สั่งกองทัพส่งสัญญาณถึงเมียนมา
ห้ามใช้น่านฟ้าไทย
นายกฯลั่นอย่าให้ปัญหาล้นออกมา
ทอ.พร้อมนำเอฟ-16ขึ้นสกัด
หากมีเครื่องบินรุกล้ำน่านฟ้า
กองกำลังฝ่ายต่อต้าน บุกยึดค่ายกองพัน 275 ทหารเมียนมา ที่เมียวดี สำเร็จ ชาวเมียนมาทะลักเข้าแดนไทย นายกฯ เศรษฐาเผยได้รับยืนยัน“เมียวดี”ยังไม่แตก สั่ง“กองทัพ-กต.”ส่งข้อความให้ชัดหากมีปัญหาภายใน อย่าให้ล้นออกมาถึงไทย ลั่นไม่ยอมให้ใช้“น่านฟ้าไทย” บอกขอดูจำนวนผู้อพยพ ก่อนขยายศูนย์พักพิง “ผบ.ทอ.”เผยพร้อมนำ “เอฟ-16”ขึ้นสกัด-ตอบโต้ภายใน 5 นาที หากเครื่องบินเมียนมารุกล้ำน่านฟ้าไทย ย้ำพร้อมปกป้อง 24 ชั่วโมงแม่ทัพภาคที่ 3 สั่งเพิ่มการลาดตระเวน คุมเข้มตลอดแนวชายแดน
เมื่อวันที่ 11เมษายน2567 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.) และเคเอ็นยู.พีซี.กลุ่มกะเหรี่ยงสันติภาพ และกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ.) ที่ค่ายผาซอง หรือกองพันทหารราบที่ 275 ของทหารเมียนมาที่จังหวัดเมียวดี ห่างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ตรงข้ามบ้านริมเมยต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ประมาณ 2 กิโลเมตร ว่า เมื่อเวลา 22.45น.วันที่ 10เม.ย. ตามเวลาในประเทศไทย ฝ่ายทหารเมียนมาประมาณ 400-500 นาย ได้ถอนตัวออกจากค่ายผาซองแล้ว โดยไปหลลบอยู่ในพื้นที่ป่า ทำให้ด้านฝ่ายต่อต้านเข้าไปยึดค่าย และได้ยึดอาวุธปืน พร้อมกระสุนปืนจำนวนมาก
ส่วนบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมายังมีการเปิดด่านพรมแดนตามปกติ ประชาชนชาวเมียนมายังคงเดินทางไปมา บางคนที่หนีภัยเข้ามาที่ อ.แม่สอด ก็กลับไปดูบ้านเรือน ทรัพย์สินของตัวเอง ทั้งนี้ฝ่ายชนกลุ่มน้อยไม่ต้องการปิดด่านพรมแดนไทย-เมียนมา จากการตรวจสอบพบว่า มีชาวเมียนมาทั้งเด็กที่มากขึ้น และผู้ใหญ่ทะลักเข้ามาที่ด่านพรมแดนมากขึ้นจนผิดสังเกต แม้นว่าเสียงปืนสงบก็ตาม
ด้านเจ้าหน้าที่ไทยยังคงเฝ้าระวังตามแนวชายแดนตลอด โดยการลาดตระเวนของทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด และตำรวจตระเวนชายแดน จากกองร้อยตชด.346 อ.แม่สอด ซึ่งมีการใช้ยานพาหนะหุ้มเกราะลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละฝ่ายสำหรับค่ายทหารเมียนมาที่ถูกฝ่ายต่อต้านยึดไปแล้วในพื้นที่ จ.เมียวดีคือ กองพัน 355 กองพัน 356 และกองพัน 357 ค่ายผาลู และค่ายผาซอง กองพัน 275 รวมทั้งหมด 5 ค่าย ซึ่งฝ่ายต่อต้านใช้เวลากว่า 1 เดือน และยังยึดอาวุธปืนค.ขนาดใหญ่ ปืนกล อาวุธประจำกายนานาชนิด รวมทั้งกระสุนปืนมากมาย นับเป็นประวัติศาสตร์แห่งการสูญเสียของทหารเมียนมา ที่รบกับฝ่ายชนกลุ่มน้อยมา รวมไปถึงทหารที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ทางด้านเมย์หว่อง ผู้สื่อข่าว แชนแนล นิวส์ เอเชีย ได้ทวิตยืนยันว่า กองกำลังเคเอ็นยูและเคเอ็นแอลเอ ได้ยืนยันว่าได้ยึดครองเมียวดีได้สำเร็จแล้ว
ขณะที่ สำนักข่าวย่างกุ้งโมเดิร์นนิวส์ ได้เผยแพร่ข่าวสารว่า เมื่อเวลา 04.50 น.ของวันที่ 11 เม.ย. ได้มีการโจมตีโดยขีปนาวุธกระแทก 5 ลูกภายในฐานทัพอากาศ Nay Pyi Taw Aelaสร้างความเสียหายให้กับอาคารโรงเก็บเครื่องบินซึ่งเป็นที่เก็บเครื่องบิน ขีปนาวุธกระแทกระเบิดใกล้กับศาลา Thingyanที่กำลังก่อสร้างสำหรับมิน อ่อง หล่ายและผู้นำทหารในช่วงเทศกาล Thingyan
การโจมตีดังกล่าวดำเนินการโดยกองกำลังป้องกันพลเรือนอัศวินภูเขา (MKCDF) ซึ่งจัดโดย Brave Warriors for Myanmar (BWM) ซึ่งได้ออกมาประกาศว่า ได้ทำการโจมตีสนามบินเนปีย์ดอว์จริงเป้าหมายหลักคือกองทัพอากาศสภาทหาร ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่สนามบิน NaypyitawAylaถูกโจมตี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์สู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(เคเอ็นยู) และเคเอ็นยู พีซี กลุ่มกะเหรี่ยงสันติภาพ และกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ) ที่สามารถเข้ายึดค่ายผาซอง หรือกองพันทหารราบที่ 275 ของทหารเมียนมา จ.เมียวดี ได้สำเร็จ ว่า เขายืนยันว่ายังไม่แตกและเป็นเรื่องภายในประเทศเขา แต่ได้กำชับไปยังกองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศให้ส่งข้อความอย่างชัดเจน ว่า หากมีปัญหาภายใน ก็อย่าให้ล้นออกมา และจะโทรศัพท์หาผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) หากมีการสู้รบกัน การใช้น่านฟ้าของไทยเราไม่รับ
เมื่อถามว่าได้สั่งการให้มีการสแตนด์บายเครื่องบิน F-16 ขึ้นบินดูแลน่านฟ้าไว้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนว่าเรามีอุปกรณ์ที่ตรวจสอบอยู่แล้ว ไม่อยากให้ก่อให้เกิดความตึงเครียด ทำอะไรก็ต้องระมัดระวังเพราะเขาก็เป็นเพื่อนบ้านเรา
ถามต่อว่าจะไม่ให้เครื่องบินของกองทัพเมียนมาล้ำน่านฟ้าเข้ามาในเขตแดนไทยเหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้ ก็คงต้องสั่ง
เมื่อถามถึงจุดในการรองรับผู้อพยพ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศออกมาระบุว่ารองรับได้ 100,000 คน แต่จากการประเมินอาจจะมีผู้อพยพมากขึ้นได้มีคุยในเรื่องนี้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ก็ต้องครับ ก็ต้องดูต่อไป ว่าปัญหาไปถึงขนาดไหน” พร้อมยืนยันสถานการณ์ในเมืองเมียวดี ขณะนี้ยังโอเคอยู่
พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีในการปกป้องรุกล้ำน่านฟ้าไทย จากการสู้รบภายในเมียนมา ว่า มีการเตรียมพร้อมเครื่องบิน F-16 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถขึ้นสกัดกั้นได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 นาที ซึ่งขณะนี้นายกฯยังไม่ได้โทร.มาสั่งการเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เพียงแต่มีการหารือก่อนหน้านี้ประเด็นไฟป่า แต่ยอมรับว่ามีการรายงานกับทางนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง คาดว่า รมว.กลาโหม รายงานนายกฯเรียบร้อยแล้ว
“เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องภายในประเทศเมียนมา แต่ถ้ามีการล้ำแดนก็จะต้องมีการตอบโต้ และนำเครื่องขึ้นเพื่อลาดตระเวน ซึ่งวานนี้ก็มีการลาดตระเวนแล้ว 1 ครั้ง โดยขณะนี้สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ส่วนความถี่ในการลาดตระเวนดูแลสถานการณ์หากยังไม่มีอะไรจะสแตนบายที่ภาคพื้น ระหว่างเหล่าทัพมีแผนในการปฏิบัติภารกิจร่วมกันอยู่แล้ว” ผบ.ทอ. กล่าว
พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์ของประเทศเมียนมานั้น ประเทศไทยก็ได้มีการเตรียมความพร้อม เตรียมกำลังไม่ให้มีการลุกล้ำเข้ามาในดินแดนเขตประเทศไทยและเตรียมการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมทางกองทัพภาคที่ 3 ได้มีการแจ้งเตือน ในส่วนของทางฝ่ายพม่าไปแล้ว และมีการขอความร่วมมือ เพื่อไม่ให้มีกระสุนเข้ามาในเขตพื้นที่ประเทศไทยและมีผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน หมู่บ้านไทยพม่าที่ติดชายแดน ถ้าจะมีการใช้อากาศยาน อย่างน้อยก็จะมีผลกระทบที่ชาวบ้านที่ข้ามมายังฝั่งไทยการใช้อาวุธกระสุนต่างๆ เชื่อว่าเขามีความระมัดระวังไม่ให้เข้ามายังฝั่งไทย และหากมีการข้ามเข้ามายังฝั่งไทย เราก็จะมีการตอบโต้ จากเบาไปหาหนัก
ส่วนการข้ามมายังฝั่งไทยมีความผิดปกติหรือไม่นั้น ในเรื่องของการค้าขายยังมีการข้ามมาค้าขายได้ตามปกติ โดยใช้สะพานมิตรภาพไทย-พม่าทั้ง 2 แห่งเท่านั้น มีการข้ามสัญจรไปมารวมถึงการส่งสินค้าข้ามแดนตรงนี้ อาจจะมีการลดลงไปบ้างเพราะว่าการเดินทางเข้าไปในเขตทางด้านตอนในของประเทศเมียนมาร์นั้นมีถนนและเส้นทางที่ไม่สามารถข้ามไปได้อาจจะมีการค้าขายลดลงไปได้บ้าง แต่ก็ยังคงมีการค้าขายได้ตามปกติ ส่วนทางช่องทางธรรมชาตินั้นเราไม่ได้อนุญาตให้มีการข้ามอยู่แล้ว ถ้ามีการข้ามทางช่องทางนี้ก็แสดงว่าเป็นการลักลอบข้ามมาอย่างผิดกฎหมาย ต้องมีการข้ามทางด้านสะพานเท่านั้น
ล่าสุดได้รับการยืนยันว่า กองพัน 275 ของรัฐบาลพม่าแตกแล้ว ยอมจำนนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ล่าสุดรัฐบาลทหารพม่ากำลังส่งทหารจากก๊อกอแระเข้ามาเมียวดีเพื่อตอบโต้ แต่ยังไม่ถึง ซึ่งสถานการณ์จังหวัดเมียวดียังปกติ ไม่แตก ไม่มีชาวพม่าอพยพข้ามน้ำเมย ในส่วนกองทัพภาคที่ 3 ได้สั่งเตรียมพร้อมและเพิ่มการลาดตระเวนเสริมกำลังคุมเข้มตลอดแนวชายแดนเวลานี้ ซึ่งเมืองเมียวดียังค้าขายปกติ ไม่แตก เพียงแต่กองพัน 275 ของทหารพม่าแตกแล้วเท่านั้น
ปานปรีย์พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศแถลงข่าวร่วมกับนายบุ่ยแทงห์เซิน รมว.ต่างประเทศเวียดนามในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการในหลายหัวข้อรวมถึงในประเด็นเมียนมาว่า ไทยและเวียดนามต่างต้องการให้เมียนมาเกิดสันติภาพ เสถียรภาพ และสันติภาพ โดย รมว.ต่างประเทศเวียดนามยินดีต่อความสำเร็จในการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมข้ามแดนจากไทยไปเมียนมาเมื่อเดือนที่แล้ว รวมถึงสนับสนุนข้อริเริ่มด้านมนุษยธรรมดังกล่าว ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามร่วมกันของอาเซียนในประเด็นเมียนมา “เราแสดงความกังวัลต่อสถานการณ์ที่เลวร้ายลงในเมืองเมียวดี ชายแดนเมียนมาติดประเทศไทย และเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่อาเซียนต้องออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันและตกลงร่วมกันว่าจะติดต่อสปป.ลาว ในฐานะประธานอาเซียนในเรื่องที่เร่งด่วนนี้” นายปานปรีย์กล่าว ทั้งนี้ นายปานปรีย์ มีกำหนดการลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตากในวันที่ 12 เม.ย.เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์บริเวณชายแดนล่าสุดและพบหารือกับผู้แทนระดับสุงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ก่อนที่จะสำรวจสถานการณ์ในพื้นที่และการเตรียมความพร้อมของฝ่ายไทย กรณีมีเหตุฉุกเฉิน ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี