สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันฝุ่นPM2.5 ภาคเหนือยังวิกฤต “เชียงใหม่”ยังแชมป์เมืองอากาศแย่อันดับ 1 ของโลกขณะที่ฝุ่นควันหนักทุกอำเภอ แม้ ผวจ.ประกาศทำงานที่บ้าน 3 วันลดผลกระทบนายกฯสั่งยกระดับแก้ไขปัญหาไฟป่าฝุ่นพิษภาคเหนือผ่าน 9 มาตรการ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดสั่งทำฝนหลวงเพิ่ม ‘พัชรวาท’เผย’นายกฯ’สั่งตั้ง‘ศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาฝุ่นPM 2.5ทั้งภาคเหนือ’ให้แต่ละจังหวัดรับผิดชอบ ระดมยุทโธปกรณ์-กองทัพ-ขรก.ระดับสูงลงพื้นที่แก้ปัญหา-ประสานกต.-กองทัพ คุยเพื่อนบ้านงดเผา
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567สถานการณ์ฝุ่นควันไฟป่าและมลพิษอากาศจังหวัดเชียงใหม่ยังคงรุนแรงต่อเนื่องซึ่งสภาพตัวเมืองเชียงใหม่ฝุ่นควันปกคลุมหนาทึบจนไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพ ในระยะไกลได้
‘เชียงใหม่’จมฝุ่นควันอ่วมทั้งจว.
ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5)จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อน รอบเช้าวันนี้พบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 145 จุด มากที่สุดในพื้นที่ อ.เชียงดาว 21 จุด รองลงไป อ.แม่แจ่ม19 จุด, อ.ฮอด 18 จุด, อ.ฝาง 16 จุด, อ.อมก๋อย 14 จุด, อ.แม่แตง 14 จุด, อ.ไชยปราการ 11 จุด, อ.สันกำแพง 9 จุด, อ.พร้าว6 จุด, อ.สะเมิง 4 จุด, อ.แม่อาย 4 จุด, อ.กัลยาณิวัฒนา 3 จุด, อ.เวียงแหง 2 จุด, อ.ดอยสะเก็ด 2 จุด และอ.แม่วาง 2 จุด
ส่วนใหญ่ยังออกแม้ประกาศWFH
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ได้ออกประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2567ขอความร่วมมือให้หน่วยงานราชการและเอกชนพิจารณาการทำงานแบบ Work from Home ระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2567 เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
ในส่วนของหน่วยงานราชการพบว่าหลายหน่วยงานสามารถปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวได้ทันทีโดยเฉพาะศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา แต่พบว่าผู้คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องออกไปทำงานตามปกติ เนื่องจากผู้ประกอบการเอกชนยังคงเปิดตามปกติ รวมทั้งลูกจ้างจำนวนมาก เป็นผู้ใช้แรงงานและรับค่าจ้างเป็นรายวันที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้
เชียงใหม่รั้งอันดับ1โลกอากาศแย่
ขณะที่เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ และการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลกเมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 197 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 145 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาดังกล่าว อยู่ในอันดับที่ 1 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก อันดับ 2 ได้แก่ คูเวตซิตี้ ประเทศคูเวต ดัชนีคุณภาพอากาศ 194 US AQI และ อันดับ 3กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล 191 US AQI
พบ36จว.ค่าฝุ่นพิษเกินค่ามาตรฐาน
รายงานข่าวจากศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศระบุว่ารายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 9 เมษายน2567ณ 07.00น.สรุปภาพรวมปริมาณ PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.น่าน จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.กำแพงเพชร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.กาญจนบุรี จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.อำนาจเจริญ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์
นายกฯยกระดับแก้ฝุ่นผ่าน9มาตรการ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่าได้กำชับให้ยกระดับมาตรการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันฝุ่นละออง PM2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดยให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานผ่าน 9 มาตรการประกอบด้วย1.ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานทหารระดมลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยงรวมถึงบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ลักลอบเผาป่าทุกกรณี ย้ำทุกกรณีไม่มีการละเว้น 2.ให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำกับดูแลบังคับกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด 3.ให้กระทรวงมหาดไทย สั่งการจังหวัด กำนันผู้ใหญ่บ้านร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าระวังเสี่ยงต่อการเผา 4.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศ เขตความร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินและให้ประกาศเวิร์คฟอร์มโฮมตามความจำเป็น เพื่อผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน 5.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาตัดสินการรับความช่วยเหลือ การชดเชยต่างๆจากรัฐหากพบว่ามีการเผาในพื้นที่เกษตรกรของเอง 6.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพิ่มความถี่ ปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองอย่างเร่งด่วน และร่วมกับรายงานความมั่นคงในจัดหาเฮลิคอปเตอร์ให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือการดับไฟป่า
สั่ง‘บัวแก้ว’ยกระดับคุยเพื่อนบ้าน
7.ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดชุดเคลื่อนที่ลงเยี่ยมบ้านดูแลสุขภาพประชาชนอย่างทั่วถึง ทันท่วงทีและสนับสนุนอุปกรณ์ส่วนบุคคล สำหรับกลุ่มเสี่ยง 8.ให้สำนักงานงบประมาณ พิจารณางบกลางให้จังหวัดเพื่อให้ทันต่อการแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ตามความเหมาะสมและจำเป็นเร่งด่วน9.กรณีหมอกควันข้ามแดนให้กระทรวงการต่างประเทศยกระดับการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง พม่า และลาว ให้ลดการเผาป่าอย่างทันทีและตั้ง KPI ให้ชัดเจน
ทั้งนี้ นายกฯเปิดเผยด้วยว่าช่วงบ่ายจะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการทั้ง 9ข้อโดยมีพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน
นายกฯสั่งตั้งศูนย์ฯแก้ฝุ่นภาคเหนือ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯร่วมแถลงภายหลังประชุมถึงการแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5ที่จ.เชียงใหม่และภาคเหนือตอนบน โดย พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่านายกฯได้เน้นย้ำไว้3 เรื่องโดยให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปโดยให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะใน จ.เชียงใหม่ที่ต้องรับผิดชอบ 8 อำเภอที่ประกาศภัยพิบัติรวมถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จริงจังและให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เป็นผู้ให้ข่าวเพียงผู้เดียว คนอื่นไม่เกี่ยว พร้อมยืนยันว่าได้ทำงานบูรณาการตามนโยบาย 9 ข้อ ของนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาPM2.5เกิดขึ้นนานแล้ว แต่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯเพิ่งออกมาแอ็คชั่นช่วงนี้ถือเป็นความล่าช้าเกินไปหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท ยืนยันว่า”ไม่ล่าช้าเพราะที่ผ่านมาเราทำมาตลอด ไม่ใช่วัวหายแล้วล้อมคอก เราทำจริงจัง”
ลุยแก้ปัญหาฝุ่นเชียงใหม่ยึดแนวโควิด
ด้าน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวเสริมว่าพรุ่งนี้ศูนย์ปฏิบัติการที่เชียงใหม่จะมีความพร้อมในการแก้ปัญหา โดยมียุทโธปกรณ์จากกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรม ฝนหลวงฯที่จะเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ไปที่จ.เชียงใหม่ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาทได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย ส่วนกองทัพบกได้มีการประสานผ่านทางคณะกรรมการชายแดนทั่วไป พร้อมยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งในวันพรุ่งนี้ข้าราชการระดับซี10ขึ้นไปจะไปร่วมปฏิบัติการที่จ.เชียงใหม่จะใช้มาตรการคล้ายกับการแก้ปัญหาโควิด-19
ย้ำตั้ง’วอร์รูม’แก้ปัญหาฝุ่นทุกมิติ
นายจตุพรกล่าวถึงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯว่าจะครอบคลุมการแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5ในทุกมิติในการบริหารจัดการเช่นจุดฮอทสปอตหรือจุดความร้อนซึ่งการดูแลเบื้องต้นสำหรับประชาชนที่ประสบปัญหานั้น จะมีกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแล ในส่วนการบังคับใช้กฎหมาย เป็นหน้าที่ของตำรวจซึ่งในทุกจังหวัดจะมีการเปิดศูนย์ฯ และทางกระทรวงต่างๆ จะส่งเจ้าหน้าที่และข้อมูล เข้าไปร่วมในทุกศูนย์ของแต่ละจังหวัดที่มีปัญหาฝุ่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี