‘ชัชชาติ’สั่ง50เขต
ตรวจแคดเมียมทั่วกรุง639แห่ง
‘บิ๊กต่าย’ขู่เอาผิดจนท.รัฐมีเอี่ยว
ผู้ว่าฯกทม. “ชัชชาติ” ยันไม่พบสารแคดเมียมแพร่กระจาย-ปนเปื้อนในพื้นที่โดยรอบ ขอ ปชช. อย่าตกใจสั่งทุกเขตตรวจสอบโรงงาน-พื้นที่ลักษณะเดียวกันกว่า639 แห่งทั่วกทม.รายงานผลหลังสงกรานต์‘บิ๊กต่าย’ยันดำเนินคดีเด็ดขาดหากพบเจ้าหน้าที่รัฐมีเอี่ยวผู้การปทส.เผยเจ้าของโรงงานซุกแคดเมียม ย่านบางซื่อ เลื่อนเข้าให้ปากคำ 18 เม.ย.จ่อเอาผิด 4 ข้อหา เร่งสอบสวนขยายผล
เมื่อวันที่ 11เมษายน2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่ากทม.)กล่าวความคืบหน้ากรณีตรวจพบสารเคมีประเภทกากแคดเมียมที่เขตบางซื่อ ภายในบริษัท ล้อโลหะไทย เมททอล จำกัดว่า กทม.ได้ประสานงานกับปลัดและอธิบดีกระทรวงอุตสาหกรรมตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.เนื่องจากคาดการณ์ว่า เหตุเกิดที่ จ.สมุทรสาคร คาดว่ามีโอกาสเข้าสู่กรุงเทพฯแน่นอน เพราะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันจึงได้สั่งการให้ตรวจสอบโรงหล่อ โรงหลอม98แห่ง โรงเคลือบ 154 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ
‘ชัชชาติ’ชี้แคดเมียมไม่แพร่กระจาย
ส่วนพื้นที่เขตบางซื่อที่พบสารดังกล่าว ผู้ว่ากทม.กล่าวว่า เบื้องต้นเข้าใจว่าเจ้าของพื้นที่ได้นำสารแคดเมียมจากโรงงานที่จ.สมุทรสาครซึ่งเป็นญาติกันมาเก็บไว้โดยโรงงานที่เขตบางซื่อเป็นแหล่งเก็บวัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรม ตรวจพบสารแคดเมียมประมาณ98ถุง น้ำหนัก150 ตัน ไม่มีอันตรายรอบข้างเนื่องจากเป็นพื้นที่เฉพาะโกดังเท่านั้น โดยได้ประกาศเป็นพื้นที่อันตรายตามพรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้ว “ยืนยันว่าไม่มีการแพร่กระจายของสารแคดเมียมไปสู่ภายนอก ไม่ต้องตกใจครับ เราปิดกั้นเฉพาะตัวโรงงาน ไม่พบการแพร่กระจายใดๆทั้งสิ้น ไม่ใช่วัสดุอันตรายที่แพร่กระจายในอากาศจะเกิดอันตรายเฉพาะกรณีสัมผัสเป็นเวลานานพอสมควร“นายชัชชาติ กล่าว
สั่งทุกเขตตรวจโรงงาน639แห่งทั่วกทม.
นายชัชชาติกล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ได้ตรวจพบสารแคดเมียมในพื้นที่ดังกล่าวจริงแต่จากการเก็บตัวอย่างน้ำและดินรอบพื้นที่อาคาร ไม่พบการปนเปื้อน ซึ่งสารดังกล่าวจะเกิดอันตรายต่อเมื่อสัมผัสเป็นเวลานาน ขอให้ประชาชนอย่ากังวล เพราะยังไม่เกิดอันตรายใดทั้งสิ้น
“ขั้นตอนต่อไปได้สั่งการให้ทุกเขตตรวจสอบโรงงานหรือพื้นที่ลักษณะเดียวกันกว่า 639 แห่งทั่วกรุงเทพฯ และให้รายงานผลช่วงหลังสงกรานต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ หากตรวจพบ ให้สำนักงานเขตแจ้งความหากพบว่า มีการเก็บสารอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต”ผู้ว่ากทม.ย้ำ
‘บิ๊กต่าย’ลั่นเอาผิดจนท.รัฐเอี่ยว
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.)กล่าวถึงที่ประชาชนมีความกังวลว่าจะได้รับอันตรายจากกากแคดเมียมที่ซุกซ่อนในหลายพื้นที่นั้น เบื้องต้นได้มีการประกาศปิดบางพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้วซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทศกาลสงกรานต์ จึงไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อเข้าตรวจสอบมาโดยตลอด หากมีการแจ้งความดำเนินคดีก็จะบังคับใช้กฎหมายไปตามอำนาจหน้าที่ แต่จะมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาดำเนินการและรวบรวมสำนวนคดีที่เกิดขึ้นในหลายท้องที่มาไว้ที่เดียวกันหรือไม่ยังอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและพิจารณาความพร้อมก่อน
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวถึงส่วนการติดตามตัวนายเจษฎาหุ้นส่วนบริษัทเจแอนด์บี เมทอล จำกัดที่เช่าโกดังในต.บางน้ำจืด จ.สมุทรสาครสำหรับเก็บกากแคดเมียมเพื่อเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เก็บกากแคดเมียมว่ายังคงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายคือการออกหมายเรียกหากไม่มาตามหมายเรียกก็จะพิจารณาติดตามตัวต่อไปและหากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน
กรมศุลฯรับตรวจสอบด้วยตาเปล่ายาก
ด้านนายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ รองอธิบดีกรมศุลกากรกล่าวว่าจากการสอบถามข้อมูลกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ออกใบอนุญาตการนำเข้าส่งออกแร่และสินแร่ต่างๆทราบว่ากรณีนี้ตรวจพบกากแคดเมียมเกือบครบแล้วทั้งหมดยังไม่ได้มีการลักลอบส่งออกหรือสำแดงเท็จเพื่อเลี่ยงใบอนุญาตส่งออกไปต่างประเทศแต่อย่างใด ยอมรับว่าหากมีการสำแดงเท็จเป็นทองแดง กรมศุลกากรจะไม่สามารถตรวจสอบด้วยตาเปล่าได้ว่าเป็นแคดเมียมหรือไม่ ต้องใช้ผู้ที่มีความรู้จึงจะสามารถพิสูจน์ได้ การตรวจสอบสินค้าทางกรมศุลกากรจะเชื่อจากใบอนุญาตส่งออกเป็นหลักและยืนยันว่าที่ผ่านมากรมศุลกากรได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆกว่า 23 หน่วยงาน เพื่อกำกับดูแลสินค้านำเข้าส่งออกมาโดยตลอด
ปทส.เผยเจ้าของโรงงานเลื่อนให้ปากคำ
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ผบก.ปทส.)เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการนัดหมายให้นายเจษฎาเก่งรุ่งเรืองชัย กรรมการบริษัทเจ แอนด์บีเมททอลจำกัดมาให้ปากคำที่บก.ปทส.วันนี้ว่าหลังจากวันที่ 5 เม.ย.ที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครได้ร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทเจแอนด์บีฯทางเจ้าหน้าที่จึงได้รอการสอบสวนก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเจษฎาและโดยได้นัดหมายให้เข้ามาให้ปากคำวันนี้แต่นายเจษฎาขอเลื่อนไปวันที่18 เม.ย.67เนื่องจากอยู่ต่างจังหวัดจะต้องรอเอกสารเพื่อดูเหตุผลของการขอเลื่อนอีกครั้ง โดยนายเจษฎาอ้างว่าขอปรึกษาทนายเรื่องคำให้การก่อนและการเชิญมาให้ปากคำตามกำหนด
วันนี้เป็นเพียงแค่การเชิญมาให้ปากคำแต่ยังไม่ได้ออกหมายเรียกแต่หากมาให้ถ้อยคำแล้วจะต้องพิจารณาในเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาเพราะตอนนี้ข้อกล่าวหายังไม่ครบถ้วนและเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเนื่องจากการดำเนินคดีมีวัตถุอันตรายไว้ในครอบครองจะต้อง ประกอบด้วยพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.แร่, พ.ร.บ.สาธารณสุข และพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นจึงจะได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมกันทีเดียว
ยืนยันต้องถูกดำเนินคดีแน่รอผลสอบ
พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวอีกว่าส่วนเหตุผลที่ ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาเหมือนกับรายอื่นๆที่เข้าไปตรวจค้นทั้งที่จ.ชลบุรีและสมุทรสาครเพราะบริษัทเจแอนด์บีฯได้รับอนุญาตให้เป็นที่ปลายทางที่ลงของกากแคดเมียมการดำเนินการเรื่องครอบครองวัตถุอันตรายฯจึงต้องดูเจตนาก่อน เท่ากับว่าตอนนี้จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้แค่ผิดพ.ร.บ.โรงงาน ได้เท่านั้นรวมถึงรอเจ้าหน้าที่มาให้การเพิ่มเติมหลังจากพบแคดเมียมเพิ่มที่บริษัทเจแอนด์บีฯเมื่อวานนี้ด้วยและยืนยันว่านายเจษฎาก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่รอการสอบสวนก่อน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และไม่มีคนใหญ่คนโต หรือเจ้าตัวก็ไม่ได้เป็นคนใหญ่โตตามที่เป็นกระแสข่าว เป็นแค่คนธรรมดาที่ไปกู้ยืมเงินมาซื้อสินค้าล็อตนี้โดยเฉพาะ
จ่อเอาผิดเจ้าของโรงงาน4ข้อหา
ส่วนการดำเนินคดีกับนางวรรณาเจ้าของโรงงานที่ถูกตรวจพบแคตเมียมจำนวน150ตันในเขตบางซื่อ กทม.และนางวรรณาเป็นภรรยานายเจษฎา พล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นางวรรณา อ้างว่าไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกในการนำแคดเมียมมาและมีการทะเลาะกับสามีและน่าจะหาที่เก็บยังไม่ได้จึงเก็บไว้ที่โรงงานย่านบางซื่อซึ่งมีการนำเข้ามาฝากไว้ตั้งแต่ธ.ค.2566 และเป็นแคดเมียมที่เป็นของกลางล็อตต้นๆที่เคลื่อนย้ายมาจากจ.ตาก หลังจากนี้เจ้าของโรงงานจะถูกดำเนินคดี ในฐานเข้าข่ายความผิด มากกว่า1ข้อหา คือ ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต, พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.แร่
จากการเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้สืบเนื่องจากการตรวจสอบว่าในบริษัท เจแอนด์บีฯ มีใครเป็นกรรมการบริษัทบ้างพบชื่อนายเจษฎามีบ้าน 3 จุดคือชลบุรี,สมุทรสาครและกรุงเทพฯและเมื่อวานจะไปทำการส่งหมายเรียก เมื่อไปถึงว่าเจอกากแคดเมียมที่ถูกเก็บไว้จึงได้ประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาตรวจสอบ
เร่งนำสอบนายหน้ากันเป็นพยาน
ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวนายหน้าที่ชื่อนายกฤต หลังจากเข้าตรวจค้นโรงงานของนายจาง ที่จ.สมุทรสาครเมื่อวันที่7 เม.ย.พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวนายกฤตได้แล้วและได้สอบปากคำไว้เป็นพยานก่อน เบื้องต้นจากการสอบปากคำ พบนายกฤต เป็นพนักงานบริษัทเจแอนด์บีฯดูแลพื้นที่จ.ตาก แต่ถูกพักงานไปแล้วและนายกฤตก็ได้รับเงินค่านายหน้าจากการซื้อขายกากแคดเมียมที่ติดต่อกับนายจางรับเงินไปแล้ว 200,000บาทไปแล้ว โดยเงินค่านายหน้าทั้งหมด1,000,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่า นายกฤต เป็นนายหน้าให้กับเจ้าเดียวยังไม่พบข้อมูลให้เจ้าอื่น
เดินหน้าขยายผลเครือข่ายจีนเทา
สำหรับแนวทางการสืบสวนขยายผลและตามหากกากอุตสาหกรรมที่เหลือนั้นพล.ต.ต.วัชรินทร์กล่าวว่า จะเน้นไปที่การสอบสวนเพราะการสอบสวนจะสามารถใช้อำนาจพนักงานสอบสวนไปยึดไปตรวจสอบทำให้ได้ข้อมูลหลักฐานเพิ่มขึ้น ส่วนฝ่ายสืบสวนก็ยังคงทำงานอีกส่วนเช่นกัน และการดำเนินการที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นสอบสืบสวนขยายผลจากพยานเอกสารเป็นหลัก และพบบริษัทที่รับซื้อแคดเมียมมีแต่ชื่อของคนจีน การขายอยู่ที่ 22,000 หยวนต่อตัน แสดงว่าการค้าขายใช้เงินสกุลจีน ทำให้เห็นความเชื่อมโยงว่าสุดท้ายมีการส่งออกไปที่จีน
แต่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
สอบจนท.รัฐมีเอี่ยวขนแคตเมียม
อย่างไรก็ดี พล.ต.ต.วัชรินทร์ ระบุว่าส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐส่วนไหนช่วยเหลือหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเช่นกัน รวมถึงที่มีการตั้งข้อสังเกตตั้งแต่การขนย้ายจาก จ.ตาก มา จ.สมุทรสาครจะไม่มีเจ้าหน้าที่รับรู้เลยหรือไม่นั้น ก็อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี