงชุลมุนเข้ามาทำร้ายด้วย
หลังจากนั้นแฟนหนุ่มของตนมาถึงพอดี จึงยกมือไหว้กลุ่มวัยรุ่น แต่ด้วยความเจ็บและโมโหตนเองจึงตะโกนถามไปว่ามาทำร้ายกูทำไม สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างยิ่ง ผู้ชายรูปร่างใหญ่จึงชักอาวุธปืนขึ้นมาแล้วยิงขึ้นฟ้า 1 นัด พร้อมประกาศศักดิ์ดา ใครหน้าไหนจะตบเมียกู สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับตนเองรวมถึงนักท่องเที่ยวที่สัญจรในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก ถึงกับต้องพากันวิ่งหลบเพราะกลัวโดนลูกหลงจากความเหิมเกริมของมือปืนรายนี้ หลังเกิดเหตุตนเองรีบเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา หวังให้เจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ แต่ทว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้แยกย้ายไปแล้ว
ขณะที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ แต่ไม่สามารถบันทึกเสียงไว้ได้ โดย น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี พยายามจะขอเอารถ จยย.ออกจากลานจอดรถ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ทั้งผู้ชายและผู้หญิงกว่า 20 คน ยืนจับกลุ่มกันเต็มถนน โดยไม่สนใจว่าใครจะสัญจรผ่านไปมา ก่อนที่ผู้หญิงในกลุ่มจะกระชากศีรษะของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) แล้วเกิดการชุลมุนทำร้ายผู้เสียหายถึงสองรอบ ไม่นานผู้ชายรูปร่างท่วมสูงประมาณ 165 - 170 เซนติเมตร สวมเสื้อคลุมสีดำ ชักอาวุธปืนพกสั้นชูขึ้นฟ้า แล้วลั่นไกขู่ผู้เสียหาย 1 นัด สร้างความหวาดผวาให้กับนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินอยู่บริเวณนั้น ต้องพากันวิ่งหนีตายกันอย่างชุลมุน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการก่อเหตุอย่างเหิมเกริมป่าเถื่อน ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย รวมถึงสร้างความเสื่อมเสียภาพลักษณ์ให้กับเมืองท่องเที่ยวระดับโลกเป็นอย่างมาก ทั้งที่หน่วยงานภาครัฐนั้นมีมาตรการกวาดล้าง ดูแล และรณรงค์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาในช่วงสงกรานต์ แต่กลับถูกทำลายลงเพราะกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ จึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งล่าตัวผู้ก่อมาดำเนินคดี เพื่อกู้ภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นให้กับเมืองพัทยาด้วย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี